1,500 กล้าเก็บไหม?

* สถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยในยามที่เรื่องราวต่าง ๆ ยังฝุ่นตลบ มักสร้างความหนักใจให้กับผู้เล่นกลุ่มต่าง ๆ จนไม่มีอันจะทำอะไรนั้น กลายเป็นประเด็นที่ทำให้ “โมนิก้า” ต้องรีบลุกขึ้นมาถามแฟนคลับว่า หากดัชนีไหลลงมาถึงบริเวณ 1,500 จุดอย่างเป็นทางการ ยังกล้าช้อนหุ้นไหม? และมีหุ้นตัวไหนที่เหมาะสำหรับการเล่นรอบ รวมทั้งมีหุ้นตัวไหนเหมาะต่อการเล่นยาวบ้างไหมเอ่ย?


* สถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยในยามที่เรื่องราวต่าง ๆ ยังฝุ่นตลบ มักสร้างความหนักใจให้กับผู้เล่นกลุ่มต่าง ๆ จนไม่มีอันจะทำอะไรนั้น กลายเป็นประเด็นที่ทำให้ “โมนิก้า” ต้องรีบลุกขึ้นมาถามแฟนคลับว่า หากดัชนีไหลลงมาถึงบริเวณ 1,500 จุดอย่างเป็นทางการ ยังกล้าช้อนหุ้นไหม? และมีหุ้นตัวไหนที่เหมาะสำหรับการเล่นรอบ รวมทั้งมีหุ้นตัวไหนเหมาะต่อการเล่นยาวบ้างไหมเอ่ย ?

* เนื่องจากเห็นกันทนโท่ว่า สถานการณ์ในประเทศไม่สู้ดีเลยสักอย่าง และยังต้องเผชิญกับแรงกดดันเงินไหลออกต่อเนื่อง จึงมองไม่เห็นหนทางที่ดัชนีจะเด้งกลับอย่างบูรณาการนั้น ล้วนเป็นเรื่องที่แฟนคลับต้องทำตัวพลิ้วไหวตามสถานการณ์ให้ได้ เพราะหุ้นแกนหลักยังถูกกระหน่ำขายแบบไม่มีเยื่อใย ส่งผลให้การยืนปิดที่ระดับ 1,525.11 จุด บวกไป 3.19 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 6.63 หมื่นล้านบาท ไม่มีความหมายสำหรับตัวอิฉันนะจะบอกให้

* ด้วยเหตุนี้ถึงต้องพุ่งเป้าไปที่การย่อตัวของดัชนีเป็นหลัก เพื่อชี้ให้เห็นอาการวิตกยังอยู่ในก้นบึ้งหัวใจของทุกคน จึงต้องหันมาใช้ยุทธวิธีตั้งรับมากกว่าลุยไปตามกระแส เพราะเหลือหุ้นไม่กี่ตัวที่ยังสามารถถีบตัวขึ้นได้ต่อเนื่อง “โมนิก้า” จึงขอจำแนกหุ้นดังกล่าวออกเป็นกลุ่ม ๆ เพื่อทำให้เห็นความแตกต่างที่เกิดขึ้นในห้วงเวลานี้ เขาให้เครดิตกับหุ้นที่ประเมินกันว่า กำไรจะมาตามนัดน่ะสิ

* เหมือนกับการทะยานขึ้นอีกครั้งของหุ้น RCL จนขึ้นมาปิดที่ระดับ 59 บาท บวกไป 1.50 บาท หรือขึ้นไป 2.60% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.39 พันล้านบาท ก็ตั้งอยู่บนเรื่องกำไรจะโตตามคาด! ผสานกับหุ้นสามารถรักษาฐานแนวรับ 54 บาทได้เป็นเดือน จึงเชื่ออย่างสนิทใจได้ทันทีว่า หุ้นมีโอกาสไปต่อค่อนข้างสูง เพราะเมื่อดูจากค่า PE 10 เท่า มันทำให้หุ้นตัวนี้สตรองสุด ไงล่ะคะ

* เช่นเดียวกับเจ้าพ่อสื่อสาร ADVANC ไต่เพดานบินขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่สาม ก่อนจะปิดไปที่ระดับ 180.50 บาท บวกไป 1 บาท หรือขึ้นไป 0.55% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.16 พันล้านบาท ล้วนมาจากข่าวเม้าท์ที่พูดกันให้แซ่ดว่า เตรียมตัวเทคโอเวอร์ผู้ให้บริการค่ายสีฟ้า ซึ่งจะเป็นการกินรวบตลาดอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาดแบบนี้ มันเป็นอารมณ์ที่ทุกคนคล้อยตามได้อย่างรวดเร็ว..ส่วนเรื่องจริงจะเป็นอย่างไร ต้องติดตามดูตอนต่อไปนะจ๊ะ

* ส่วนรายที่แรงไม่หยุด และฉุดไม่อยู่อย่างหุ้นข้าวโพดหวาน APURE ก็กลับมาทวงความยิ่งใหญ่ในยุทธจักรได้อย่างยอดเยี่ยมกระเทียมดอง ยิ่งเห็นหุ้นขึ้นมาติดในกระดาน most active พร้อมกับยืนปิดที่ระดับ 9.10 บาท บวกไป 1.30 บาท หรือขึ้นไป 16.70% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 834 ล้านบาท ยิ่งทำให้คนเล่นต้องลุ้นงบไตรมาส 2 จะออกมาสอดรับกับราคาในกระดานแค่ไหน?..มันเป็นเรื่องที่ขาลุยต้องเกาะติดให้ดีเจ้าค่ะ

* สำหรับการดีดกลับของหุ้น CKP ถือเป็นจุดที่น่าสนใจสำหรับขาลุยจริง ๆ เพราะการขึ้นมายืนปิดที่ระดับ 6.15 บาท บวกไป 0.25 บาท หรือขึ้นไป 4.25% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 409 ล้านบาท มันเป็นจังหวะของการ follow buy ตามสไตล์พวกเล่นเร็ว บวกกับตอนนี้มีสตอรี่น้ำเยอะทำให้ปั่นไฟเยอะ จึงกลายเป็นช็อตที่เชื่อขนมกินได้ว่า งบไตรมาส 3 น่าจะออกมาดีไงล่ะคะ

* ส่วนรายที่รับศึกหนักของจริง “โมนิก้า” คงมองไปที่หุ้น  CPALL เพื่อชี้ให้เห็นพิษโควิดทำให้หุ้นตัวนี้สะบักสะบอมจริง ๆ แถมเมื่อย้อนกลับไปดูราคาหุ้นช่วงปลายเดือน มี.ค. อยู่แถว ๆ 70 บาท ยิ่งทำให้ช้ำใจหนักขึ้นกว่าเดิม เพราะช่วงนั้นทุกคนต่างแฮปปี้กันถ้วนหน้า แต่มาวันนี้ราคาหุ้นลงมายืนปิดที่ 57.50 บาท ลบไป 1.50 บาท หรือลงไป 2.55% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.20 พันล้านบาทแบบนี้..หุ้นมีโอกาสลงต่อสูงนะตัวเอง

* คล้ายกับกรณีของหุ้นผู้ชายขายน้ำ 7UP อย่างไรอย่างนั้นเลย เพราะการขึ้นหนนี้มาจากความคาดหวังที่เป็นรูปธรรมสุด ๆ แต่เผอิญราคาหุ้นวิ่งเลยเถิดไปไกลเหลือเกิน จึงโดนถล่มเทขายลงมาเรื่อย ๆ จนวานนี้ลงมายืนปิดที่ 2.80 บาท ลบไป 0.34 บาท หรือลงไป 10.80% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 489 ล้านบาท แถมเป็นการร่วงหนัก ๆ สามวันติดแบบนี้..ภาษาหุ้นเขาเรียกว่า เจ้ามือเลิกแล้วนะคะ

Back to top button