พาราสาวะถี
งดจ้อต่อเนื่องสำหรับผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจโดยโยนภาระการแถลงข่าวรายวันไปให้โฆษกรัฐบาลแทน แน่นอนว่า ไม่มีอะไรซับซ้อนภายใต้สถานการณ์ที่กำลังกดดันอยู่เวลานี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการถูกตีในประเด็นการแสดงอาการระรื่นของท่านผู้นำหลังการหารือกับคณะที่ปรึกษาเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาท่ามกลางสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ที่รุนแรงขึ้นทุกวัน จนถูกวิจารณ์อย่างหนักว่าขาดวุฒิภาวะมีความสุขบนความทุกข์ของคนทั้งประเทศ
งดจ้อต่อเนื่องสำหรับผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจโดยโยนภาระการแถลงข่าวรายวันไปให้โฆษกรัฐบาลแทน แน่นอนว่า ไม่มีอะไรซับซ้อนภายใต้สถานการณ์ที่กำลังกดดันอยู่เวลานี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการถูกตีในประเด็นการแสดงอาการระรื่นของท่านผู้นำหลังการหารือกับคณะที่ปรึกษาเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาท่ามกลางสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ที่รุนแรงขึ้นทุกวัน จนถูกวิจารณ์อย่างหนักว่าขาดวุฒิภาวะมีความสุขบนความทุกข์ของคนทั้งประเทศ
ไม่เพียงเท่านั้นการประกาศล็อกดาวน์ 10 จังหวัดในยามวิกาลยังถูกมองว่าเป็นการลักหลับสร้างความเดือดร้อนให้กับคนจำนวนมากโดยไร้มาตรการที่จะรองรับ ภายใต้สถานการณ์ที่วิกฤตเช่นนั้นไม่ควรจะเกิดงานในลักษณะสุกเอาเผากิน ทุกอย่างต้องการความแม่นยำ มีวิสัยทัศน์และสามารถปฏิบัติให้เกิดผลเป็นรูปธรรม ไม่ใช่การกำหนดมาตรการ เดินหน้า แต่ไร้แผนการรองรับ เท่ากับไปสร้างปัญหาให้กับปฏิบัติหน้าที่หน้างาน
ตัวอย่างมีให้เห็นแล้วจากกรณีของวัคซีน ที่แอปพลิเคชันหมอพร้อมกลายเป็นหมอไม่พร้อม สุดท้ายก็ไปเดือดร้อนกับเจ้าหน้าที่และผู้บริหารโรงพยาบาล จนกระทั่งโรงพยาบาลบางแห่งถึงขั้นประกาศให้ไปถามรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเอาให้ได้คำตอบ หลังแจ้งให้ผู้รับบริการทราบถึงการเลื่อนฉีดวัคซีน เช่นเดียวกันกับกรณีที่วันนี้จะเริ่มเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้ามายังจังหวัดภูเก็ตผ่านโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ที่วาดฝันกันไว้สวยหรู
แต่พอไปไล่สแกนดูการเตรียมความพร้อมแล้ว ต้องบอกว่าทำงานกันแบบขายผ้าเอาหน้ารอดจริง ๆ เพิ่งมีการประกาศคำสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือศบค. ที่ 7/2564 เมื่อวันที่ 29 มิถุนายนที่ผ่านมานี้เอง เรื่องแนวปฏิบัติตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพ.ร.ก.ฉุกเฉิน 2548 (ฉบับที่ 11) เกี่ยวกับมาตรการป้องกันโรคสำหรับผู้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรแนบท้ายคำสั่ง หรือพูดให้ชัดก็คือคำสั่งเพื่อรองรับการดำเนินการโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์นั่นเอง
ทั้งที่ ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ไปตั้งแต่วันที่ 30 มีนาคม แต่มีการนำเรื่องเข้าสู่ที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 หรือศบศ.เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน ก่อนที่จะนำเข้าที่ประชุมศบค.เมื่อวันที่ 18 มิถุนายนที่ผ่านมา คำถามสำคัญคือรออะไร ในเมื่อตั้งธงกันไว้แบบนี้ การดำเนินการต้องให้สอดรับกับช่วงระยะเวลาที่เตรียมการไว้ ไม่ใช่ทำงานกันแบบไฟลนก้น
มาตรการทางด้านสาธารณสุข ไม่ใช่อุปสรรคสำคัญ เพราะนักท่องเที่ยวที่ประสงค์จะเดินทางข้ามประเทศในช่วงระบาดของโควิด-19 นี้ย่อมศึกษาข้อห้ามต่าง ๆ ของแต่ละประเทศกันเป็นอย่างดีอยู่แล้ว แต่ว่ากันว่าปัญหาที่สำคัญที่ส่งผลให้ในการประเดิมภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ในระยะเริ่มต้นดูซบเซากว่าที่คาด คงเป็นกรณีการยื่นขอใบรับรองการเดินทางเข้าประเทศไทยหรือซีโออี ที่มีความล่าช้าจนต้องทยอยยกเลิกตั๋วเดินทาง ซึ่งทำให้เกิดคำถามตามมาว่า สาเหตุของความล่าช้าในขั้นตอนดังกล่าวมาจากอะไร
กระทรวงการต่างประเทศชี้แจงว่า ได้ปรับปรุงระบบลงทะเบียนซีโออีออนไลน์สำหรับภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ และได้สั่งการให้สถานเอกอัครราชทูต และสถานกงสุลใหญ่ของไทยทั่วโลกเตรียมความพร้อม และเปิดระบบลงทะเบียนเอาเมื่อวันที่ 28 มิถุนายนที่ผ่านมา เพื่อตรวจเอกสารล่วงหน้า ซึ่งมีผู้ลงทะเบียนแล้วประมาณ 4,100 คน โดยกรมควบคุมโรคทำหน้าที่ตรวจเอกสารยืนยันการฉีดวัคซีน หรือ Certificate of Vaccination จนถึงวันนี้สามารถตรวจอนุมัติไปได้เพียง 500 กว่ารายเท่านั้น
นอกจากนี้ ยังมีข้อกำหนดเพิ่มเติมให้ผู้ลงทะเบียนขอซีโออีต้องแสดงหลักฐานการชำระค่าตรวจโควิดกับโรงแรมหรือที่พัก ค่าตรวจโควิด 3 ครั้ง ประมาณ 8,000 บาท ซึ่งนั่นคงไม่ใช่ปัญหาใหญ่สำหรับนักท่องเที่ยว สิ่งที่ทำให้เกิดการขลุกขลักในการดำเนินการ เป็นเพราะหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพิ่งจะได้มีโอกาสหารือในรายละเอียดต่าง ๆ เพื่อวางกฎเกณฑ์ในการรองรับนักท่องเที่ยวภายใต้โครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์มากกว่า เมื่อพิจารณาไปยังระบบราชการแล้วก็รู้กันอยู่ว่าผลจะออกมาอย่างไร
ภายใต้โครงการดังกล่าวเดิมทีถูกกำหนดไว้บนพื้นฐานของสถานการณ์การระบาดจากทั่วโลกและในประเทศไทยเริ่มทรงตัว แต่เมื่อไม่เป็นไปอย่างที่คาดจึงต้องปรับแผนกันจ้าละหวั่น แม้กระทรวงสาธารณสุขจะอ้างหลักการในเรื่องของระบบรองรับ แต่ภายใต้สถานการณ์การระบาดในประเทศเวลานี้ ที่ทั้งบุคลากรและเครื่องไม้เครื่องมือทางการแพทย์ต้องจัดสรรกันอย่างจำกัด สิ่งสำคัญคือเวลานี้ต้องระดมทั้งคนและอุปกรณ์ทั้งหลายมาช่วยดูแลคนป่วยในเมืองหลวงเพิ่มขึ้น
นั่นจึงมีเสียงเตือนดัง ๆ มาจากบรรดาคุณหมอมืออาชีพทั้งหลาย จะเดินหน้ากันอย่างไรไม่ว่า แต่ขอให้คำนึงถึงสถานการณ์ในประเทศเป็นหลัก สิ่งสำคัญคือ เมื่อเปิดรับนักท่องเที่ยวเข้ามาแล้วจะต้องไม่ส่งผลกระทบหรือซ้ำเติมให้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในภูเก็ตย่ำแย่ลง ยิ่งเมื่อสแกนไปยังการระบาดที่กำลังเป็นไปอยู่เวลานี้ จะเห็นได้ว่าพื้นที่จังหวัดทางภาคใต้พบว่ากลับมาระบาดกันอย่างหนักอีกครั้ง และยังพบสายพันธุ์ทั้งเดลต้าอินเดียและเบต้าแอฟริกาใต้ที่ต้องควบคุมกันอย่างเข้มงวดด้วย
อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าสถานการณ์รอบด้านจะเป็นอย่างไร ผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจและลิ่วล้อคงต้องเดินหน้าภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์เต็มที่บนความคาดหวังว่าให้ทุกอย่างดีขึ้น จะได้มากได้น้อยยังไงก็ต้องเปิดเกาะภูเก็ตตามแนวทางนี้ หากในช่วง 1 เดือนเห็นทิศทางที่ดี 3 เกาะของสุราษฎร์ธานีทั้งสมุย พะงันและเกาะเต่าก็จ่อคิวรออยู่ แต่อย่างที่ย้ำมารัฐบาลนี้ตกอยู่ในภาวะบุญมีแต่กรรมบังมาโดยตลอด อะไรที่คิดว่าจะดีสุดท้ายมีเหตุให้ต้องสะดุดอยู่ร่ำไป แต่เหตุการณ์เวลานี้ดูแนวโน้มและทิศทาง ถ้าสะดุดอาจหมายถึงการล้มกันทั้งคณะก็เป็นได้