วันนี้เด้ง!

* ก่อนจะเข้าสู่เรื่องเม้าท์ประจำวัน “โมนิก้า” ขอระบายความในใจให้แฟนคลับได้รู้ว่า การร่วงลงของดัชนีจนหลุดแนวรับสำคัญ 1,600 จุด ก่อนจะมีแรงซื้อจนเด้งกลับขึ้นมาปิดที่ระดับ 1,601.13 จุด ลบไป 11.85 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 8.31 หมื่นล้านบาท ไม่ได้ทำให้เดี๊ยนรู้สึกตระหนกเหมือนที่ “กองทุน” กับ “ฝรั่ง” แสดงอาการลนลานแต่อย่างใด เพราะมันเป็นเรื่องที่ทุกคนพอรู้เลา ๆ มาระยะหนึ่งน่ะสิ


* ก่อนจะเข้าสู่เรื่องเม้าท์ประจำวัน “โมนิก้า” ขอระบายความในใจให้แฟนคลับได้รู้ว่า การร่วงลงของดัชนีจนหลุดแนวรับสำคัญ 1,600 จุด ก่อนจะมีแรงซื้อจนเด้งกลับขึ้นมาปิดที่ระดับ 1,601.13 จุด ลบไป 11.85 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 8.31 หมื่นล้านบาท ไม่ได้ทำให้เดี๊ยนรู้สึกตระหนกเหมือนที่ “กองทุน” กับ “ฝรั่ง” แสดงอาการลนลานแต่อย่างใด เพราะมันเป็นเรื่องที่ทุกคนพอรู้เลา มาระยะหนึ่งน่ะสิ

* ด้วยเหตุนี้ถึงไม่แปลกใจที่กองทุนสาดหุ้นออกมามากถึง 2 พันล้านบาท ขณะที่ฝรั่งโยนหุ้นออกมาอีก 3 พันกว่าล้านบาท เพราะก๊วนหัวทองและหัวดำมักโหนกระแสประเด็นร้อนเป็นประจำ จึงเป็นเรื่องที่อยากทำความเข้าใจกับแฟนคลับเป็นลำดับแรก และอยากให้ทุกคนมองไปข้างหน้าพร้อมกันว่า เหตุการณ์ต่อจากนี้จะเป็นอย่างไร? หลังอารมณ์ของผู้คนในประเทศเริ่มมีชีวิตชีวาขึ้นมานิดหน่อยเจ้าค่ะ

* โดยเฉพาะในมุมของโครงการ “คนละครึ่ง” และ “ยิ่งใช้ยิ่งได้” กลายเป็นสัญญาณที่บอกให้ทุกคนรู้ว่า เดือนหน้าเม็ดเงินในระบบจะสะพัดสุด เพราะคนแห่ลงทะเบียนอย่างอุ่นหนาฝาคั่ง และถ้าเชื่อในทฤษฎีดังกล่าวแบบไม่มีอคติ วันนี้ตลาดหุ้นไทยก็ควรเด้งกลับอย่างมีนัยสำคัญ เพราะสามารถคาดหวังกำไรไตรมาส 3 จะออกมาดีแบบไม่กระดากใจเลยล่ะตัวเอง

* ส่วนเรื่องที่ทำให้ “โมนิก้า” รู้สึกละเหี่ยใจสุด ๆ น่าจะเป็นพฤติกรรมของโบรกเกอร์แห่งหนึ่งที่อยู่บนถนนรัชดา ซึ่งตอนนี้กำลังถวายตัวเพื่อเป็นสุนัขรับใช้พวกกลุ่มทุนจากแดนลอดช่องอย่างเต็มตัว โดยหลงลืมเรื่องความมั่นคงของประเทศไม่ควรเอาเงินนำหน้า ซึ่งเที่ยวนี้มีผู้คนในแวดวงตลาดหุ้นก่นด่าความหน้าเงินให้ฟังเยอะมาก เดี๊ยนจึงต้องกระโดดเข้ามาคลุกวงในเรื่องนี้กันอีกครั้งไงล่ะคะ

* ว่ากันว่า การไล่เก็บหุ้น INTUCH ก่อนทำเทนเดอร์ฯ คืองานถนัดของโบรกเกอร์แห่งนี้ แถมเคยฝากฝีมือให้ทุกคนประจักษ์มาแล้ว เลยทำให้โบรกเกอร์แห่งนี้มีเครดิตเพิ่มขึ้น แต่ลืมไปว่า งานนี้ไม่หมูอย่างแน่นอน เพราะประชาชนคงไม่ยอมให้ระบบ “สื่อสาร” และ “ดาวเทียม” ตกอยู่ในมือต่างชาติอีกแล้ว..ยิ่งมองเรื่องความมั่นคงและภัยคุกคามเป็นที่ตั้ง ยิ่งเป็นจังหวะที่ต้องช่วงชิงกลับมาเมื่อมีโอกาสนะคะ

* อย่างที่ทราบกันดีก็คือ เทคโนโลยีสมัยนี้สอดแนมความเคลื่อนไหวได้ทุกอย่าง และถ้าใครคิดมิดีมิร้ายกับผู้นำอย่าง “บิ๊กตู่” ก็แค่บังคับโดรนผ่านเทคโนโลยีทางไกลโดยปลายนิ้วสัมผัสแบบนี้ มันเป็นเรื่องที่น้องโมรับไม่ได้เหมือนกัน (ถึงเขาจะพูดจาไม่ค่อยรู้เรื่อง แต่เขาก็ยังมีส่วนดีหลายอย่าง) เดี๊ยนถึงอยากให้รัฐบาลลุงรับเรื่องนี้ไว้ และควรพิจารณาเป็นกรณีเร่งด่วน เพื่อความผาสุขของคนทั้งประเทศพะยะค่ะ

* ส่วนหุ้นที่เจ๋งเป้งสุด ๆ ในยามนี้ “โมนิก้า” คงต้องมองไปยัง 7UP ก่อนใครเพื่อนอีกตามเคย เพราะมีข่าวดีเข้ามาไม่ขาดสาย บวกกับมีภาพเซ็นสัญญาซื้อน้ำประปาภูเก็ตออกมาอย่างเป็นทางการ เท่ากับเป็นการส่งสัญญาณว่า ไตรมาส 4 ปีนี้บุ๊กรายได้เต็ม หุ้นเลยวิ่งขึ้นมาปิดที่ 1.86 บาท บวกไป 0.14 บาท หรือขึ้นไป 8.15% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 572 ล้านบาทแบบชิล ๆ นะจะบอกให้

* ส่วนรายที่มีลุ้นรอบใหม่อย่าง ASIAN น่าจะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ “โมนิก้า” อยากจะเม้าท์ถึงมากสุด เพราะหุ้นเพิ่งขยับขึ้นจากฐานวันที่สอง และการยืนปิดที่ 15.90 บาท บวกไป 0.30 บาท หรือขึ้นไป 1.90% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 898 ล้านบาท ก็เป็นการเทรดบนค่า PE 13.70 เท่า จึงกลายเป็นหุ้นที่มีความเสี่ยงต่ำในทันที และเหมาะสำหรับเล่นสั้นในภาวะผันผวนไปโดยปริยาย..จริงหรือไม่จริง!..ก็ลองคิดกันดูนะคะ

* ตรงกันข้ามกับหุ้นจอมปั่น AU อย่างสิ้นเชิง และเรื่องนี้ถูกตอกย้ำด้วยค่า PE ที่ปาเข้าไป 160 เท่า ซึ่งเป็นจุดที่ไม่มีใครบนโลกใบนี้รับได้ ยกเว้นกลุ่มคนที่ช่วยกันอมหุ้น และพยายามช่วยกันยกหุ้น “โมนิก้า” จึงตั้งคำถามการวิ่งขึ้นแรงเมื่อวันก่อนมีความหมายแค่ไหน? และการทิ้งตัวลงมาปิดที่ระดับ 11.50 บาท ลบไป 0.40 บาท หรือลงไป 3.35% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 94 ล้านบาท ใช่ของจริงหรือเปล่า? เพราะที่ผ่านมาก็หลอกคนไปติดดอยบานตะไท..จริงหรือเท็จอย่างไรลองไปถาม ต.สุวรรณ ดูสิจ๊ะ

Back to top button