กลเกมกัญชงกัญชา!

* หลังจาก “โมนิก้า” ยุ่งวุ่นวายกับเรื่อง “การเมือง” บ้า ๆ บอ ๆ สักระยะหนึ่ง ก็ถึงเวลาเผือกเรื่องชาวบ้านแบบเต็มตัว จึงขอเม้าท์ถึงบรรยากาศการลงทุน และอิทธิพลต่าง ๆ แบบรวบรัดตัดตอน เพื่อจะเอาพื้นที่ข่าวไปเม้าท์เรื่องลับ ๆ ล่อ ๆ ของคนในวงการสายเขียว หลังมีพวกสายดาร์กแฝงตัวเข้ามาปั่นกระแสแบบเว่อร์วังอลังการ ชนิดที่เรียกกันว่า วัวตายควายล้มทั้งหมู่บ้านกันเลยทีเดียวเจ้าค่ะ

* ด้วยเหตุนี้ถึงทำให้เดี๊ยนต้องรีบสรุปการแกว่งตัวของดัชนี ก่อนจะปิดไปที่ระดับ 1,540.88 จุด บวกไป 2.02 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 7.36 หมื่นล้านบาท ไม่ใช่เรื่องที่เหนือความคาดหมาย เพราะเป็นเพียงแค่การรีบาวด์ธรรมดา ๆ แต่ที่น่าเป็นห่วงคือ จำนวนคนติดเชื้อโควิด-19 ทำสถิตินิวไฮทุกวัน ขณะที่ยอดตายก็อยู่ในหลักร้อยมาระยะหนึ่ง ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่ทำให้ระบบเศรษฐกิจไทยมีปัญหาหนักขึ้นไปอีกนะจ๊ะ

* ประเด็นดังกล่าวทำให้ตลาดหุ้นไทยตกอยู่ในภาวะกดดันอย่างหนัก และมีเพียงสิ่งเดียวที่พอจะพึ่งได้ก็คือ กำไรในไตรมาส 2 ควรจะออกมาดี หรือเลวร้ายสุดกำไรในไตรมาส 3 ต้องออกมาไม่แย่กว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน ถึงจะทำให้ “โมนิก้า” เชื่ออย่างสนิทใจว่า ที่มั่นสุดท้ายของการเล่นรอบนี้ตรงบริเวณ 1,500 จุด น่าจะเอาอยู่! เพราะวัคซีนไฟเซอร์ 20 ล้านโดสที่กำลังจะเข้ามาในไตรมาส 4 กลายเป็นตัวจุดชนวนความหวังของทุกคน (ขอให้ทำได้ตามเป้าสักทีเถอะ เห็นโม้ไว้เยอะ แต่ไม่เคยทำได้ซักที) น่ะสิ

* ในเมื่อผู้นำประเทศยังเล่นลิ้นเรื่องความหวังอย่างเก่งกาจ ก็อย่าแปลกใจที่ผู้คนในตลาดหุ้นพลิกลิ้นเก่งตามไปด้วย เพราะมันมีแบบอย่างในการใช้วาทะศิลป์เป็นไอดอลกระมัง! ซึ่งเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้ “โมนิก้า” ต้องเปิดหน้าแฉ  “กลเกมหุ้นกัญชา”  หลังมีผู้สันทัดกรณีออกมาเล่าถึงขั้นตอนการทำที่ถูกต้องควรทำอย่างไรบ้าง? เดี๊ยนเลยถึงบางอ้ออย่างรวดเร็ว และทำให้รู้การไม่กินเส้นของผู้ประกอบการบางรายเจ้าค่ะ

* ว่ากันว่า กัญชงกัญชากลายเป็นเรื่องราวลุกลามใหญ่โต ล้วนเกิดจากการโฆษณาชวนเชื่อเกินความจริง และมีการหว่านเงินเพื่อแย่งชาวไร่เข้ามาอยู่ในระบบของตัวเอง พร้อมกันนั้นก็มีการปั่นราคากัญชงกัญชาขึ้นไปแบบเว่อร์ ๆ ในระหว่างที่รอใบอนุญาตกันอย่างเอิกเกริก ส่วนบริษัทผู้ผลิตสินค้าที่ต้องการสารสกัดจากกัญชงกัญชา ก็ถูกโอ้โลมด้วยคำพูดหวาน ๆ แต่ดูน่าเชื่อถือให้มาเป็นลูกค้ากันอย่างดาษดื่นพะยะค่ะ

* ความดังกล่าวก็มาแตกดังโพล๊ะเมื่อไม่นานนี้ จนคนที่อยู่นอกเกมมีอาการเหรอหรากันเป็นแถว ก็อีตอนที่ RBF ได้ใบอนุญาต ปลูก-สกัด CBD-หีบน้ำมัน เป็นเจ้าแรกของประเทศไทย! ทำให้เกิดปรากฏการณ์ผึ้งแตกรังแบบไม่คาดคิดมาก่อน เพราะเรื่องที่ประโคมข่าวกันปาว ๆ ตามข้างถนน มันเป็นเพียงเกมเร่ขายใบอนุญาตเพื่อหวังค่ามัดจำเข้ากระเป๋าตัวเองกันทั้งนั้นน่ะสิ

* ประเด็นดังกล่าวทำให้ชาวไร่ชาวสวน และผู้ผลิตสินค้าที่เซ็นสัญญา MOU รวมทั้งกลุ่มนายทุนที่วางเงินมัดจำไปไม่ถูกกันเป็นแถว เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นไม่เป็นไปตามแผนที่คุยไว้ซักอย่าง..โดยเฉพาะเรื่องสารสกัด CBD ซึ่งนอกตลาดเม้าท์กันให้แซ่ดให้ราคากิโลละล้าน เอาเข้าจริงก็เป็นเรื่องเพ้อเจ้อเหลือเกิน เพราะในมุมของผู้ผลิตสินค้าออกสู่ตลาดที่เป็นแมส เขาเม้าท์กันให้แซ่ดว่า แบกต้นทุนไม่ไหวอย่างแน่นอนเจ้าค่ะ

* ส่วนในมุมของการส่งออกเพื่อไปตีตลาดต่างประเทศ ก็แทบเป็นไปไม่ได้เลยในเชิงธุรกิจ เพราะคนในวงการเขารู้อยู่เต็มอกไซส์บิ๊กเบิ้มว่า โดนพวกสายเขียวจากฝั่ง “อเมริกา” กับ “จีน” ตีขนาบอย่างหนัก และกดราคาต่ำเรี่ยดิน “โมนิก้า” เลยกังวลว่า  งานนี้จะมีคนถูกต้มเยอะขนาดไหน? เพราะยังไม่ทันจะได้ฤกษ์เปิดตัวสินค้าอย่างเป็นทางการ ก็มีการอ้างชื่อเจ้านั้นเจ้านี้ เพื่อสร้างเครดิตให้ตัวเองกันเละเทะไปหมดแล้วค่ะ

* งานนี้จริงเท็จประการใดไม่มีใครรู้ แต่ที่รู้แน่ชัดคือ สังคมกลับให้ความสนใจกับหุ้น UPA ในชนิดที่จ้างผีมาโม่แป้งกันเลยทีเดียว บวกกับยักษ์ใหญ่พีอาร์ที่นำโดยค่าย M ควงคู่มากับค่าย P แข่งกันรับหน้าเสื่อเพื่อประโคมข่าวสายเขียวกันจ้าละหวั่นแบบนี้..มันทำให้ลูกอีช่างเผือกอย่าง “โมนิก้า” ต้องล้วงลึกถึงแก่นแท้ของ GTG ภายใต้การนำทีมของ เฮีย.ค กันสักหน่อย หลังมีข่าวเม้าท์ให้แซ่ดว่า คู่ปรับตัวฉกาจอย่าง เฮีย.ท แห่งค่าย GTH รู้ไส้รู้พุงคนนี้สุด ๆ.. งานนี้บอกได้คำเดียวว่า มันส์! เพราะเดี๊ยนจะขุดต่อเพื่อทำให้ทุกคนสิ้นสงสัยว่า โอเวอร์แวลูจริงไหม?..555