NOBLE & U จับคู่สู่การเริ่มต้น

หลังจากบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS ของ “เจ้าสัวคีรี กาญจนพาสน์” เปลี่ยนคู่ควงพันธมิตรใหม่ จากบริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI ของ “เฮียเศรษฐา ทวีสิน” มาเป็น บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ NOBLE

พร้อมกับการที่ NOBLE เปิดทางให้ BTS เข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 3 ในสัดส่วน 9.13%

ก็ถูกคาดหวังว่า จะเห็นการ Synergy ธุรกิจระหว่างกัน…เนื่องจาก BTS ซึ่งมีที่ดินแลนด์แบงก์เยอะ แต่ไม่ถนัดทำอสังหาฯ การได้ NOBLE มาเป็นพันธมิตร ซึ่งเป็นแบรนด์ดังจับตลาดระดับกลางและบน มาช่วยปิดจุดอ่อน ก็น่าจะสร้างประโยชน์ทั้งสองฝ่าย

ผ่านมาเกือบ 2 ปี ล่าสุด BTS ก็ส่งไม้ต่อให้ บริษัท ยู ซิตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ U บริษัทในเครือ ไปร่วมสมรสกับ NOBLE แทน

โดย U จะเข้าไปซื้อหุ้นบริษัท ฟิวเจอร์ โดเมน จำกัด (FTD) และรับโอนตั๋วสัญญาใช้เงินที่ออกโดย ฟิวเจอร์ โดเมน จาก NOBLE สัดส่วน 50% คิดเป็นมูลค่า 1,154 ล้านบาท

ก็ถือเป็นการจับคู่สู่การเริ่มต้นของ NOBLE และ U..!!

ที่จริง ฟิวเจอร์ โดเมน ไม่ใช่ลูกในไส้ของ NOBLE หรอกนะ แต่เป็นบริษัทที่ NOBLE เพิ่งไปซื้อต่อมาจากบริษัท กิ่งแก้ว แอสเสทส์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ BTS ด้วยมูลค่า 1,143 ล้านบาท

โอเค…ก็เข้าใจได้นะว่าเป็นการโยกย้ายแอคเซส เพื่อปรับโครงสร้างให้มีความชัดเจน ให้ง่ายต่อการทำธุรกรรม ก็ไม่ว่ากัน

แต่ประเด็นที่น่าสนใจ เบื้องต้น BTS รับทรัพย์ไปก่อนเลย 1,143 ล้านบาท แม้จะไม่เยอะสำหรับ BTS แต่ก็เป็นตัวเลขที่ไม่น้อยนะ ส่วนจะมีกำไรเท่าไหร่นั้น ก็ว่ากันไป…

ขณะที่ ฟิวเจอร์ โดเมน มีดีตรงที่เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดิน ซึ่งตั้งอยู่ในทําเลใกล้แหล่งชุมชน และห้างสรรพสินค้า มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เชื่อมต่อทุกการเดินทาง อยู่ใกล้จุดขึ้นลงทางด่วน และอยู่ใกล้รถไฟฟ้าในอนาคต เช่น ที่ดินเปล่าบริเวณถนนประดิษฐ์มนูธรรม ซึ่งเหมาะสำหรับการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์

ครั้น BTS จะให้ U พัฒนาโครงการเอง ก็อาจจะไม่มีความเชี่ยวชาญ เนื่องจาก U จะถนัดทำอสังหาฯ ที่เป็น Recurring Income เช่น โรงแรม อาคารสำนักงานให้เช่า มากกว่า…ก็เลยดึง NOBLE ซึ่งมีข้อจำกัดเรื่องที่ดินแลนด์แบงก์ แต่มีความเชี่ยวชาญในการพัฒนาบ้านและคอนโดฯ อยู่แล้วมาร่วมพัฒนา…

เป็นการ “ปิดจุดอ่อน-เสริมจุดแข็ง” ของกันและกัน

ก็น่าจับตา ชีวิตสมรสระหว่าง NOBLE และ U ครั้งนี้จะปังปุริเย่แค่ไหน..?

ในมุมของ NOBLE จะทำให้ผลงานกลับมาสวยสุดในซอยได้หรือเปล่า..? หลังจากปี 2563 พลาดท่าโควิด ฉุดกำไรลดลงฮวบฮาบเหลือแค่ 1,878 ล้านบาท จากปีก่อนทำได้ 3,071 ล้านบาท ส่วนไตรมาสแรกปีนี้ ถือว่าทำได้ดี มีกำไรสุทธิ 484 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้ 410 ล้านบาท…

ฟาก U ก็ต้องลุ้นว่าจะกลับมาเทิร์นอะราวด์ได้มั้ย..? จากปี 2563 พลิกมาขาดทุนมโหราฬ 6,610 ล้านบาท จากปีก่อนมีกำไรสุทธิ 1,867 ล้านบาท ขณะที่ไตรมาสแรกปีนี้ ขาดทุน 346 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ขาดทุน 806 ล้านบาท

เอาเป็นว่า ถ้าชีวิตคู่ของทั้งคู่ไปได้ด้วยดี สุดท้ายคนที่ได้ประโยชน์สุด คงหนีไม่พ้น BTS ในฐานะผู้ถือหุ้นของทั้ง NOBLE และ U นั่นเอง…

…อิ อิ อิ…