KBANK-ไชนีสวอลลูบคมตลาดทุน
เรื่องนี้ไม่น่าเกี่ยวกับผู้บริหารแบงก์กสิกรไทย หรือ KBANK
ธนะชัยณ นคร
เรื่องนี้ไม่น่าเกี่ยวกับผู้บริหารแบงก์กสิกรไทย หรือ KBANK
แต่อาจไปเกี่ยวกับตัวของบริษัทหลักทรัพย์ รวมถึงบรรดา บลจ. และกองทุนต่างๆ ที่ต่างรับรู้ข้อมูลจากการประชุมนักวิเคราะห์หลักทรัพย์จากโบรกฯ หลายแห่งเมื่อวานนี้ (30 ก.ย.)
ก่อนหน้านี้ สังเกตกันไหม หลายโบรกฯ ต่างแนะนำซื้อหุ้น KBANK
โดยเฉพาะในช่วงที่ SCB กับ KTB กำลังมีปัญหาหนี้กับ SSI และนั่นทำให้ต่างมีคำแนะนำมาซื้อ KBANK กัน
หากย้อนกลับไปดูราคาหุ้น KBANK เมื่ออาทิตย์ก่อนหน้า ราคาได้ปรับลงมาเรื่อยๆ
ก็เข้าใจได้ว่าต่างชาติน่าจะขาย เพราะ KBANK เป็นหุ้นที่นักลงทุนต่างชาติสนใจเกือบจะมากสุดในกระดานหุ้นไทย และมากสุดในกลุ่มธนาคารพาณิชย์
พอมาวานนี้ความชัดเจนก็เกิดขึ้น
หลังการประชุมนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ ปรากฏว่าราคาหุ้น KBANK ปรับลงอย่างหนักเลย
ปฏิเสธไม่ได้ว่า การขายทิ้งที่เกิดขึ้นก็น่าจะมาจากมีการรับรู้ข้อมูลเกี่ยวกับผลประกอบการในไตรมาส 3/2558 ของ KBANK ว่าจะออกมาไม่ดีนัก
คาดกันว่า KBANK จะต้องตั้งสำรองพิเศษเพิ่มขึ้นจากปัญหา เอ็นพีแอลที่เพิ่มขึ้น
และนั่นจะทำให้กำไรในไตรมาส 3 มีโอกาสปรับลงแน่นอน
พอร์ตลงทุนของโบรกฯ อาจมีการทิ้งออกมา
รวมถึงกองทุนต่างๆ ที่เข้าไปลงทุนในหุ้น KBANK ก็อาจมีการปรับพอร์ตด้วยการขายหุ้น KBANK กันออกมา แล้วอาจไปซื้อตัวอื่นแทน
รวมถึงการขายทิ้งของนักลงทุนต่างชาติด้วย
จริงๆ แล้ว ข้อมูลที่ได้รับฟังจากผู้บริหารก็น่าจะถูกจัดเป็นความลับก่อนจะเผยแพร่ออกมา
แต่ในทางปฏิบัติกลับเป็นความลับ“เฉพาะกลุ่ม” หรืออยู่ในกลุ่มที่เป็นวงใน (หลายคน)แล้วนำมาใช้ประโยชน์
ประเด็นรูปแบบนี้อาจไม่ถือว่าเป็นความผิดหรอกครับ
แต่อาจไปเข้าข่ายเรื่องของ “จรรยาบรรณ” ในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับ“ไชนีสวอล” (Chinese Wall)
ไชนีสวอล ก็คือ การใช้ข้อมูลให้เหมาะสมระหว่างฝ่ายงานต่างๆ ภายในบริษัท และภายในกลุ่มบริษัทเพื่อป้องกันความขัดแย้งทางผลประโยชน์และป้องกันการใช้ข้อมูลที่เป็นความลับ
วันนี้ข้อมูลจากโบรกฯ ต่างๆ ในการวิเคราะห์หุ้น KBANK ก็น่าจะทยอยกันออกมาแล้วล่ะ
เมื่อวานนี้ ไม่แน่ใจว่าสะเด็ดน้ำกันหรือยัง
แต่ราคาหุ้นตัวเป้งๆ อย่าง KBANK ลงมา 2.29% ก็ถือว่าไม่ธรรมดา
ประเด็นคือ ต้องดูว่า ราคาเป้าหมายของหุ้น KBANK จะถูกปรับลดลงหรือไม่ หรือปรับลดลง ก็ต้องดูว่า จะลงแค่ไหน
แต่ก็เชื่ออีกนั่นแหละว่า ราคาเป้าหมายใหม่ ยังไงก็น่าจะยังสูงกว่าราคาในกระดานที่ปิดไปเมื่อวานนี้
จริงๆ แล้ว วานนี้ นักลงทุนรายย่อย ซึ่งผมว่าส่วนใหญ่นะ ก็จะพอทราบว่า ราคาหุ้น KBANK ที่ลงมาเพราะเหตุใด เพราะปัจจัย (ลบ) มันมีไม่มากหรอก
ส่วนใครจะขาย (หมู) ทิ้งตามหรือไม่ ไม่ทราบจริงๆ
สมมุติว่า งานนี้ พอร์ตโบรกฯ และกองทุน ทิ้งหุ้นลงมา (ทุบหุ้น) เพื่อชวนให้รายย่อยทิ้งตาม แล้วเข้าไปดักเก็บ
ประเด็นนี้ก็มีความเป็นไปได้เช่นกัน
แต่ไม่ว่าจะในรูปแบบไหน อย่างไร ก็หนีไม่พ้นเรื่องจรรยาบรรณ “ไชนีสวอล”
ปัญหาที่เกิดขึ้น KBANK ก็น่าจะคล้ายกับปัญหาที่เกิดกับ SCB และ KTB ที่เป็นผลกระทบในระยะสั้น ซึ่งแน่นอนว่า นักลงทุนระยะสั้นจะได้รับผลกระทบ
ส่วนนักลงทุนระยะยาวนี่คือโอกาส