หุ้นหมดแรง
* ช่วงสองสามวันที่ผ่านมา “โมนิก้า” ได้เห็นสงครามข่าวเกี่ยวกับเรื่องวัคซีนปะทุออกมาไม่หยุดหย่อน ซึ่งมีทั้งประเด็นความโหลยโท่ยของรัฐบาล และประเด็นของนายทุนในคราบหมอ หรือแม้กระทั่งความสำนึกต่อสังคมของเหล่าดาราก็มีให้เห็นเป็นระยะ ล้วนเป็นเรื่องที่ทำให้สังคมไทยแตกแยกหนักกว่าเดิมอย่างไม่ต้องสงสัย ผนวกกับเกรียนคีย์บอร์ดร่วมผสมโรงเรื่องต่าง ๆ อย่างบ้าคลั่ง เลยหาทางออกของเรื่องที่เกิดไม่เจอสักทีไงล่ะคะ
* ช่วงสองสามวันที่ผ่านมา “โมนิก้า” ได้เห็นสงครามข่าวเกี่ยวกับเรื่องวัคซีนปะทุออกมาไม่หยุดหย่อน ซึ่งมีทั้งประเด็นความโหลยโท่ยของรัฐบาล และประเด็นของนายทุนในคราบหมอ หรือแม้กระทั่งความสำนึกต่อสังคมของเหล่าดาราก็มีให้เห็นเป็นระยะ ล้วนเป็นเรื่องที่ทำให้สังคมไทยแตกแยกหนักกว่าเดิมอย่างไม่ต้องสงสัย ผนวกกับเกรียนคีย์บอร์ดร่วมผสมโรงเรื่องต่าง ๆ อย่างบ้าคลั่ง เลยหาทางออกของเรื่องที่เกิดไม่เจอสักทีไงล่ะคะ
* เหมือนกับอาการแกว่งตัวลงของดัชนีในช่วง 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ก็เป็นผลมาจากการที่ตลาดหุ้นไทยขาดข่าวดีเข้ามาประคอง ส่งผลให้พวกสถาบันตั้งหน้าตั้งตาขายหุ้นเพื่อลดความเสี่ยงลูกเดียว “โมนิก้า” เลยไม่แปลกใจที่ค่าเงินบาทอยู่ในลักษณะอ่อนยวบยาบต่อไปไม่มีกำหนด และเรื่องนี้ก็เป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้หุ้นหมดแรงไปต่อ ขณะเดียวกันต้องถือว่า โชคดีที่ดัชนียังประคองเหนือเส้นแนวรับ 75 วันบริเวณ 1,570 จุดได้อย่างเสียวไส้จ้า!
* ฉะนั้นการที่ดัชนียืนปิดที่ระดับ 1,579.28 จุด บวกไป 0.79 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.82 หมื่นล้านบาท จึงเป็นจังหวะของการ wait & see สำหรับนักเล่นที่ต้องการความชัวร์ในการลงทุน เพราะสถานการณ์ของเรื่องต่าง ๆ ไม่แน่นอนสักอย่าง! เดี๊ยนถึงอยากให้แฟนคลับจัดพอร์ต “สายบู๊” และ “สายบุ๋น” ผสมกันไป (แล้วแต่ความชอบ) เพราะกลุ่มหุ้นทีเด็ดยังเป็นเป้าหมายของการเล่นเที่ยวนี้น่ะสิ
* ตัวแรกที่น่าเม้าท์ถึงคงมองไปที่หุ้น GUNKUL หลังราคาหุ้นแกว่งตัว “ขึ้นลง ขึ้นลง” บนเส้นแนวรับ 25 วัน สามรอบด้วยกัน “โมนิก้า” ถึงมองการยืนปิดที่ระดับ 4.84 บาท บวกไป 0.04 บาท หรือขึ้นไป 0.85% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.56 พันล้านบาท คือโอกาสทองของคนที่ถนัดเล่นสั้น ผนวกกับหุ้นยังมีข่าวดีคอยหล่อเลี้ยงเป็นระยะ จึงไม่มีเรื่องที่ทำให้ทุกข์ใจเหมือนหุ้นบางตัวพะยะค่ะ
* ในเมื่อคิดจะเล่นของสูงกันทั้งที “โมนิก้า” ย่อมมองไปที่หุ้นเก็งกำไรฟอร์มสดอย่าง SITHAI เป็นทางเลือกของการเล่นเที่ยวนี้อย่างแน่นอน เพราะการวิ่งขึ้นมาเรื่อย ๆ เหนื่อยก็พักเป็นรอบ ๆ มันช่างเหมาะสำหรับคนห้าวเป้งเสียจริง ๆ ผสานกับหุ้นยืนปิดที่ระดับ 1.63 บาท บวกไป 0.08 บาท หรือขึ้นไป 5.15% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 474 ล้านบาท ธรรมดาซะที่ไหนล่ะพ่อคุณ
* ส่วนหุ้นที่พุ่งแรงสวนกระแสอย่าง BCPG ถือเป็นช็อตวัดใจผู้เล่นอีกเช่นกัน เพราะการขึ้นมารับข่าวดีอย่างเป็นทางการ ผนวกกับหุ้นขึ้นมาถึงยอดเก่าเสียด้วย “โมนิก้า” เลยไม่แน่ใจว่า บรรยากาศจะเอื้อให้หุ้นไปต่อไหม? เพราะระหว่างวันมีการชักเย่อกันสักพัก ก่อนจะเด้งขึ้นมาปิดที่ราคาสูงสุดของวันที่ระดับ 14.60 บาท บวกไป 0.60 บาท หรือขึ้นไป 4.30% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 603 พันล้านบาทน่ะสิ
* ในเมื่อเลือกจะเดินทางบู๊กันทั้งที “โมนิก้า” คงต้องเสนอชื่อหุ้น SKE เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของการเล่นด้วยเลย เพราะหุ้นแสดงอภินิหารด้วยการวิ่งขึ้นไปถึง 1.30 บาท ก่อนจะลงมาปิดเสมอตัวที่ระดับ 1.18 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 343 ล้านบาท ล้วนเป็นการเล่นบนความคาดหวังโรงไฟฟ้าขยะจะทำเงิน แต่หารู้หรือไม่ว่า ธุรกิจขยะเป็นสนามปราบเซียนมาแล้วทั้งนั้น เดี๊ยนจึงได้แต่ภาวนาให้สิ่งที่หลายคนโพนทะนาราบรื่นเจ้าค่ะ
* อีกรายที่มาในแนวเทิร์นอะราวด์แบบเว่อร์วัง คงต้องยกให้กับหุ้นป๋าดันอย่าง SLP แต่เพียงผู้เดียว เพราะการวิ่งขึ้นมาปิดที่ระดับ 1.08 บาท บวกไป 0.17 บาท หรือขึ้นไป 18.70% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 211 ล้านบาท ท่ามกลางเสียงเล่าลือดังระงมไปทั่วแบบนี้ “โมนิก้า” มองเป็นแค่เกมเล่นสั้นที่มีวงจรชีวิตสั้นยิ่งกว่าหางเต่า จึงอยากเตือนแฟนคลับให้เพิ่มสปีดในการเล่นก็เท่านั้นเองค่ะ
* ประเด็นดังกล่าวคล้ายกับการวิ่งของหุ้น TPLAS ก่อนจะมาปิดที่ระดับ 5.20 บาท บวกไป 0.82 บาท หรือขึ้นไป 18.70% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 596 ล้านบาท ท่ามกลาง PE 44 เท่า พร้อมกับเรื่องราวที่เม้าท์กันให้แซ่ดว่า ผลงานไตรมาส 2 จะออกมาแซ่บเว่อร์แบบนี้ “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องที่รับได้อยู่แล้ว เพราะจะทำให้ค่าพีอีลดฮวบ พร้อมกับเปิดโอกาสให้หุ้นไปต่อแบบสวย ๆ และยังทำให้รู้ว่า เที่ยวนี้ไม่มีคนติดดอยไงล่ะตัวเอง (ผิดไปจากนี้ ตัวใครตัวมัน)..อิอิอิ