ภูเขาสามลูกต่ำลง

* ช่วงนี้ “โมนิก้า” มีอาการโคตรเบื่อพวกบ้าการเมืองอย่างจับจิต เพราะดันหลับหูหลับตาเชื่อเฟคนิวส์ไปหมดทุกอย่าง โดยหลงลืมความจริงที่เกิดขึ้น ณ เวลานี้ มันเป็นเรื่องที่ต้องแก้ไขไปทีละขั้น ไม่ใช่ออกมาพูดแต่เรื่องลบ ๆ ทั้งที่เรื่องจริงก็ตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิงแบบนี้..ประเทศไทยไปไม่รอดแหง ๆ เพราะทุกคนเริ่มติดสันดานเอาแต่ใจตัวเอง จนมองไม่เห็นประโยชน์ของส่วนรวมอยู่ตรงไหนพะยะค่ะ

* ไล่เรียงตั้งแต่ดราม่าเกี่ยวกับภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ (กระตุ้นท่องเที่ยว) โดยพวกปากไม่มีหูรูดโพนทะนาบนโลกออนไลน์แบบเสีย ๆ หาย ๆ (มันจะชังชาติไปถึงไหนวะ) ซึ่งแสดงให้เห็นรอยหยักบนสมองไม่เคยคิดจะมองโลกแง่บวกเลยสักนิด และไม่เคยเปิดใจรับฟังความคิดเห็นของคนอื่น ผลสุดท้ายเลยหน้าแหกชนิดที่หมอไม่รับเย็บไปตามกัน เพราะพื้นที่ดังกล่าวยังใช้เป็นที่เจรจา และเซ็นสัญญาทางธุรกิจไปในตัว ซึ่งช่วยให้การลงทุนในประเทศไม่สะดุดไงล่ะคะ

* ประเด็นดังกล่าวยังเชื่อมโยงถึงปัญหาวัคซีนทางเลือก จนถึงขั้นฟ้องร้องเรื่องบิดเบือนข้อมูลการจัดซื้อนั้น “โมนิก้า” ถือเป็นเรื่องที่ต้องสนับสนุน หมอ.บ อย่างเต็มที่ เพราะเป็นคนที่กระทุ้งให้ทางการยอมปริปากพูดเสียที และคนในสังคมจะได้รู้กันไปเลยว่า ใครแฟคท์? ซึ่งจะทำให้แต่ละฝั่งต้องรับผลของการกระทำแบบเต็มใจ น้องโมจึงอยากให้ลุยเปิดข้อมูลแบบสุดซอยไปเลย..ทุกคนจะได้สิ้นสงสัยเรื่องการทำตัวเป็นอีแอบเจ้าค่ะ

* อีกเรื่องที่ “โมนิก้า” อยากจะเม้าท์ถึงสุด ๆ คงเป็นวลีเด็ดที่เกี่ยวกับ call out มันชักจะเลอะเทอะจนถึงขั้นบ้าบอคอแตกกันไปใหญ่ (บอกตรง ๆ คนเป็นแฟนคลับก็ยังเหนียวแน่นเหมือนเดิม) เพราะไอ้คำว่า “ประชาธิปไตย” มันทำให้ฝ่ายคลั่งสุดโต่งสามารถรุกล้ำเข้าไปยังพื้นที่ความคิดอีกฝ่ายหนึ่งแบบบัดซบ ซึ่งเป็นเรื่องที่รับไม่ได้ในสายตาของอีฉัน เพราะมันเห็นกันอยู่แล้วว่า การเมืองไทยมันร..ยำขนาดไหน?..แล้วจะลากคนที่ไม่อยากยุ่งการเมืองเข้าไปทำพระแสงอะไร? ไอ้พวกชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์ไม่ครบ (ชิปห..ย)..อิอิอิ

* งานนี้ใครจะว่า “โมนิก้า” เอนเอียงก็ช่างหัวประไร เพราะเดี๊ยนมีหน้าที่ดึงสติให้ทุกคนอยู่บนความจริง ซึ่งเหมือนกับการวิจารณ์การเคลื่อนตัวของตลาดหุ้นไทยในช่วงหลัง ๆ ไม่ค่อยมีคำหวานมาป้อยอเหมือนเมื่อก่อน ก็เป็นเพราะยังไม่สามารถคาดหวังอะไรได้ ส่งผลให้การถีบตัวขึ้นมาปิดที่ระดับ 1,572.01 จุด บวกไป 2.31 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 8.32 หมื่นล้านบาท น่าจะเป็นลักษณะของการฟื้นไม่จริงนะตัวเอง

* ที่น่าสนใจคือ หากมองตามรูปการณ์ที่ “โมนิก้า” เม้าท์ให้ฟังก่อนหน้านี้จะรู้ได้ทันทีว่า การเคลื่อนตัวของดัชนีเป็นแบบภูเขา 3 ลูกต่ำลง! โดยยอดของลูกแรกเกิดขึ้นในช่วงกลางเดือน มิ.ย. ซึ่งอยู่แถว ๆ 1,640 จุด และยอดของลูกที่สองเกิดขึ้นในช่วงปลายเดือน มิ.ย. ซึ่งอยู่แถว ๆ 1,600 จุด และคาดเดาล่วงหน้าว่า ยอดของลูกที่สามกำลังก่อตัวขึ้น และมีโอกาสจบลงแถว 1,580 จุด เพราะเป็นบริเวณที่มีเส้น 25 วัน และ 75 วัน ขวางทางไว้น่ะสิ

* ประกอบกับสถานการณ์รอบด้านยังไม่น่าวางใจ “โมนิก้า” จึงมองการขึ้นตามต่างประเทศคือจังหวะของการเล่นสั้น ๆ  และนักเล่นต้องทำตัวให้พลิ้วไหวตามสถานการณ์ให้ทัน ซึ่งเหมือนการวิ่งขึ้นแรงของหุ้น DELTA ก่อนจะปิดไปที่ระดับ 652 บาท บวกไป 78 บาท หรือขึ้นไป 13.60% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 6.54 พันล้านบาท ก็เป็นเรื่องที่ทุกคนรู้อยู่แก่ใจว่า โอเวอร์แวลู แต่ยังชอบเล่นกันแบบนี้..มันมีประโยชน์อะไรที่เดี๊ยนจะไปห้ามปรามล่ะคะ

* ส่วนการไล่ราคาหุ้น THG จนขึ้นมาปิดที่ระดับ 31.50 บาท บวกไป 1.75 บาท หรือขึ้นไป 5.90% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 766 ล้านบาท ก็มาจากความเชื่อที่ว่า เที่ยวนี้รับเหนาะ ๆ จากการเซ็นสัญญานำเข้าวัคซีนทางเลือก แถมเมื่อดีดตัวเลขกำไรคร่าว ๆ บนลูกคิด ก็อัพแวลูของหุ้นได้ค่อนข้างเยอะ จึงเป็นจังหวะของการเล่นเก็งกำไรแบบสุดซอย ส่วนเรื่องจริงจะออกมาเหมือนที่คิดไหม? ก็ต้องดูกันต่อไปนะนายจ๋า!

* ไหน ๆ ก็เม้าท์ถึงหุ้นที่มีประเด็นร้อนขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า”คงต้องหันไปมองช่องน้อยสีอย่าง BEC กันสักหน่อย เพราะที่ผ่านมาก็มีดราม่าของคนทำหน้าที่ประกาศข่าวไม่ว่างเว้น และดูเหมือนจะมีการเทคไซด์ในหลายเรื่องเสียด้วย แต่สุดท้ายก็ทำให้เรตติ้งของช่องพุ่งกระฉูด และนำมาซึ่งกำไรก้อนโตแบบนี้กระมัง ราคาหุ้นเลยเด้งรับอย่างรวดเร็ว ก่อนจะปิดไปที่ระดับ 14.30 บาท บวกไป 0.30 บาท หรือขึ้นไป 2.15% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 852 ล้านบาทเจ้าค่ะ