ต่ำสิบพุ่งปรี๊ด!

* วันนี้เป็นอีกครั้งที่ “โมนิก้า” ต้องบอกกับแฟนคลับว่า หุ้นใหญ่ที่เห็นวิ่งกันแรง ๆ เอาเข้าจริงก็ยังวิ่งไม่แรงเหมือนกับหุ้นเล็ก เดี๊ยนถึงสนใจหุ้นเล็กที่อยู่ในกลุ่มต่ำสิบมากเป็นพิเศษ ซึ่งเป็นผลมาจากลีลาเคาะขวาสุดจัดปลัดบอกกันทั้งนั้น จึงกลายเป็นช็อตที่ต้องติดตามดูทุกฝีก้าวกันเลยทีเดียว! เพราะเผลอทีไรมักมีขาใหญ่แอบดอดเข้าประตูหลังหุ้นเหล่านี้เป็นประจำ จนสังคมกล่าวขานถึงคู่หูนรกแตกกันอย่างเกรียวกราวนะจะบอกให้

* งานนี้ไม่จำเป็นต้องเอ่ยสรรพนามของกลุ่มคนดังกล่าวให้เปลืองน้ำลาย เพราะของมันเห็นกันอยู่แล้วว่า เศรษฐีหุ้นหน้าใหม่มีลูกกระเป๋งติดตามห้อยสอยกันเป็นพรวน “โมนิก้า” จึงต้องให้ความสำคัญกับหุ้นที่เกริ่นนำไว้มากเป็นพิเศษ แม้วานนี้ดัชนีจะถีบตัวขึ้นมาปิดที่ 1,591.43 จุด บวกไป 12.26 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 7.90 หมื่นล้านบาท และมีลุ้นวิ่งทะลุแนวต้านทางจิตวิทยา 1,600 จุด แต่ไม่ใช่พอยท์หลักที่จะเม้าท์แตกกันเจ้าค่ะ

* ด้วยเหตุนี้ถึงทำให้ “โมนิก้า” เลือกเม้าท์ถึงหุ้นเหล็ก TSTH เป็นเจ้าแรกก่อนใครเพื่อน เพราะการกระชากขึ้นมาปิดที่ 1.81 บาท บวกไป 0.25 บาท หรือขึ้นไป 16% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 743 ล้านบาท ท่ามกลางค่า PE 21 เท่า ทำให้หุ้นตัวนี้ดูดีมีเสน่ห์มากขึ้นเป็นกอง ผนวกกับแนวโน้มในการทำกำไรยังอยู่ในทิศทางที่ดี จึงเป็นช็อตของความหวังที่ว่า เที่ยวนี้จะดันขึ้นไปถึงยอดแรกแถว ๆ 2 บาทก็ยังดี ต่อจากนั้นค่อยซัดขึ้นไปถึง 2.40 บาท ก็ยังได้จ้า!

* อีกรายที่เริ่มดันขึ้นรอบใหม่ “โมนิก้า” คงมองไปที่หุ้นน้ำมันปาล์ม VPO เพื่อชี้ให้เห็นการกระชากขึ้นวันแรก ท่ามกลางอาการหงอยร่วมเดือน มองในมุมไหนก็ต้องพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ลากออกของเหมือนครั้งก่อน ๆ เพราะในมุมของพื้นฐานไม่มีอะไรมาแบ็คอัพเลยสักอย่าง น้องโมเลยสงสัยว่า การขึ้นมาปิดที่ 1.32 บาท บวกไป 0.18 บาท หรือขึ้นไป 15.80% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 163 ล้านบาท คงไม่มีอะไรในกอไผ่อีกตามเคยนะจ๊ะ

* ตรงกันข้ามกับในรายของ SITHAI อย่างสิ้นเชิง เพราะรายนี้มาด้วยสตอรี่เทิร์นอะราวด์เป็นหลัก และยังมีเรื่องบุ๊กแวลูที่ระดับ 1.35 บาทเป็นตัวคอยค้ำราคา “โมนิก้า” ถึงไม่วอรี่กับการขึ้นมายืนปิดที่ 1.42 บาท บวกไป 0.07 บาท หรือขึ้นไป 5.20% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 328 ล้านบาท เพราะสองสามครั้งที่ผ่านมาก็เพิ่งประลองกำลังแถว 1.50 บาทมาหยก ๆ แต่สุดท้ายก็ไม่ผ่านอีกตามเคย..เรื่องถึงวนลูปอยู่แบบนี้ไงล่ะคะ

* สำหรับรายที่น่าเป็นห่วงคงหนีไม่พ้นหุ้น TKT หลังกระชากขึ้นต่อเนื่อง จนล่าสุดขึ้นมาปิดที่ระดับ 2.10 บาท บวกไป 0.25 บาท หรือขึ้นไป 13.50% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 90 ล้านบาท พร้อมกับทำราคาสูงสุดในรอบ 3 ปี 9 เดือน ทั้งที่ผลขาดทุนยังมีให้เห็นประปราย ผนวกกับเศรษฐกิจในประเทศก็ดิ่งเหวสุด ๆ เดี๊ยนเลยมองไม่ออกเหมือนกันว่า เที่ยวนี้ขึ้นมาด้วยเหตุผลอะไรพะยะค่ะ

* ส่วนรายที่รู้เหตุผลแน่ชัดอย่าง NEX มันไม่มีอะไรต้องวอรี่แม้แต่เรื่องเดียว เพราะมองในมุมของตัวเลขกำไรที่น่าจะมาตามนัด บวกกับบรรดากูรูให้ราคาเป้าหมายสูงถึงระดับ 12 บาท “โมนิก้า” ย่อมยกให้หุ้นต่ำสิบตัวนี้เป็นหุ้นห้าดาวที่แฟนคลับไม่ควรพลาด  หลังองค์ประกอบทุกอย่างเอื้อให้หุ้นติดลมบนสุด ๆ และการยืนปิดที่ 6.65 บาท บวกไป 0.50 บาท หรือขึ้นไป 8.10% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 321 ล้านบาท จึงเหลือแก๊ปให้เล่นอีกบานตะไทนะตัวเอง

* คล้ายกับกรณีของ UKEM อย่างไร..อย่างนั้นเลย! โดยเฉพาะในมุมของธุรกิจปิโตรเคมีที่อยู่ในวงรอบขึ้นใหม่ ก็ส่งผลโดยตรงกับความสามารถในการทำกำไรบริษัทนี้เต็ม ๆ “โมนิก้า” ถึงอยากให้แฟนคลับลองหันมองหุ้นตัวนี้กันบ้าง  เพราะการขึ้นมาปิดที่ 1.89 บาท บวกไป 0.31 บาท หรือขึ้นไป 19.60% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.31 พันล้านบาท ท่ามกลางค่า PE 16 เท่า มันน่าสนใจเหลือเกิน..ไม่เชื่อลองถามหัวเรือใหญ่อย่างน้อง “พีรพล” ดูก็ได้จ้า!

* ส่วนรายที่สร้างความคับข้องใจอย่างมาก คงโฟกัสไปยังหุ้นที่ถนัดจัดอีเว้นท์อย่าง ARIP หลังกระชากขึ้นพรวดเดียวชนซิลลิ่ง ก่อนจะปิดไปที่ระดับ 0.91 บาท บวกไป 0.21 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 144 ล้านบาท ท่ามกลางค่า PE 92 เท่าแบบนี้ มันทำให้เดี๊ยนถึงกับอุทานเสียงหลงออกมาว่า อิหยังวะ! เพราะไม่มีมุมไหนที่ทำให้เชื่อว่า หุ้นตัวนี้จะคัมแบ็คสวย ๆ ในภาวะเศรษฐกิจอย่างนี้ได้อย่างไร (อยากเชียร์ “เฮียแจ๊ค” แต่ไม่รู้จะเชียร์มุมไหน) น่ะสิ