งัดไม่ขึ้น

* อุ๊ยตาย..ว้ายกรี๊ด! ในที่สุดความหวังที่จะได้เห็นดัชนียืนหยัดอย่างแข็งแกร่ง ก็กลายเป็นเพียงคำพูดลอย ๆ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ซึ่งเป็นการตอกย้ำให้ “โมนิก้า” พึงสำเหนียกเรื่องตัวเลขเศรษฐกิจ และการระบาดของโควิดมากขึ้น รวมทั้งสิ่งที่ทุกคนได้เห็นในเที่ยวนี้ก็เป็นการชิงไหวชิงพริบในการลงทุน ส่งผลให้บรรยากาศของตลาดหุ้นอลเวงอย่างที่เห็นนี่แหละค่ะ


* อุ๊ยตาย..ว้ายกรี๊ด! ในที่สุดความหวังที่จะได้เห็นดัชนียืนหยัดอย่างแข็งแกร่ง ก็กลายเป็นเพียงคำพูดลอย ๆ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ซึ่งเป็นการตอกย้ำให้ “โมนิก้า” พึงสำเหนียกเรื่องตัวเลขเศรษฐกิจ และการระบาดของโควิดมากขึ้น รวมทั้งสิ่งที่ทุกคนได้เห็นในเที่ยวนี้ก็เป็นการชิงไหวชิงพริบในการลงทุน ส่งผลให้บรรยากาศของตลาดหุ้นอลเวงอย่างที่เห็นนี่แหละค่ะ

* วันนี้ “โมนิก้า” ถึงยังยืนยันคำเดิม แนวทางเดิม ว่า ทุกอย่างยังเหมือนเดิม ยังไม่มีอะไรที่เป็นจุดเปลี่ยนของชีวิตเกิดขึ้น และการรีบาวด์ของตลาดหุ้นที่เกิดขึ้นให้เห็นเป็นระยะ ก็เป็นผลมาจากตลาดหุ้นลงแรงเกินไป จึงมีแรงซื้อกลับเข้ามาในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่แฟนคลับได้พบเห็นเป็นประจำ และวันนี้ก็คงได้เห็นปรากฎการณ์ดังกล่าวอีกครั้งอย่างแน่นอนเจ้าค่ะ

* ด้วยเหตุนี้จึงไม่ต้องถามถึงตัวแปรอื่น ๆ ให้เสียเวลาทำมาหากิน เพราะแค่มองจากตัวเลขเศรษฐกิจที่ประกาศกันปาว ๆ ก็รู้ได้ทันทีว่า เรื่องนี้ยังเป็นอะไรที่ไม่น่าไว้ใจ และเมื่อดูจากท่าทีของนักลงทุนสถาบันที่ออกอาการแทงกั๊กอยู่ร่ำไป “โมนิก้า” ถือเป็นข้อมูลที่นักลงทุนรู้อยู่แล้วว่า สุดท้ายปลายทางจะเป็นอย่างไร? เพียงแต่นักเล่นชอบคิดเข้าข้างตัวเองเป็นประจำ เลยทำให้ ความเชื่อ” กับ ความจริง” มักเดินสวนทางกันเป็นประจำน่ะสิ

* ฉะนั้นการที่ดัชนีลงมาปิดที่ระดับ 1,582.67 จุด ลบไป 3.05 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 6.81 หมื่นล้านบาท ทั้งที่ในระหว่างวันอ่อนตัวลงไปทำจุดต่ำสุดที่ 1,577.63 จุด “โมนิก้า” ถือเป็นจังหวะของชาวสวนที่มีความกล้าอยู่ในตัว และกลายเป็นช็อตเด็ดของนักเล่นประเภทมองหาโอกาสในการลงทุนตลอดเวลา เดี๊ยนเลยไม่คิดจะห้ามปรามหากแฟนคลับจะทยอยเก็บหุ้นเข้าพอร์ตอย่างช้า ๆ เพราะความเสี่ยงในการลงทุนไม่สูงสักเท่าไหร่จ้า!

* ส่วนรายที่ดีแบบไม่สนใครทั้งสิ้นกลายเป็น BANPU หลังราคาหุ้นพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนล่าสุดขึ้นมาปิดที่ระดับ  16 บาท บวกไป 0.50 บาท หรือขึ้นไป 3.20% ด้วยมูลค่า 3.01 พันล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นจังหวะต้องตามน้ำอย่างเดียว เพราะราคาถ่านหินยังทะยานขึ้นทำนิวไฮให้เห็นตลอดเวลา ซึ่งจะทำให้กำไรปีนี้แจ่มแจ๋วอย่าบอกใครเชียว ทุกคนเลยกรูเข้าใส่ไงละจ๊ะ

* เช่นเดียวกับในรายของ  HFT ทุกคนรู้อยู่แก่ใจว่า ธุรกิจยังไปได้สวย และการทำธุรกิจในวันนี้ก็มีแต่คำว่า วิน-วิน แถมรายได้ในอนาคตจะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ “โมนิก้า” จึงชอบเม้าท์ถึงหุ้นตัวนี้เป็นประจำ โดยเฉพาะในช่วงที่หุ้นกำลังวิ่งขึ้นไปทดสอบยอดเดิม 8 บาท มันเป็นจังหวะต้องตามน้ำอย่างเดียว เพราะการยืนปิดที่ระดับ 7.35 บาท บวกไป 0.35 บาท หรือขึ้นไป 5% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 189 ล้านบาท ยังมีแก๊ปให้เล่นต่อเจ้าค่ะ

* อีกหนึ่งตัวที่มีโมเดลเหมือนกันเป๊ะก็คือ EPG ไซเคิลของหุ้นวนเวียนไปมาในรูปแบบ w-shape กรอบด้านบนอยู่ที่ 12.50 บาท ส่วนกรอบด้านล่างอยู่ที่ 10.50 บาท แต่เชื่อไหมว่า รอบนี้หุ้นลงมาถึงจุดรับของเสียด้วย จึงอยากให้แฟนคลับประเมินว่า การยืนปิดที่ระดับ 10.60 บาท บวกไป 0.10 บาท หรือขึ้นไป 0.95% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 101 ล้านบาท มันเป็นจังหวะที่น่าสนใจขนาดไหน..อิอิอิ

* เหมือนกับจังหวะโยกตัวเล่นไปมาของหุ้นในตลาด mai เดี๊ยนมองจากมุมของคนวงนอกก็รู้ได้ทันทีว่า เคาะกะลาเรียก.. เพราะแพทเทิร์นที่เล่นเที่ยวนี้ออกไปในแนว “มาเร็ว ไปเร็ว” ล่าสุดเป็นคิวของ BC กระชากขึ้นมาปิดที่ 2.50 บาท บวกไป 0.28 บาท หรือขึ้นไป 12.60% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 181 ล้านบาท ซึ่งเป็นสถานการณ์คล้ายกับก่อนหน้านี้ โดยตอนนั้นหุ้นวิ่งขึ้นไปแตะ 2 บาทปุ๊บ ต่อจากนั้นไหลลงมาเรื่อย ๆ จนลงมายืนแถว 1.60 บาทปั๊บ..จำได้ไหมตัวเอง

* ส่วนรายที่หมดสภาพอย่างรวดเร็ว “โมนิก้า” ขอพุ่งเป้าไปยัง TNP ก่อนหน้านี้กระชากขึ้นต่อเนื่อง จนหุ้นขึ้นไปยืนแถว ๆ 7.10 บาท หลังจากนั้นก็โรยตัวลงมาเรื่อย ๆ จนล่าสุดยืนปิดที่ระดับ  5.30 บาท ลบไป 0.35 บาท หรือลงไป 6.20% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 65 ล้านบาท เหมือนเป็นการบอกให้ทุกคนรู้ว่า จบรอบ! จึงไม่ควรเอาตัวเข้าไปเสี่ยงในเรื่องที่รู้ทั้งรู้ว่า มีโอกาสเจ็บตัวสูงนะจะบอกให้

Back to top button