ไปไม่สุด (อีกตามเคย)

* แม้ตลาดหุ้นไทยจะกลับขึ้นมายืนเหนือ 1,600 จุดได้ตามที่คาดหวังอีกครั้ง แต่กลับแสดงความเยาะแยะให้เห็นประปรายแบบนี้ “โมนิก้า” บอกได้ทันทีว่า งานนี้มีเสียวอย่างแน่นอน เพราะผู้เล่นหลักยังไม่พร้อมที่จะลงสนามแบบฟูลทีม ส่งผลให้การเล่นเที่ยวนี้เป็นเพียงการวอร์มทีมเพื่อรอเวลาจะลงสนามจริง จึงอยากให้ทุกคนเข้าใจสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างทะลุปรุโปร่งพะยะค่ะ

* เรื่องนี้เหมือนเป็นการย้ำหัวหมุดเรื่องที่ “โมนิก้า” เกริ่นนำให้ฟังตั้งแต่สัปดาห์ก่อนว่า นี่เป็นจังหวะของการย่ำฐานเพื่อทำให้แนวรับสำคัญทางจิตวิทยาแน่นขึ้น และในระหว่างทางจะเห็น “แรงซื้อ แรงขาย” ชักเย่อกันอีกพักใหญ่ ๆ โดยผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นในแต่ละวันจะแตกต่างกันเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่หลักใหญ่ใจความน่าจะเคลื่อนตัวในแนวไซด์เวย์ พร้อมกับเกาะเส้นแนวรับ 10 วัน และ 25 วันตรงบริเวณ 1,600 จุดอย่างเหนียวแน่นเจ้าค่ะ

* ฉะนั้นการที่ดัชนีพุ่งขึ้นไปทำจุดสูงสุดบริเวณ 1,613.66 จุด ก่อนจะย่อตัวลงมาปิดที่ 1,599.23 จุด ลบไป 1.90 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 8.15 หมื่นล้านบาท เหมือนเป็นการชี้ให้เห็นว่า ดัชนีต้องวนเวียนไปมาแถวนี้อีกพักใหญ่ ๆ เพราะหุ้นแกนหลักยังไม่ถูกดันขึ้นมาเล่นเป็นตัวจริง บวกกับผู้เล่นส่วนใหญ่กำลังตั้งตารองบไตรมาส 2 จะออกมาดีขนาดไหน? ส่งผลให้ตลาดหุ้นไทยไปไม่สุดอีกตามเคยนะจะบอกให้

* เหมือนกับลักษณะของหุ้น RCL ที่ไต่ระดับขึ้นเรื่อย ๆ ตามข่าวดีที่โปรยออกมาเป็นระลอก แต่วานนี้กลับโดนสาดโครมเดียวแบบไม่มีเยื่อใย จนราคาหุ้นทรุดฮวบลงมาปิดที่ 54.50 บาท ลบไป 5 บาท หรือลงไป 8.40% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.78 พันล้านบาท น่าจะเป็นจังหวะที่ทำให้นักเล่นผิดหวังไปตาม ๆ กัน เพราะมองในมุมของ PE 11 เท่า ก็ถือเป็นจุดที่ยังเล่นได้ แต่มองในมุมของการผ่านจุดพีค ก็ต้องคิดกันหนักหน่อยจ้า!

* เช่นเดียวกับในรายของหุ้นบันเทิงเริงรำ BEC พยายามไต่เพดานบินขึ้นอีก แต่สถานการณ์หลายอย่างไม่เอื้อให้ไปต่อ จึงร่วงลงมากองอยู่ที่ระดับ 13.40 บาท ลบไป 0.30 บาท หรือลงไป 2.20% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 241 ล้านบาท ซึ่งเป็นฐานเก่าที่เคยเล่นกันมาพักหนึ่งนั้น ก็เป็นจังหวะที่ “น่ารัก น่าลุ้น” ไม่ใช่น้อย โดยเฉพาะคนที่ถนัดเล่นสั้น ๆ ถือเป็นเกมที่ไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่งจ้า

* ส่วนรายที่ทำท่าเหมือนจบรอบอย่างหุ้น EPG กลายเป็นอีกหนึ่งประเด็นที่ทำให้ “โมนิก้า” ต้องออกโรงเม้าท์ถึงเป็นพิเศษ เพราะในมุมของกำไรที่มีแนวโน้มโตได้อีก น่าจะทำให้ราคาหุ้นไปต่อแบบสบายบรื๋อสะดือโบ๋กันเลยทีเดียว ผสานกับหุ้นเทรดบน PE 26 เท่า ซึ่งไม่สูงเกินไปสำหรับหุ้นที่ส่อแววไปได้ดีเสียด้วย เดี๊ยนถึงอยากให้ประเมินการยืนปิดที่ 11.10 บาท ลบไป 0.30 บาท หรือลงไป 2.60% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 181 ล้านบาท น่าสนใจอ่ะป่าว?

* ในเมื่อมุ่งสู่เรื่องคาดหวังเป็นหลัก “โมนิก้า” ต้องหยิบยกหุ้นโรงหนัง MAJOR ขึ้นมาเม้าท์แตก เพราะมองในมุมของผลขาดทุนตั้งแต่ปีก่อน ลามมาถึงไตรมาส 1 และกระทบชิ่งมายังไตรมาส 2 ย่อมเป็นหุ้นที่ควรเฝ้าระวังแบบห่าง ๆ แต่กลายเป็นว่า ในช่วงหนึ่งเดือนหุ้นวิ่งจากระดับ 18 บาท ขึ้นไปทำราคาสูงสุดแถว 26 บาท ก่อนจะโรยตัวลงช้า ๆ จนมาปิดที่  24.40 บาท ลบไป 0.20 บาท หรือลงไป 0.80% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 293 ล้านบาท มันคืออิหยังว่ะ!

* คล้ายกับกรณีของ PLANB มันมีจุดที่ทำให้สังคมต้องฉุกคิดกันอีกตามเคย หลังราคาหุ้นไต่ระดับขึ้นอย่างช้า ๆ จนสร้างฐานบริเวณ 6.50 บาทได้ร่วมสองสัปดาห์ จึงเป็นช็อตที่น่าสนใจขึ้นมาทันทีว่า เที่ยวนี้จะไปได้ไกลแค่ไหน? หลังหุ้นอ่อนตัวลงมายืนปิดที่  6.60 บาท ลบไป 0.05 บาท หรือลงไป 0.75% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 102 ล้านบาท จึงฝากไว้คิดเป็นการบ้านนะจ๊ะ

* สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด อีโมเห็นโพสต์ในเฟซบุ๊กส่วนตั๊วส่วนตัวของ Banyong Pongpanich ผ่านตาแว่บ ๆ ก็รู้สึกแสบสะท้านต่อมฟีโรโมนเม็ดเล็ก ๆ ขึ้นมาในบัดดล เพราะพี่แกเอาเรื่องเสมือนจริงมาเล่นแซวนายกตู่ของอิฉันเข้าให้แบบแรง ๆ ชนิดที่เรียกว่ากำลังเมาหมัดโควิดเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ก็แทบจะล้มก้น (เหี่ยว) จ้ำเบ้าไปเสียนี่กระไร!

* เที่ยวนี้คุณพี่เตา ซึ่งมีตำแหน่งหน้าตาเป็นถึงท่านประธาน “หลักทรัพย์ภัทร” เขียนเอาไว้ว่า “ผมหลีกเลี่ยงที่จะพูดสปีช หรือให้สัมภาษณ์ภาษาอังกฤษมาตลอด เพราะครูสอนอังกฤษของผมเป็นท่านเดียวกับที่สอนท่านนายกฯ (วชิราวุธใช้อาจารย์อังกฤษจาก จปร….อาจารย์ท่านดีนะครับ แต่ผมห่วยเอง) แถมท่านนายกฯ สอบได้ที่ 1 ส่วนผมได้ที่โหล่”

* ไม่เพียงเท่านั้น! คุณพี่เตายังเอาคลิปลุงตู่ให้สัมภาษณ์สื่อฝรั่งสมัยยึดอำนาจเสร็จใหม่ ๆ ซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องกลัดกระดุมผิดเม็ดมาลงประกอบด้วยเสียนี่!..เหน็บแรงแบบนี้ทำให้ “โมนิก้า” ที่เป็นสาวกร้านโลก รู้สึกว้าวุ่นใจเกี่ยวกับท่าทีของคุณพี่สุด ๆ..ตกลงคิดกับลุงอย่างไร? ทั้งที่ลุงไว้วางใจให้ช่วยทำงานใหญ่ ๆ ซึ่งมีทั้งดันโออาร์เข้าตลาดฯ และให้ช่วยทำแผนฟื้นบินไทย คุณพี่ก็ฟาดเรียบไม่ใช่เหรอ!..เดี๊ยนเลยสงสัยท่าทีแบบนี้เขาเรียกว่าอะไร?..อิอิอิ