กลับมาที่เดิม!โมนิก้าและทีมงาน

*วังวนของตลาดหุ้นไทยยังอยู่ที่การเคลื่อนย้ายเงินทุนของฝรั่งตาน้ำข้าวเป็นหลัก บวกกับท่าทีของปอบผีฟ้าที่ช่วงหลังๆ เน้นหนักไปในทางสาดหุ้นทิ้ง ขณะที่กองทุนเจ้าเล่ห์ยังคงเล่นบทสองหน้าต่อไปอย่างไม่มีกำหนด ส่วนแมงเม่ารับหุ้นเข้าไปในพอร์ตเนื้อๆ เน้นๆ เต็มๆ หัวใจ  ล้วนเป็นเหตุการณ์ที่ทำให้ “โมนิก้า” นึกถึงวันเก่าๆ ในช่วงที่ตลาดหุ้นรูดลงอย่างต่อเนื่องไงล่ะค่ะ

*หากจำเหตุการณ์ในครั้งนั้นกันไม่ได้ “โมนิก้า” ขอเม้าท์ถึงเหตุการณ์ในช่วงเดือน ก.ค.-ส.ค. 58 โดยในช่วงแรกดัชนียังพยายามกระชากขึ้นไปทดสอบ 1,500 จุด สุดท้ายก็ทำไม่สำเร็จตามความตั้งใจ ดัชนีก็เลยรูดลงมาอย่างต่อเนื่อง จนลงมาทำจุดต่ำสุดแถว 1,400 จุดในช่วงสิ้นเดือน ก่อนจะรีบาวด์ขึ้นไปทดสอบแนวต้าน 1,450 จุด ซึ่งทำให้ทุกคนมั่นใจว่า ลงถึงก้นเหวแล้วเจ้าค่ะ

*ในขณะที่ความเป็นจริง ก็ไม่ได้เป็นเช่นนั้น เพราะเริ่มต้นเดือนส.ค. ได้ไม่ทันไร ก็มีแรงเทขายพรั่งพรูออกมาเป็นระลอก จนดัชนีต้องลงมาพักหายใจแถวบริเวณ 1,400 จุดประมาณสองสามวัน แต่รอบนี้ไม่เหมือนกับรอบก่อนหน้านี้ เพราะหลังจากนั้นมีการสาดหุ้นออกมาเป็นจำนวนมาก จนดัชนีลงมายืนแถว 1,360 จุด ก่อนจะโดนทิ้งหนักอีกครั้งในช่วงสิ้นเดือนส.ค. ซึ่งตอนนั้นทำให้ดัชนีลงมาทำจุดต่ำสุดที่ 1,300 จุด..จำกันได้ไหม

*สิ่งที่ทำให้ “โมนิก้า” ต้องย้อนกลับมาเล่าเรื่องนี้อีกครั้งเป็นผลมาจากเดือนก.ย. ดัชนีเด้งขึ้นอย่างร้อนแรง รวมเบ็ดเสร็จใช้เวลาแค่ 3 วันทำการ ก็วิ่งขึ้นไปสร้างฐานแนวรับเหนือแนวต้าน 1,350 จุดได้อย่างแข็งแกร่ง ต่อจากนั้นก็พยายามจะฝ่าขึ้นไปปิดเหนือแนวต้าน 1,400 จุดหลายสัปดาห์ สุดท้ายวานนี้ดัชนีอ่อนตัวลงมาปิดที่ 1,352.13 จุด ลบไป 24.70 จุด ด้วยมูลค่า 2.85 หมื่นล้านบาท มันเป็นภาพเดิมๆ ที่ปรากฏให้เห็นอีกครั้งนะเนี่ย!

*ที่สำคัญก็คือ ไซเคิลของดัชนีในเที่ยวนี้เป็นแบบ U-Shape หัวคว่ำ โดยนักลงทุนสถาบันเป็นก๊วนที่เทขายหุ้นออกมาเยอะสุด “โมนิก้า” ถึงอยากให้แฟนคลับพยายามคิดทบทวนอีกครั้งว่า “วงรอบนี้เหมือนกับวงรอบก่อนหน้านี้ไหม?” เพราะตรงนี้จะเป็นคำตอบที่บอกให้นักลงทุนรู้ว่า “ซื้อ  ถือ  ขาย” แถมตัวเลขเศรษฐกิจของประเทศจีนค่อนข้างง่อนแง่นด้วยแล้ว..มันต้อง “เล็กสั้น ขยันซอย” ลูกเดียวนะคะ

*เหมือนกับในรายของพระเอกตัวจริง AJD ถ้าดูตามรูปการณ์ที่เกิดขึ้นในเที่ยวนี้  “โมนิก้า” ขอซูฮกในความยอดเยี่ยมกระเทียมดองของ MM ซึ่งพยายามประคองหุ้นเพื่อรอข่าวดีปรากฏให้เห็นอย่างเป็นทางการ พร้อมกันนั้นก็ทำให้ฐานแนวรับ 1.70 บาทดูมั่นคงขึ้นเป็นกอง วานนี้ถึงเห็นหุ้นกระชากขึ้นมาปิดที่ 1.78 บาท บวกไป 0.05 บาท หรือขึ้นไป2.90% ด้วยมูลค่า 890 ล้านบาท  สงสัยข่าวเม้าท์เรื่องสัญญาณเทคนิคสวย หนุนหุ้นวิ่งขึ้นไปแตะ 2 บาทจะเป็นจริงก็อีคราวนี้กระมั้ง..อิอิอิ

*ส่วนรายที่ “เสียทรง เสียศูนย์” จนหาทางกลับบ้านไม่เจอในคราวนี้กลายเป็น  KTB ราคาหุ้นโค้งตัวลงมาหา low เก่า 16.70 บาท ก่อนจะมาปิดที่ 16.80 บาท ลบไป 0.40 บาท พร้อมด้วยมูลค่าการซื้อขาย 920 ล้านบาท “โมนิก้า” มองจากตำราเทคนิคที่เขียนไว้ว่า ลงพร้อมวอลุ่ม มีโอกาสทำโลว์ใหม่ หากวันนี้มีโอกาสถอยฉากได้ก่อน รีบถอยฉากด่วนเลยนะจ๊ะ

*เช่นเดียวกับในรายของ KC หากมองในมุมของม้าแก่ชำนาญทาง “โมนิก้า” ขอฟันธงลงไปในทันทีว่า นี่คือเกมปั่นลูกเต๋าที่เห็นกันมาเป็นเวลานาน  แถมโครงสร้างการทำธุรกิจที่พยายามสร้างสตอรี่ก่อนหน้านี้ เอาเข้าจริงก็เป็นเพียงเกมแตะมือเปลี่ยนตัวผู้เล่น ไม่ได้มีอะไรที่วิเศษวิโสแม้แต่นิดเดียว ล่าสุดหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 3.14 บาท บวกไป 0.16 บาท หรือขึ้นไป 5.40% ทั้งที่ในระหว่างวันหุ้นขึ้นไปถึง 3.36 บาท พร้อมกับเกิดรูปค้อนหัวกลับแบบนี้..หลอกไปเข้าโรงเชือดชัดๆ นะตัวเอง

*ผิดกับในรายของ EARTH ซึ่งเป็นหุ้นที่มีทรงดีสุดในเที่ยวนี้ก็ว่าได้  แถมในจังหวะที่หุ้นดีดตัวขึ้นแต่ละครั้งมีจังหวะย่อแล้วเด้ง มันทำให้หุ้นลดแรงเสียดทานไปได้ค่อนข้างเยอะเลยทีเดียว ล่าสุดหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 5.30 บาท บวกไป 0.15 บาท หรือขึ้นไป 3% ด้วยมูลค่า 450 ล้านบาท “โมนิก้า” ถือว่า องค์ประกอบทุกอย่างมาพร้อมสรรพ รอเพียงผู้บริหารเฉลยความจริงว่า ดีลที่ได้มาจะทำให้โตก้าวกระโดดขนาดไหน..ทราบแล้วเปลี่ยน!

*เช่นเดียวกับในรายของ ECF หากย้อนความกลับไปในอดีตจะเห็นว่า  ฐานแนวรับยกตัวสูงขึ้นทุกปี แถมตัวเลขผลประกอบการก็โตวันโตคืน “โมนิก้า” ถึงอยากให้แฟนคลับหันมามองหุ้นตัวนี้อย่างจริงจัง ล่าสุดหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 4.86 บาท บวกไป 0.08 บาท รวมเบ็ดเสร็จ 1 เดือนให้รีเทิร์น 35% มันเป็นจังหวะที่นักเล่นต้องกระโจนใส่ในทันที..ไม่เชื่อถาม “เฮียอารักษ์” ดูก็ได้นะจ๊ะ