ขายตัวเล็ก เก็บ SET50

“ธีม” การเทรดหุ้นช่วงนี้ ต้องเปลี่ยนกันแบบรายวัน


“ธีม” การเทรดหุ้นช่วงนี้ ต้องเปลี่ยนกันแบบรายวัน

เมื่อวานนี้จะเห็นว่าหุ้นขนาดเล็ก มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว และราคาวิ่งขึ้นมาเยอะ ต่างถูกขายทำกำไร ออกมาเช่น 7UP AS CHG YGG (T1) DOD

และยังมีหุ้นกลาง เล็ก อีกหลายตัว ที่เริ่มเห็นการขายทำกำไร

ในทางกลับกันบนกระดานเทรด

เราเริ่มเห็นการซื้อกลับของหุ้นในกลุ่ม SET50

แรงซื้อเริ่มเข้ามาในช่วง 15.00 น.

มีการเข้ามาทยอยซื้อสะสมเป็นรายตัว มีหุ้นใน SET50 เป็นกลุ่มเป้าหมาย มูลค่า “ซื้อ-ขาย” ค่อย ๆ เพิ่มขึ้น และหุ้นหลายตัวเริ่มกลับเข้ามาติดอันดับ ใน Most Active Value

ย้อนหลังไปหลายวันก่อนหน้านี้

หากสังเกตกัน

เราจะพบว่า หุ้นกลุ่ม SET50 มีมูลค่าการซื้อขายลดลงไปมาก

เหตุมาจากการปรับพอร์ต หรือลดน้ำหนักการลงทุนของนักลงทุนต่างประเทศ

ส่วนนักลงทุนสถาบัน โดยเฉพาะ “กองทุน”

เข้าใจว่า คงหาจังหวะเข้าซื้อเหมาะ

ไม่ใช่เข้าไปรับทุกออเดอร์ที่ต่างชาติขายออกมา

เราจึงเห็นแรงขายของทั้งต่างชาติ นักลงทุนสถาบันออกมาพร้อม ๆ กัน และมีรายย่อยประเภท “ใจถึง พึ่งได้” เข้ามารับไว้ และเป็นแรงที่ช่วยประคองดัชนี

เมื่อวานนี้ต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิ 870 ล้านบาท

และนักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิ 820 ล้านบาท

ถามว่าแรงซื้อของนักลงทุน 2 กลุ่มนี้มีนัยสำคัญ หรือบ่งบอกอะไรบ้าง

คำตอบคือ ยังไม่น่าจะเป็นสัญญาณอะไรเชิงบวก

อย่างนักลงทุนต่างประเทศเอง ในระยะกลาง น่าจะยังเห็นแรงขายออกมาเรื่อย ๆ เพราะค่าเงินบาทยังอ่อนอยู่ และปัจจัย (บวก) ในประเทศ ยังไม่เห็นความชัดเจน

กองทุนเองก็คงดู หรือชิงจังหวะ

ก่อนหน้านี้ที่ขายออกมาเยอะ ก็น่าจะมีเงินสดในมือเยอะ

กองทุนเอง มีข้อจำกัดเกี่ยวกับการ “ถือเงินสด” ในมือ ว่าจะต้องมีอยู่ไม่เกินจำนวนเท่าไหร่เปอร์เซ็นต์

หากช่วงไหนเงินสดในมือเยอะไป

เราอาจเห็นการทยอยซื้อของกองทุนในหุ้น SET50 ที่ราคาหุ้นที่เขามองว่า “เริ่มถูก” และต่ำกว่าพื้นฐานมากเกินไป

ประเด็นสำคัญ หรือสิ่งที่ต้องระวัง คือ นักลงทุนทั่วไป อย่าเผลอซื้อตาม

เพราะกลัวว่าจะตกขบวน

เพราะเท่าที่คุยกับนักวิเคราะห์ และอ่านบทวิเคราะห์จากโบรกฯ หลายสำนัก

ส่วนใหญ่ยังมองว่า ดัชนีหุ้นไทยยังเป็น sideway down

แนวรับสำคัญ 1,500-1,505 จุด

หากหลุดจาก 1,500 จุด จะมีแนวรับถัดไปเรื่อย ๆ แต่ต่างเชื่อมั่นว่า จะไม่หลุด 1,450 จุด พร้อมกับแนะนำว่า ช่วงนี้ให้ถือเงินสด และให้ไปรอรับหากดัชนีหลุด 1,500 จุด

นักวิเคราะห์ต่างมองว่า ปัจจัยภายในประเทศ จากประเด็นโควิด-19  ยังเป็นปัจจัยกดดันสำคัญ

หากวัคซีนฉีดไม่ได้ตามนัด

ยอดผู้ติดเชื้อยังมีจำนวนเพิ่มขึ้น และยังมองไม่เห็นจุดสูงสุด ระยะเวลากึ่งล็อกดาวน์ยังขยายออกไปเรื่อย ๆ

ประเด็นเหล่านี้จะกดตัวเลขเศรษฐกิจให้ต่ำลง และมีโอกาส “ติดลบ” เป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน

หากเป็นเช่นนั้น

นักวิเคราะห์มีโอกาสปรับลดคาดการณ์กำไรของ “บริษัทจดทะเบียน (บจ.)” ลงมาอีก

Back to top button