เงินไหลออกรุนแรง
* ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ..ฉันมีเสื้อให้เธอใส่ ฉันมี..ให้เธอดูด ฉันมี..ให้เธอดม ซึ่งเป็นเพลงบ้าน ๆ ที่นิยมร้องแก้เซ็ง ไปวัน ๆ “โมนิก้า” เลยนำเนื้อร้องท่อนนี้มาขับกล่อมเพื่อทำให้สบายอารมณ์ หลังดัชนีทรุดฮวบต่อเนื่องเป็นวันที่สาม (ระหว่างวันลงไปทำจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,569.93 จุด) ก่อนจะเด้งกลับขึ้นมาปิดไปที่ระดับ 1,585.72 จุด ลบไป 6.36 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 8.91 หมื่นล้านบาท มันทำให้รู้ว่า สถานการณ์ตอนนี้ไม่ปกติเหมือนที่เคยคาดการณ์ไว้ก่อนหน้าไงล่ะคะ
* ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ..ฉันมีเสื้อให้เธอใส่ ฉันมี..ให้เธอดูด ฉันมี..ให้เธอดม ซึ่งเป็นเพลงบ้าน ๆ ที่นิยมร้องแก้เซ็ง ไปวัน ๆ “โมนิก้า” เลยนำเนื้อร้องท่อนนี้มาขับกล่อมเพื่อทำให้สบายอารมณ์ หลังดัชนีทรุดฮวบต่อเนื่องเป็นวันที่สาม (ระหว่างวันลงไปทำจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,569.93 จุด) ก่อนจะเด้งกลับขึ้นมาปิดไปที่ระดับ 1,585.72 จุด ลบไป 6.36 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 8.91 หมื่นล้านบาท มันทำให้รู้ว่า สถานการณ์ตอนนี้ไม่ปกติเหมือนที่เคยคาดการณ์ไว้ก่อนหน้าไงล่ะคะ
* ประกอบเงินบาทดันเกิดอาการอ่อนค่าต่อเนื่องเป็นเวลา 9 วันติด จนล่าสุดขึ้นมาใกล้ 32 บาท จากก่อนหน้าเคยยืนอยู่แถว ๆ 31 บาท ซึ่งเป็นการอ่อนค่ามากสุดในรอบ 13 เดือน เท่ากับเป็นการย้ำหัวหมุดให้รู้ว่า ประเทศไทยกำลังเผชิญกับปัญหาเงินไหลออกอย่างรุนแรง และเรื่องนี้กระทบโดยตรงกับตลาดหุ้นไทย จึงต้องทำใจยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้นแต่โดยดี เพราะตลาดหุ้นไทยมีแววจะไหลลงไปเรื่อย ๆ นะจ๊ะ
* สถานการณ์ดังกล่าวทำให้หุ้นบลูชิพโดนกองทุนในประเทศกระหน่ำขายกันเป็นแถว จนราคาหุ้นรูดทะลุแนวรับสำคัญลงไปอย่างง่ายดาย และทำให้เดี๊ยนนั่งตัวเกร็งไม่กล้าละทิ้งสายตาจากกระดานหุ้น เพราะกลัวพลาดช็อตเด็ดที่จะเกิดขึ้นในช่วงบ่าย แต่สุดท้ายก็ไม่มีอะไรที่ทำให้กังวลใจแต่อย่างใด “โมนิก้า” เลยเป่าปากโล่งใจไปได้เปลาะหนึ่ง และต้องมาลุ้นระทึกอีกยกหนึ่งว่า วันนี้จะ “ออกหัว” หรือ “ออกก้อย” พะยะค่ะ
* ส่วนรายที่ลุ้นไม่ขึ้นอย่างแบงก์สีเขียว KBANK ยังเป็นของแสลงสำหรับตัวเดี๊ยนเหมือนเดิม เพราะมองในมุมของแรงขายที่มีเยอะเหลือเกิน ทำให้โอกาสขึ้นของหุ้นตีบตันสุด ๆ ผนวกกับเศรษฐกิจในประเทศยัง “ลูกผี ลูกคน” จึงมองไม่เห็นโอกาสที่หุ้นจะผงกหัวขึ้นอย่างบูรณาการ จึงอยากให้แฟนคลับประเมินการยืนปิดที่ 119.50 บาท ลบไป 0.50 บาท หรือลงไป 0.40% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.73 พันล้านบาท ใช่จังหวะซื้อสวนอ๊ะป่าว?
* เหมือนกับในรายของหุ้นลูกอ๊อด AOT โดนพวกกองทุน “กระหน่ำขาย กระหน่ำซื้อ” เป็นรอบ ๆ ตลอดระยะเวลา 8 เดือน จนหุ้นเคลื่อนตัวในลักษณะ W-Shape บนกรอบราคา 60-70 บาทแบบนี้ ย่อมเป็นอีกหนึ่งหุ้นที่ “โมนิก้า” ให้ความสนใจมากเป็นพิเศษ หลังหุ้นลงมาทำโลว์แถว 63 บาท ก่อนจะเด้งกลับขึ้นมาปิดที่ระดับ 64 บาท ลบไป 1.75 บาท หรือลงไป 2.65% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.89 พันล้านบาท แจ๋วดีไหมล่ะคะ
* สำหรับรายของ RATCH คงโดนแรงกดดันเพิ่มทุนเล่นงานต่อไปอีกพักใหญ่ ๆ ผสานกับเจอภาวะไม่เอื้อเข้าอีกดอก “โมนิก้า” เลยมองไม่เห็นโอกาสที่หุ้นจะดีดกลับในระยะสั้น ส่งผลให้การยืนปิดที่ระดับ 45.25 บาท ลบไป 1.75 บาท หรือลงไป 3.70% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.96 พันล้านบาท ถือว่าโชคดีสุด ๆ เพราะมองจากการปรับเป้าใหม่เหลือแค่ระดับ 35 บาท จึงเป็นเรื่องที่เสี่ยงมาก ๆ สำหรับคนที่คิดจะเล่นเจ้าค่ะ
* ขนาดหุ้นที่มีพื้นฐานแน่นเปรี๊ยะอย่าง SAWAD ยังถูกรินขายออกมาเรื่อย ๆ ทั้งที่ 2 เดือนก่อนหน้านี้ ยังป้วนเปี้ยนไปมาแถว 90 บาท แต่ล่าสุดหุ้นยืนปิดที่ระดับ 68.75 บาท ลบไป 1.75 บาท หรือลงไป 2.50% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.12 พันล้านบาท มันเป็นภาพที่ชี้ให้เห็นว่า เที่ยวนี้ฝรั่งถอยทัพกลับฐานจริง ๆ และคงต้องให้เวลากับการหาฐานอีกระยะหนึ่ง ต่อจากนั้นถึงจะเห็นอะไรเป็นรูปธรรมมากขึ้นนะออเจ้า!
* ส่วนรายที่น่ากังวลสุด ๆ อีกรายคือ COM7 เพราะภาพใหญ่ของหุ้นอยู่ในลักษณะโค้งตัวลง ขณะที่ภาพย่อยเป็นลักษณะของการไซด์เวย์ “โมนิก้า” จึงอยากให้แฟนคลับประเมินการยืนปิดที่ 69 บาท ลบไป 1.50 บาท หรือลงไป 2.10% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 794 ล้านบาท โดยมีเส้นแนวรับ 75 วันที่บริเวณ 65 บาท เป็นจุดวัดใจผู้เล่นแบบนี้..สมควรที่จะเข้าไปเล่นหรือเปล่า?..ลองคิดกันดูเจ้าค่ะ
* คล้ายกับกรณีของ GLOBAL ที่อยู่ในอาการไหลลงเรื่อย ๆ จนวานนี้ยืนปิดที่ 20.70 บาท ลบไป 0.30 บาท หรือลงไป 1.40% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 227 ล้านบาท ท่ามกลางสถานการณ์กองทุนกำลังลดพอร์ตอย่างหนัก ล้วนเป็นภาพที่ทำให้ “โมนิก้า” เกิดความกังวลอย่างหนักว่า หุ้นจะลงไปตั้งฐานแถว 19.50 บาท ซึ่งเป็นจุดที่มีเส้น 200 วันเข้ามารับเป็นเส้นสุดท้ายพอดี จึงอยากให้ทุกคนจับตาดูเหตุการณ์ให้ดีว่า เอาอยู่ไหม?..อิอิอิ