พาราสาวะถี

ประกาศไปเมื่อวันศุกร์จะไม่มีการล็อกดาวน์พื้นที่กทม.และปริมณฑล พร้อม 4 จังหวัดชายแดนใต้ แต่ท้ายที่สุด วันอาทิตย์ที่ผ่านมา ก็มีประกาศข้อกำหนดของศบค.ฉบับที่ 25 ในราชกิจจานุเบกษา ใช้มาตรการล็อกดาวน์ลักปิดลักเปิด เพราะ อนุชา บูรพชัยศรี โฆษกรัฐบาลบอกว่านี่ไม่ใช่การล็อกดาวน์ แต่มาตรการที่ออกมานั้นมันก็ไม่ต่างกันในทางปฏิบัติ ชัด ๆ เลยว่า ที่ต้องเลี่ยงบาลีไม่ใช้คำว่าล็อกดาวน์เพราะรัฐบาลไม่มีปัญญาจะหาเงินมาชดเชยกับทุกภาคส่วนที่ได้รับผลกระทบแล้ว


ประกาศไปเมื่อวันศุกร์จะไม่มีการล็อกดาวน์พื้นที่กทม.และปริมณฑล พร้อม 4 จังหวัดชายแดนใต้ แต่ท้ายที่สุด วันอาทิตย์ที่ผ่านมา ก็มีประกาศข้อกำหนดของศบค.ฉบับที่ 25 ในราชกิจจานุเบกษา ใช้มาตรการล็อกดาวน์ลักปิดลักเปิด เพราะ อนุชา บูรพชัยศรี โฆษกรัฐบาลบอกว่านี่ไม่ใช่การล็อกดาวน์ แต่มาตรการที่ออกมานั้นมันก็ไม่ต่างกันในทางปฏิบัติ ชัด ๆ เลยว่า ที่ต้องเลี่ยงบาลีไม่ใช้คำว่าล็อกดาวน์เพราะรัฐบาลไม่มีปัญญาจะหาเงินมาชดเชยกับทุกภาคส่วนที่ได้รับผลกระทบแล้ว

คำถามที่สำคัญตามมาทันที ขณะที่การระบาดระลอกแรกความรุนแรงน้อยกว่านี้หลายเท่าตัวนักทำไมจึงประกาศล็อกดาวน์ ขณะที่สถานการณ์ในวันนี้หนักหน่วงจนถึงขั้นวิกฤติแทบทุกด้าน เหตุใดจึงใช้มาตรการเพียงเท่านี้ ที่บอกว่าปิดแคมป์คนงานก่อสร้างในกทม.จะกี่วันก็สุดแท้แต่ ไล่เช็กจำนวนแรงงานในแคมป์ทั้งไทยและต่างชาติแล้วหรือยังว่าอยู่ครบกันหรือไม่ หรือมีการหนีกันไปก่อนที่จะมีมาตรการนี้ออกมาแล้ว ประสานกรู้

หากเป็นเช่นนั้นก็เท่ากับว่า ที่ผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจอ้างไม่อยากล็อกดาวน์พื้นที่เมืองหลวงและจังหวัดที่มีการระบาดรุนแรง เพราะเกรงเรื่องแรงงานอพยพเผ่นหนีไปต่างจังหวัด แล้วจะเป็นการกระจายเชื้อไปทั่วประเทศ ก็ไม่ตอบโจทย์นี้ ที่ตามมาคือไหนบอกว่าสั่งการหน่วยความมั่นคงไปตั้งด่านปิดแคมป์แล้ว มีการเล็ดลอดหลบหนีกันไปได้อย่างไร จุดใหญ่ที่เป็นไฮไลต์ของการระบาดที่มาคู่กับการล็อกดาวน์ลักปิดลักเปิดของรัฐบาลก็คือ การพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์เบต้าแอฟริกาใต้ในกทม.

แม้จะมีการบอกว่าผู้ที่ติดเชื้อเชื่อมโยงกับคลัสเตอร์ที่นราธิวาส ที่ประชาชนกังขากันก็คือ แล้วเดินทางเข้ามาในกรุงเทพฯ ได้อย่างไร ไทม์ไลน์ การสอบสวนโรค การจำกัดกลุ่มเสี่ยงทำได้มากน้อยขนาดไหน เพราะถ้าล่าช้ากว่าโรคก็หมายความว่า สถานการณ์ที่รุนแรงอยู่แล้วจะหนักข้อเข้าไปอีก เนื่องจากสายพันธุ์ดังกล่าววงการแพทย์และสาธารณสุขต่างหวั่นเกรงกันเป็นอย่างมากถ้ามาระบาดในเมืองใหญ่ วัคซีนที่ฉีดกันไปจะเอาไม่อยู่

ลำพังแค่สายพันธุ์เดลต้าอินเดียก็ปวดหัวกันแย่แล้ว ยังจะมีสายพันธุ์เบต้ามาอีก เช่นนี้อาจจะถึงวาระล่มสลายของระบบสาธารณสุขในเมืองหลวงและจังหวัดพื้นที่สีแดงเข้มอีก 9 จังหวัดก็เป็นได้ ถ้ากระจายไปมากกว่านี้ไม่อยากนึกภาพว่ามันจะเป็นอย่างไร อุตส่าห์เรียกประชุมคณะที่ปรึกษาระดับปรมาจารย์ทางการแพทย์ทั้งนั้นเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา แต่ปรากฏว่าสิ่งที่ได้หลังการประชุมคือ คำยืนยันไม่ล็อกดาวน์และการเล่นจำอวดของผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจ

ไม่รู้ว่าเสียงหัวร่อเอิ๊กอ๊ากของบรรดาอาจารย์หมอทั้งหลายที่ยืนอยู่เป็นเบื้องหลังความตลกของผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจนั้น บรรยากาศมันพาไปหรือตกกระไดพลอยโจนไม่ทราบ ถ้าเป็นอย่างหลังก็ควรรีบสื่อสารในนามองค์กรวิชาชีพเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนทั้งประเทศว่า สถานการณ์ที่เป็นอยู่ในเวลานี้ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ไม่ใช่ปล่อยให้หมอการเมืองใช้วิชาชีพของตัวเองไปรองรับความต้องการของนักการเมืองที่หวังแต่ผลประโยชน์ส่วนตัวและพวกพ้อง

ถูกต้องอย่างที่ ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ออกมากระทุ้ง “นายกฯ ชู 2 นิ้ว หัวเราะร่วน แต่ชาวบ้านร้องไห้น้ำตาตก” อย่าหาว่าไปจับผิดแต่ชูวิทย์บอกว่านั่งดูท่านผู้นำแถลงข่าวจนจบแล้วไม่สบายใจ เพราะมันใช่เวลาที่จะมาอารมณ์ดี ขำขัน ชูสองนิ้ว หัวเราะร่วนไหม ในช่วงเวลาที่ยากลำบาก ประชาชนเฝ้ารอทิศทางที่ชัดเจนจากนายกฯ แต่ท่านผู้บุญหนักศักดิ์ใหญ่กลับยังจ๊ะจ๋า หัวเราะเอิ๊กอ๊าก แซวกันดูสนุกสนานระหว่างแถลงข่าวกับสื่อมวลชน

ประชาชนที่ดูอยู่ พูดไม่ออก บอกไม่ถูก เหมือนอารมณ์มันจุกอก เพราะตรงกันข้ามกับความรู้สึกของชาวบ้าน ประชาชน ที่สิ้นหวังกับอนาคตในภาวการณ์เช่นนี้ ในฐานะผู้นำประเทศต้องเข้าใจสังคม ที่ไม่ได้ต้องการเห็นใครเอาเรื่องโควิดมาพูดขำ ๆ เหมือนอย่างที่ท่านทำ ท่านต้องแสดงความรู้สึกร่วมทุกข์กับชาวบ้าน เช่นเดียวกับผู้นำทั่วโลกเมื่อแถลงข่าวเรื่องโควิดในภาวะวิกฤติอย่างนี้ ไม่ใช่สักแต่พูดให้ผ่าน ๆ พ้น ๆ ไป ทั้งที่สถานการณ์ของไทยเข้าขั้นตรีทูต

สารพัดปัญหาที่เกินกว่านายกฯ คนเดียวจะแก้ได้หมดแบบวันแมนโชว์ ผู้นำที่แน่วแน่ไม่จำเป็นต้องเอาหมอมายืนเคียงข้างเพื่อสร้างความมั่นใจ หรือว่าทำให้ใครเชื่อใจไม่ได้จึงต้องใช้หมอมาเป็นตัวช่วยบอกบท สิ่งสำคัญที่เป็นข้อเท็จจริงในวันที่ผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจประกาศว่าจะไม่ล็อกดาวน์ แต่ดันบอกว่าจะปิดแคมป์คนงานส่วนรายละเอียดวันจันทร์จะมาบอก พุทโธ่! เย็นวันศุกร์แคมป์คนงานก็โล่งแล้ว คนเหล่านั้นเผ่นหนีกลับบ้านกันหมด

ความจริงอย่างที่อรชุนบอกไปตั้งแต่สัปดาห์ก่อน ตลกที่หัวร่อไม่ออกคือการประกาศจะเปิดประเทศภายใน 120 วันของผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจ ทั้งที่สถานการณ์ทั้งตัวเลขผู้ติดเชื้อและคนเสียชีวิตก็เห็นกันอยู่ แต่จู่ ๆ มาอาทิตย์นี้ออกประกาศล็อกดาวน์ลักปิดลักเปิด 10 จังหวัด ด้วยมองดูแล้วว่าท่าทางจะเอาไม่อยู่ เห็นด้วยทุกประการกับปุจฉาของชูวิทย์ “เอาไงดีครับ จะให้หัวเราะหรือร้องไห้ดี หรือต้องร้องไห้ไปหัวเราะไปเหมือนคนบ้า”

ขณะเดียวกัน การฉายภาพของ ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย เพื่อตอกย้ำกับสิ่งที่ผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจแสดงออก มันยิ่งทำให้เจ็บปวดหัวใจเป็นอย่างยิ่ง ภาพผู้ป่วยที่กำลังรอการช่วยเหลือมีส่งมาทุกวัน ตั้งแต่เช้าถึงดึก มีเพิ่มขึ้น ๆ ทุกวัน แต่ท่านผู้นำกลับไม่รู้ร้อนรู้หนาว “ต้องใจร้ายขนาดไหนถึงยืนหัวเราะบนความเจ็บปวดของประชาชนได้” ทั้งสองความรู้สึกของคนที่เป็นส.ส.และอดีตส.ส.ที่ใกล้ชิดกับคนเมืองหลวง ย่อมเข้าใจสถานการณ์และความเป็นไปของสภาพปัญหาได้เป็นอย่างดี

อยู่ที่ว่าผู้มีอำนาจและลิ่วล้อสอพลอทั้งหลาย เลือกที่จะแก้ไขสถานการณ์บนพื้นฐานของความเป็นจริง ยอมรับและร่วมกันบริหารจัดการเพื่อคลี่คลายวิกฤติ หรือเลือกที่จะปกปิดความเลวร้าย ใช้แต่ปฏิบัติการข่าวสารอวดอ้างแต่เรื่องที่ทำให้ตัวเองได้หน้า เหมือนอย่างวัคซีนที่พยายามแถไปเรื่อยทั้งที่รู้อยู่เต็มอกว่าไร้วิสัยทัศน์และบริหารจัดการล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง เหตุที่ใจร้ายได้ถึงขนาดนี้นั่นเป็นเพราะเสพแต่สื่อเชลียร์ ฟังแต่เสียงประชาชนที่หลับหูหลับตาเชียร์ คนดีที่สามานย์กับนักการเมืองชั่วมาผสมพันธุ์กันบ้านเมืองจึงเป็นแบบนี้

Back to top button