หุ้นเล็กมาดี (ยกแผง)
* สถานการณ์หุ้นไทยในห้วงเวลาย่ำฐานเพื่อทำให้แนวรับ 1,600 จุดแน่นขึ้น มักมีอาการเลือดลมไม่ปกติให้เห็นเป็นประจำ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่บางวันมีลูกฮึดขึ้นมาอีกครั้ง และในบางคราก็อ่อนระทวยเป็นขี้ผึ้งลนไฟ เพราะปัจจัยที่มีผลต่อการลงทุนไม่นิ่งสักอย่าง ทำให้นักเล่นเลือกใช้กลยุทธ์เข้าทำเร็วเพื่อความคล่องตัว ส่งผลให้ดัชนีแกว่งตัวผันผวนต่อไปแบบไม่มีกำหนดนะนายจ๋า!
* สถานการณ์หุ้นไทยในห้วงเวลาย่ำฐานเพื่อทำให้แนวรับ 1,600 จุดแน่นขึ้น มักมีอาการเลือดลมไม่ปกติให้เห็นเป็นประจำ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่บางวันมีลูกฮึดขึ้นมาอีกครั้ง และในบางคราก็อ่อนระทวยเป็นขี้ผึ้งลนไฟ เพราะปัจจัยที่มีผลต่อการลงทุนไม่นิ่งสักอย่าง ทำให้นักเล่นเลือกใช้กลยุทธ์เข้าทำเร็วเพื่อความคล่องตัว ส่งผลให้ดัชนีแกว่งตัวผันผวนต่อไปแบบไม่มีกำหนดนะนายจ๋า!
* สาเหตุที่เป็นเช่นนั้นมาจากสังคมไทยยังวุ่นวายกับเรื่องวัคซีนไม่เลิกสักที! แถมคนดังบางคนในประเทศเลือกพูดแต่ในมุมที่เป็นความรู้สึกส่วนตัว โดยหลงลืมข้อเท็จจริงบางอย่างที่มีขั้นตอนชัดเจนอยู่แล้ว (รัฐบาลสื่อสารห่วยแตก) “โมนิก้า” เลยไม่แปลกใจที่ข้อมูลในแต่ละวันมันบิด ๆ เบี้ยว ๆ และมีการโต้ตอบกันไปมาบนสื่ออย่างบ้าคลั่ง ซึ่งไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้นแม้แต่นิดเดียวพะยะค่ะ
* ประเด็นดังกล่าวทำให้เดี๊ยนของขึ้นทันที! เพราะแต่ละตัวที่ออกมาเห่าหอน พร้อมกับพ่นน้ำลายแตกฟองในลักษณะทำเพื่อประชาชน น่าจะเป็นเพียงวาทะกรรมที่ต้องการโจมตีทางการเมืองเท่านั้น! “โมนิก้า” ในฐานะคนที่ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดจึงขอพูดว่า ช่วงนี้น่าจะอยู่นิ่ง ๆ กันสักพักก่อนไหม (ม็อบสู้แล้วรวยก็ควรหยุดได้แล้ว เพราะคนกันเองออกมาแฉเรื่องเงินบริจาคแหลกลาญ ยังมีหน้ามาเรียกร้องประชาธิปไตยอีกเหรอ) และทางที่ดีก็ควรร่วมมือกันแก้ปัญหาโควิดระบาดก่อนได้ไหม..ต่อจากนั้นจะฟัดกันเหมือนหมาข้างถนนอีกยกก็เชิญกัน ตามสบายเจ้าค่ะ
* ในเมื่อวันนี้ยังไม่มีเรื่องอะไรที่นิ่งสักอย่าง คงหวังอะไรกับตลาดหุ้นได้ไม่มากนัก และการยืนปิดของดัชนีที่ระดับ 1,592.08 จุด ลบไป 7.15 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 7.77 หมื่นล้านบาท ถือว่าบุญกะลาหัวแล้ว! ซึ่งทำให้โมเมนตัมของแมงเม่าหันไปหาหุ้นกลางและหุ้นเล็กกันเป็นแถว เพราะหุ้นเหล่านี้ปลอดแรงขายจากกลุ่มนักลงทุนหัวดำหัวทอง จึงกลายเป็นประเด็นที่น่าเม้าท์ถึงมากสุดนะจ๊ะ
* โดยเฉพาะในรายของน้าเน็ก NEX ทะยานขึ้นมาปิดที่ 6.35 บาท บวกไป 0.65 บาท หรือขึ้นไป 11.40% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 315 ล้านบาท หลายคนอาจมองเป็นการวัดแรงซื้อมีมากขนาดไหนเหมือน 2 ครั้งก่อนก็จริง แต่เที่ยวนี้มีสตอรี่ที่เป็นรูปธรรมมากกว่าครั้งก่อน ๆ หลังพรายกระซิบได้ข่าวแว่ว ๆ เพิ่งส่งรถบัสไฟฟ้าชิมลางไปแล้ว 2 คัน และจะส่งรถให้ลูกค้าไปเรื่อย ๆ จนครบ 400 คันในสิ้นปีนี้..มันมีนัยสำคัญไหมล่ะจ๊ะ
* อาการข้างต้นคล้ายกับอี GREEN ไม่มีผิดเพี้ยน โดยเฉพาะเสต็ปการขยับตัวของราคาหุ้น ก็ออกมาในโทนเดียวกันเป๊ะ ๆ “โมนิก้า” ถึงอยากให้แฟนคลับประเมินการขึ้นมาปิดที่ 1.81 บาท บวกไป 0.18 บาท หรือขึ้นไป 11% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 203 ล้านบาท ซึ่งเป็นการเทรดบน PBV 1.70 เท่า และตัวยังมีโอกาสเบ่งกำไรได้อีกแบบนี้ มันเป็นช็อตที่เสือปืนไวต้องเลือกแล้วว่า เอาไงดีเจ้าค่ะ
* ในเมื่อซัดกันในโทน “ลุยแหลก แหกทุกกฏ” ย่อมมีชื่อของ PK เข้ามาร่วมเฟรมด้วยอย่างแน่นอน เพราะมุกที่เอามาเล่นเที่ยวนี้เป็นเรื่องของกำไรโต หลังงบไตรมาส 1 ออกมาสะแด่วแห้ว วานนี้จึงเป็นจังหวะสับเกียร์ห้า เพื่อทำให้โลกรู้ว่า มีเจ้า..อุ๊ย..มีของ วานนี้จึงเห็นหุ้นขึ้นมาปิดที่ 3.14 บาท บวกไป 0.38 บาท หรือขึ้นไป 13.80% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 196 ล้านบาท พร้อมกับทำนิวไฮในรอบ 2 ปี 7 เดือนแบบชิล ๆ ไงล่ะคะ
* ส่วนรายที่สุดติ่งกระดิ่งแมวตายเบื่อ “โมนิก้า” คงมองไปที่หุ้น TPLAS หลังหุ้นวิ่งขึ้นมาชนซิลลิ่ง ก่อนจะปิดที่ ระดับ 3.14 บาท บวกไป 0.72 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 528 ล้านบาท พร้อมกับทำ all time high มันเป็นเกมโหดสำหรับคนที่มองเรื่องธุรกิจจะโตได้อีกไหม? แต่สำหรับพวกขาลุยที่นิยมชมชอบหุ้นต่ำสิบจนเป็นสันดาน..นี่ถือเป็นเกมที่ต้องแลกหมัดจนยับไปข้างหนึ่ง..ไม่เชื่อรอดู แล้วกัน..อิอิอิ
* ตบท้ายกันที่ตำนานหุ้นจอมปั่น KIAT กันสักหน่อย! หลังได้ยินข่าวเม้าท์ว่า กลุ่มเด็กดื้อที่โดนกล่าวโทษไม่ยอมจำนนกับคำสั่งของ ก.ล.ต. ส่งผลให้ผู้พิทักษ์ตลาดหุ้นจัดชุดใหญ่ด้วยการฟ้องศาลแพ่งเพื่อเรียกให้เสียค่าปรับ 226 ล้านบาท และส่งเรื่องให้ ปปง. ลงดาบสองแบบนี้ “โมนิก้า” อยากรู้จริง ๆ ว่า เกียรติชัย – สุรพงษ์ – กิ่งกาญจน์ – ประพล จะเอาไม้ไหนมาสู้? เพราะผู้ร่วมขบวนการรายอื่น ๆ ยอมมอบตัวเสียค่าปรับกันหมดแล้ว! เดี๊ยนเลยกังวลว่า โทษเบาจะกลายเป็นโทษหนักก็อีคราวนี้แหละ..ที่พูดเตือนสติ ก็เพราะรักทุกคนนะ..จุ๊บ..จุ๊บ!