เปิดหุ้นหลบภัย

ยังมีหุ้นหลบภัยที่น่าสนใจให้เข้าช่วงความกังวลว่าผู้ติดเชื้อโควิด-19 จะเพิ่มขึ้นอีกหรือไม่ ถ้าหากยังสูงขึ้นก็ยังคงกดดันตลาดหุ้นอย่างต่อเนื่อง


เส้นทางนักลงทุน

ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ และเสียชีวิตยังคงอยู่ในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง ข้อมูลจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ พบว่าอัตราการติดเชื้อจากการตรวจพบเริ่มเร่งตัวสูงขึ้น หรือนัยยะคือบ่งชี้ว่ามีการติดเชื้อที่เป็นวงกว้างมากขึ้น สอดคล้องกับตัวเลขการติดเชื้อที่เริ่มเห็นจังหวัดอื่นๆ เร่งตัวสูงขึ้น อาทิ นครปฐม ปราจีนบุรี ร้อยเอ็ด

ผลดังกล่าวยังคงมีความน่ากังวล และทาง บล.คันทรี่ กรุ๊ป ยังมีความกังวลเช่นเดิมว่าหากเห็นการเร่งตัวไปต่างจังหวัดมากขึ้น อาจตามมาด้วยมาตรการควบคุมที่เข้มงวดมากขึ้น ซึ่งจะเป็นลบกับตลาดหุ้นในแง่เศรษฐกิจและกำไรบริษัทจดทะเบียน

โดยกลยุทธ์การลงทุน ยังคงแนะนำการครอบครองเงินสดที่สูงขึ้นจากหลายๆ ความเสี่ยง ที่รออยู่ในช่วงถัดไป ส่วนการลงทุนระยะสั้นอาจพยายามเลือกหุ้นที่ผลกระทบจากโควิด-19 จำกัด อาทิ สื่อสาร คือ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC

ขณะที่ น้ำประปา คือ บริษัท ทีทีดับบลิว จำกัด (มหาชน) หรือ TTW ส่วนโรงพยาบาล คือ บริษัท บางกอก เชน ฮอสปิทอล จำกัด (มหาชน) หรือ BCH, บริษัท โรงพยาบาลจุฬารัตน์ จำกัด (มหาชน) หรือ CHG

เช่นเดียวกับ โรงไฟฟ้า คือ บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) หรือ BCPG, บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BGRIM, บริษัท ซีเค พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ CKP, บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC และ บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF

ทั้งนี้ จากหุ้นข้างต้นที่ทาง บล.คันทรี่ กรุ๊ป มองอาจเป็นทางเลือกต่อการลงทุนที่รับผลกระทบจากโควิด-19 จำกัดนั้น โดยยังคงให้เป็นหุ้น Stock Pick

สำหรับ บริษัท ซีเค พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ CKP โดยแนะนำ “ซื้อ” ให้ราคาเป้าหมาย 6.40 บาท เป็นเพราะคาดว่าผลประกอบการของบริษัทในไตรมาส 2/2564 จะปรับตัวดีขึ้นทั้งจากงวดเดียวกันของปีก่อน และจากไตรมาสก่อน เนื่องจากผลงานที่ดีขึ้นของโครงการพลังน้ำ ในสปป.ลาว (NN2, XPCL) ด้วยปัจจัยตามฤดูกาลที่หนุนให้มีปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนมากขึ้นในช่วงฤดูมรสุม และแรงหนุนเชิงบวกจากสภาพอากาศแบบ ลานีญา (La Nina)

ตามด้วย บริษัท บางกอก เชน ฮอสปิทอล จำกัด (มหาชน) หรือ BCH โดยแนะนำ “ถือ” ให้ราคาเป้าหมาย 28 บาท ซึ่งเก็งกำไรระยะสั้นจากคาดผลประกอบการไตรมาส 2/2564 ทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ 740 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 166% จากงวดเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 129% จากไตรมาสก่อน พร้อมคาดผลประกอบการไตรมาส 3/2564 ทำสถิติสูงสุดใหม่ และเป็นจุดสูงสุดของปี โดยคาดครึ่งหลังของปี 2564 เติบโตจากครึ่งปีแรก หนุนจากรายได้จากการตรวจและรักษาโควิด-19 รวมถึงรายได้จากการให้บริการฉีดวัคซีนทางเลือก

นอกจากนี้ ยังมีหุ้นหลบภัยที่น่าสนใจให้เข้า ช่วงความน่ากังวลว่าผู้ติดเชื้อโควิด-19 จะเพิ่มขึ้นอีกหรือไม่ เพราะถ้าหากยังสูงขึ้นเรื่อย ๆ ก็ยังคงกดดันตลาดหุ้นไปอย่างต่อเนื่อง เพราะนักลงทุนอาจต้องขายเพื่อลดความเสี่ยงออกมาก่อน เพื่อถือเงินสดไว้ แต่หากนักลงทุนต้องการลงทุนหุ้นหลบภัย อย่างหุ้นจ่ายปันผลที่ดีได้ต่อเนื่อง ให้อัตราส่วนเงินปันผลตอบแทน (Dividend Yield) สูง โดยจะอยู่ที่มากกว่าระดับ 4% ซึ่งจะเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในช่วงดังกล่าว

สำหรับหุ้นให้อัตราเงินปันผลตอบแทน (Dividend Yield) สูงกว่า 4% เบื้องต้นจากข้อมูล ณ วันที่ 20 ก.ค. 2564 ตัวอย่างเช่น DTAC, TCAP, TASCO, PSH, TISCO, TEAMG, STGT, SMK, LALIN, SPCG, SCP, LH, SC, STA, WHAUP, CTW, ORI, ASP, SCCC, RATCH, AP, QH, TVO, TTW, SPALI, TK, EP, UVAN, LST และ JCT

ส่วนรายละเอียดมีดังนี้ DTAC อัตราเงินปันผลตอบแทน 9.42%, TCAP อัตราเงินปันผลตอบแทน 9.09%, TASCO อัตราเงินปันผลตอบแทน 8.12%, PSH อัตราเงินปันผลตอบแทน 7.50%, TISCO อัตราเงินปันผลตอบแทน 7.10%, TEAMG อัตราเงินปันผลตอบแทน 7.02%,

STGT อัตราเงินปันผลตอบแทน 6.73%, SMK อัตราเงินปันผลตอบแทน 6.72%, LALIN อัตราเงินปันผลตอบแทน 6.70%, SPCG อัตราเงินปันผลตอบแทน 6.58%, SCP อัตราเงินปันผลตอบแทน 6.33%, LH อัตราเงินปันผลตอบแทน 6.25%, SC อัตราเงินปันผลตอบแทน 5.96%, STA อัตราเงินปันผลตอบแทน 5.92%, WHAUP อัตราเงินปันผลตอบแทน 5.90%, CTW อัตราเงินปันผลตอบแทน 5.84%,

ORI อัตราเงินปันผลตอบแทน 5.66%, ASP อัตราเงินปันผลตอบแทน 5.59%, SCCC อัตราเงินปันผลตอบแทน 5.57%, RATCH อัตราเงินปันผลตอบแทน 5.45%, AP อัตราเงินปันผลตอบแทน 5.42%, QH อัตราเงินปันผลตอบแทน 5.41%, TVO อัตราเงินปันผลตอบแทน 5.19%, TTW อัตราเงินปันผลตอบแทน 5.13%, SPALI อัตราเงินปันผลตอบแทน 4.85%,

TK อัตราเงินปันผลตอบแทน 4.69%, EP อัตราเงินปันผลตอบแทน 4.59%, UVAN อัตราเงินปันผลตอบแทน 4.58%, LST อัตราเงินปันผลตอบแทน 4.53%, และ JCT อัตราเงินปันผลตอบแทน 4.52% เป็นต้น

ท้ายสุดแล้ว หุ้นที่ Dividend Yield สูงมักเป็นทางเลือกที่มักหยิบยกขึ้นมาในช่วงภาวะตลาดที่เป็นขาลง หรือช่วงวิกฤตเข้ามากดดัน เพราะถือว่าเป็นหุ้นหลบภัย เพราะอย่างไรก็ยังมีเงินปันผลตอบแทนเข้ามา

Back to top button