เรามาถึงจุดนี้ได้อย่างไร
ตัวเลขผู้ป่วยและเสียชีวิตในไทยที่พุ่งขึ้นทำสถิตินิวไฮต่อเนื่อง จนล่าสุดัฐบาลที่หมดไร้ซึ่งปัญญาที่จะควบคุมสานการร์ต้องตัดสินใจ “ตัดขาดทุน” ด้วยมาตรการใช้ยาแรงสุดคือ ปิดเมืองอย่าง กทม. สั่งปิดกิจการทุกชนิด
ตัวเลขผู้ป่วยและเสียชีวิตในไทยที่พุ่งขึ้นทำสถิตินิวไฮต่อเนื่อง จนล่าสุดัฐบาลที่หมดไร้ซึ่งปัญญาที่จะควบคุมสานการร์ต้องตัดสินใจ “ตัดขาดทุน” ด้วยมาตรการใช้ยาแรงสุดคือ ปิดเมืองอย่าง กทม. สั่งปิดกิจการทุกชนิด
รายงานข่าวด้วนเมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม ระบุว่า ในช่วงเช้ามีการประชุมด่วน ศปก.ศบค. พิจารณาการเพิ่มมาตรการควบคุมสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ที่มีแนวโน้มระบาดรุนแรง ได้มีการเสนอแนะ ถึงมาตรการลดการเคลื่อนที่ให้มากขึ้น และมีการเสนอให้ปิดกิจกรรม กิจการทุกอย่างในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ยกเว้น การขนส่งสินค้า อาหาร ยา วัคซีน สื่อสาร และสาธารณูปโภค
นอกจากนี้ ยังเน้นเรื่องการควบคุมงดการเดินทางข้ามจังหวัดอย่างเคร่งครัด เฝ้าระวังการเดินทางข้ามประเทศทางชายแดนและผู้เดินทางมาจากต่างประเทศอย่างเข้มงวด ทางด้านสถานประกอบการ โรงงาน จะให้ใช้วิธีการตรวจด้วยแอนติเจน เทสต์ คิท(ATK) และใช้มาตรการบับเบิ้ล แอนด์ ซีล(Bubble and seal) เพื่อควบคุมโรค
ส่วนกรณีสถานประกอบการที่ไม่สามารถดำเนินการตามมาตรการได้ ให้เน้นการทำงานจากที่บ้าน(Work from home) ให้มากขึ้นทั้งหมด
นั่นหมายความว่าธุรกรรมทางเศรษฐกิจเกือบทุกชนิดจะชะงักงันในทันที รวมทั้งตลาดหุ้นด้วย สภาพดังกล่าวคือเมืองที่ถูกระบุคือ กทม.และอีก 12 หวัดรวมทั้งชลบุรี จะกลายสภาพเป็นเมืองร้าง หากมีการนำมาใช้จริง
สภาวะดังกล่าว เข้าข่ายเดียวกันกับสิ่งที่ บอคคาชิโอ บรรยายไว้ตอนต้นเรื่องของนวนิยาย เดอคาเมรอน อันโด่งดัง
แม้ว่าบอคคาชิโอ จะแปรสภาพวิกฤตให้เป็นโอกาส ด้วยการเล่าเรื่องว่า อิตาลีในช่วงเวลาที่เกิดกาฬโรค กลุ่มหญิงสาวเจ็ดคนและชายหนุ่มสามคนหนีจากเมือง ฟลอเรนซ์ ที่มีโรคระบาดไปยังวิลล่าร้างในชนบทของฟีโซเลเป็นเวลาสองสัปดาห์
ในช่วงค่ำ สมาชิกแต่ละคนในปาร์ตี้จะเล่าเรื่องในแต่ละคืน ยกเว้นงานบ้านสัปดาห์ละหนึ่งวัน และวันสำคัญทางศาสนาที่พวกเขาไม่ได้ทำงานเลย ส่งผลให้มีการเล่าเรื่อง 100 เรื่อง… ผลลัพธ์คือ เรื่องประโลมโลกย์ที่ชุมจิตใจของผู้คนที่เศร้าโศกกับการ “ตายเป็นเบือ” ได้อย่างมีพลัง
ตรงกันข้าม เพลงยาวพยากรณ์กรุงศรีอยุธยาที่เอาเรื่องราวบางส่วนในสุบินชาดกมาทำนายอนาคตทางลบ กลับกลายเป็นที่เล่าขายต่อกันมายาวนานจนถึงปัจจุบัน ถิอเป็นวรรณกรรมการเมืองชิ้นเอกที่หาคนแต่งไม่ได้
พลังของเพลงยาว เริ่มต่นด้วยความไพบูลย์พูนสุข
….กรุงศรีอยุธยานั้นสมบูรณ์ … เพิ่มพูนด้วยพระเกียรติขจรจบ
อุดมบรมสุขทุกแผ่นภพ … จนคำรบศักราชได้สองพัน
จากนั้น ความเลวร้ายก็มาเยือน เมื่อเกอดความแปรปรวนวิปริตผิดอาเพศขึ้นมา
ด้วยพระมหากษัตริย์ มิได้ทรงทศพิธราชธรรม์
.จนเกิดเข็ญเป็นมหัศจรรย์ ๑๖ ประการ
…..
เทวดาผู้รักษาพระศาสนา … จะรักษาแต่คนฝ่ายอกุศล
สับปุรุษจะพ้นแก่ทุรชน … มิตรตนจะฆ่าซึ่งความรัก
ภรรยาจะฆ่าซึ่งคุณผัว … คนชั่วจะล้างผู้มีศักดิ์
ลูกศิษย์จะสู้ครูพัก … จะหาญหักผู้ใหญ่ให้เป็นน้อย
ผู้มีศีลจะเสียซึ่งอำนาจ … นักปราชญ์จะตกต่ำต้อย
กระเบื้องจะเฟื่องฟูลอย … น้ำเต้าอันลอยจะถอยจม
ผู้มีตระกูลจะสูญเผ่า … เพราะจัณฑาลมันเข้ามาเสพย์สม
ผู้ทรงศีลจะเสียซึ่งอารมณ์ … เพราะสมัครสมาคมด้วยมารยา
พระมหากษัตริย์จะเสื่อมสิงหนาท ประเทศชาติจะเสื่อมซึ่งยศฐา
อาสัตย์จะเลื่องฤๅชา … พระธรรมจรรยาฤๅกลับ
ผู้กล้าจะเสื่อมใจหาญ … จะสาบสูญวิชาการทั้งปวงสรรพ
ผู้มีสินจะถอยจากทรัพย์ … สับปุรุษจักอับซึ่งน้ำใจ
……
คำถามว่า เรามาถึงจุดนี้ได้อย่างไร จึงเกิดขึ้น โดยที่ไม่ต้องการคำตอบ