ORI เติมพลังงาน.!
ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI เป็นหุ้นอสังหาริมทรัพย์ที่ร้อนแรง และเติบโตเร็ว...เดิมจุดขายของ ORI เป็นอสังฯ ระดับกลาง แนวรถไฟฟ้า แต่หลังจากไปเทก PARK 24 ซึ่งเป็นคอนโดฯ หรูลักชัวรี่ ก็ทำให้ ORI ยกชั้นขึ้นมาจากระดับกลางสู่พรีเมียมด้วย
ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI เป็นหุ้นอสังหาริมทรัพย์ที่ร้อนแรง และเติบโตเร็ว…เดิมจุดขายของ ORI เป็นอสังฯ ระดับกลาง แนวรถไฟฟ้า แต่หลังจากไปเทก PARK 24 ซึ่งเป็นคอนโดฯ หรูลักชัวรี่ ก็ทำให้ ORI ยกชั้นขึ้นมาจากระดับกลางสู่พรีเมียมด้วย
และด้วยการเติบโตเร็วปานสายฟ้าแลบ…ORI ก็พยายามกระจายความเสี่ยง นอกจากสร้างแล้วขาย ก็รุกไปสู่ Recurring Income มากขึ้น อย่างธุรกิจโรงแรม เพื่อหวังสร้างรายได้ประจำ ควบคู่ไปกับการทำอสังหาฯ บายโปรเจกต์…
ทว่าด้วยสถานการณ์โควิด ทำให้แผนของ ORI ชะงักงัน ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจโรงแรม ที่ยอดเข้าพักดรอปไป ไม่เป็นตามเป้าหมาย ขณะที่ธุรกิจอสังหาฯ ก็ประสบปัญหากำลังซื้อหดหาย…
ต้องบอกว่า ORI น่าจะผ่านจุดพีกไปแล้ว…ก็เลยต้องหาอะไรใหม่ ๆ มาเติมเต็มในช่วงที่ตลาดอสังหาฯ ซบเซา และธุรกิจที่เป็น Recurring Income ไม่เป็นไปตามแผน
ไล่มาตั้งแต่การเติมธุรกิจศูนย์โลจิสติกส์…โดยเมื่อช่วงต้นปีไปจับไม้จับมือกับบริษัท เจดับเบิ้ลยูดี อินโฟโลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ JWD ผู้นำด้านโลจิสติกส์ครบวงจร ตามมาด้วยการเติมธุรกิจบริหารสินทรัพย์ ตั้งบริษัทลูกขึ้นมาใหม่ในชื่อ บริษัท บริหารสินทรัพย์ พรอมมิเนนท์ จำกัด เพื่อรุกธุรกิจ AMC
นอกจากนี้ยังมีแผนจะเติมธุรกิจเฮลท์แคร์ ด้วยการสร้างโครงการออริจิ้น เวลเนส บางนา ทำเวลเนสเซ็นเตอร์และเรสซิเดนท์ จะเปิดตัวปี 2565 และเวลเนส เฮลท์แคร์ ที่คอมเพล็กซ์ รามอินทรา คาดจะเปิดดำเนินการปี 2566
ไม่หมดแค่นี้ ล่าสุดก็มาเติมธุรกิจพลังงาน ด้วยการไปจับมือกับบริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ GUNKUL ตั้งบริษัทร่วมทุน ภายใต้ชื่อบริษัท ออริจิ้น กันกุล เอ็นเนอร์ยี จำกัด เพื่อร่วมกันพัฒนาและลงทุนในโครงการขายไฟฟ้าจากโซลาร์รูฟท็อป, EV Charger และ Parity Energy Trading ในคอนโดมิเนียม และหมู่บ้านของ ORI…
โดยทั้งคู่จะถือหุ้นเท่า ๆ กันฝ่ายละ 49.99%…
ในมุมของ ORI จากเดิมธุรกิจโรงแรมต้องดูทิศทางของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว แน่นอนว่าต้องใช้เวลาอีกสักพักใหญ่กว่าจะฟื้น ส่วนธุรกิจอสังหาฯ ก็ต้องพึ่งพากำลังซื้อ ซึ่งมีแนวโน้มลดลง…ธุรกิจพลังงานก็น่าจะตอบโจทย์ในช่วงนี้
อย่างแรก เป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับโครงการ เป็นจุดขายของโครงการ เพราะลูกค้าสามารถใช้ไฟฟ้าที่ถูกกว่าค่าไฟฟ้าทั่วไป แถมมีจุดชาร์จรถไฟฟ้าไว้บริการอีกด้วย และอย่างที่สอง เป็นที่มาของรายได้ มีมูลค่าเพิ่มจากการขายไฟฟ้า
ฟาก GUNKUL จะเป็นตัวเสริมของรายได้…เนื่องจาก PPA โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศไทย ไม่มีเพิ่มแล้ว ที่มีจะเป็นพลังงานทางเลือก มีแค่โรงไฟฟ้าขยะชุมชนหรือชีวมวล ซึ่งไม่ใช่ทางของ GUNKUL และด้วย GUNKUL เองเกิดมาจากธุรกิจเทรดดิ้ง แต่ที่เป็นตัวตน คือ โซลาร์ฟาร์ม
ดังนั้น การร่วมกับ ORI ครั้งนี้ จะได้ 3 ขาด้วยกัน…1) ได้ขายของ จากธุรกิจเทรดดิ้ง 2) ได้ค่าติดตั้งแผงโซลาร์รูฟท็อป และ 3) ค่าบริหารจัดการ
ก็ถือเป็นอีกมูฟเมนต์ที่น่าสนใจของทั้งคู่ ซึ่งคาดว่าจะเห็นเป็นรูปธรรมในไตรมาส 3 ปีนี้
ที่จริงโมเดลนี้ก็คล้ายกับกรณีของบริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ SENA ซึ่งเป็นเจ้าแรก ๆ ที่ติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปให้กับลูกค้าทั้งโครงการบ้านเดี่ยวและทาวน์โฮม…
กลับมาที่ ORI ก็น่าสนใจว่า การเติมพลังงานครั้งนี้ จะช่วยจุดเชื้อไฟให้หุ้น ORI กลับมาร้อนฉ่าเหมือนในอดีตได้หรือไม่..?
เอ๊ะ…หรือไฟจะมอดไปแล้ว..? คงต้องไปถาม “เฮียพีระพงศ์ จรูญเอก” แล้วล่ะ…
…อิ อิ อิ…