ขึ้นเพื่อลง?

* หากอิงข้อมูล “พื้นฐาน” กับ “ราคาหุ้น” ในแบบที่ไม่ต้องคิดอะไรให้ซับซ้อนจะเห็นว่า มีอะไรหลายอย่างที่ไม่ไปในทิศทางเดียวกัน จึงกลายเป็นช่องว่างที่ก่อให้เกิดแรงขายระลอกใหม่ออกมาตลอดเวลา และทำให้การรีบาวด์ในช่วงตลาดหุ้นขาลงกลายเป็นหลุมพรางของนักเล่นที่ไหวตัวไม่ทัน จึงอยากให้แฟนคลับเผื่อใจสำหรับการตัดขาดทุน หากผลลัพธ์จากการซื้อหุ้นไม่เป็นไปตามแผนที่วางไว้นะจ๊ะ


* หากอิงข้อมูล “พื้นฐาน” กับ “ราคาหุ้น” ในแบบที่ไม่ต้องคิดอะไรให้ซับซ้อนจะเห็นว่า มีอะไรหลายอย่างที่ไม่ไปในทิศทางเดียวกัน จึงกลายเป็นช่องว่างที่ก่อให้เกิดแรงขายระลอกใหม่ออกมาตลอดเวลา และทำให้การรีบาวด์ในช่วงตลาดหุ้นขาลงกลายเป็นหลุมพรางของนักเล่นที่ไหวตัวไม่ทัน จึงอยากให้แฟนคลับเผื่อใจสำหรับการตัดขาดทุน หากผลลัพธ์จากการซื้อหุ้นไม่เป็นไปตามแผนที่วางไว้นะจ๊ะ

* ที่สำคัญคือ เดี๊ยนไม่ใช่คนที่ชอบชักใบให้เรือเสียจนเป็นสันดาน แต่เป็นคนที่ชอบเม้าท์เรื่องต่าง ๆ ตามเนื้อผ้า  จึงไม่มีความจำเป็นต้องโลกสวยในภาวะที่หลายอย่างยังย้วยย๊อบแย๊บ เพราะเป็นการฝืนธรรมชาติโดยไม่มีเหตุผลอันควร “โมนิก้า” ถึงต้องตั้งจั่วหัวแรง ๆ เพื่อทำให้แฟนคลับได้มองภาพลงทุนระยะยาวดีขึ้น ขณะเดียวกันก็ยังได้เห็นการดีดตัวในแต่ละครั้ง มักนำมาสู่จุดต่ำสุดใหม่เป็นประจำแบบนี้ มันน่ากลัวจริง ๆ นะนายจ๋า!

* ฉะนั้นการที่ดัชนีทะยานขึ้นมาปิดที่ 1,540.51 จุด บวกไป 15.40 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 6.96 หมื่นล้านบาท ก็ควรมีคำอธิบายที่หนักแน่นเป็นองค์ประกอบหลัก ยิ่งมองในมุม PE ของตลาดหุ้นไทยอยู่ในระดับ 28 เท่า ยิ่งสร้างแรงกดดันให้กับผู้เล่นมากขึ้นเป็นทวีคูณ  “โมนิก้า” ถึงอยากให้แฟนคลับมองไปที่ทรงหุ้นรายตัว มันมีอะไรแตกต่างจากก่อนหน้านี้หรือเปล่า? เพราะเป็นตัวแปรที่ชี้ว่า ได้ไปต่อไหมเอ่ย?

* เหมือนกับในรายของหุ้น STA ซึ่งมีแต่คนพูดไปในทางเดียวกันว่า น่าซื้อ! แต่เอาเข้าจริงกลับมีอาการง่อยเปลี้ยเพลียแรงเป็นเวลาหลายเดือน จนวานนี้เห็นหุ้นขึ้นมายืนปิดที่ระดับ 39.50 บาท บวกไป 1.25 บาท หรือขึ้นไป 3.25% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.01 พันล้านบาท มันเป็นจังหวะที่ต้องคิดหนักเหมือนกันว่า ทำไมพวก “กองทุน” กับ “ฝรั่ง” ไม่เล่น? หรือเป็นเพราะวงรอบของสินค้าโภคภัณฑ์เข้าสู่ห้วงเวลาถดถอย ก็ว่าให้ชัดกันไปเลยนะตัวเอง

* ประเด็นดังกล่าวทำให้ “โมนิก้า” ต้องเอื้อนเอ่ยถึงหุ้น ADVANC เพื่อชี้ให้ทุกคนได้เห็นข่าวสารที่เกี่ยวข้องกับหุ้นตัวนี้มีเยอะเหลือเกิน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องตั้งกองรีท หรือถูกโบรกเกอร์ดาวน์เกรด รวมทั้งเรื่องกำไรแผ่ว ล้วนเป็นประเด็นที่ถูกหยิบยกขึ้นมาเม้าท์แตกแทบทั้งนั้น และราคาหุ้นก็เลือกที่จะตอบรับข่าวลบมากกว่า หุ้นเลยทิ้งตัวลงมาปิดที่ 177 บาท ลบไป 3.50 บาท หรือลงไป 1.95% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.48 พันล้านบาทไงล่ะคะ

* อีกรายที่ทำให้เม่าเซ็งเป็ดไปตามกัน คงมองไปที่หุ้นดาวเทียม (ชื่อก็บอกอยู่แล้วเป็นของปลอม) THCOM เป็นรายถัดมาในทันที เพราะการวิ่งขึ้นก่อนหน้านี้ ล้วนมาจากความคาดหวังกำไรเป็นที่ตั้ง แต่ทันทีที่ประกาศงบขาดทุนตัวแดงโร่ปุ๊บ ความน่าสนใจของหุ้นก็ลดฮวบในทันที ส่งผลให้การยืนปิดที่ระดับ 9.90 บาท ลบไป 0.30 บาท หรือลงไป 2.95% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 189 ล้านบาท ไม่ใช่ฐานรับที่มั่นคงน่ะสิ

* เม้าท์ถึงเรื่องฐานหุ้นไม่มั่นคงขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” คงต้องเอ่ยถึงน้องแอนแอ๊น ANAN ตามกระแสสังคมสักนิดหนึ่ง เพราะเรื่องราวที่ขึ้นโรงขึ้นศาลทำให้ชาวบ้านชาวช่องเกิดอาการเผือกขึ้นมาในบัดดล (ขนาดคนไม่ได้อยู่ในตลาดหุ้นยังอยากรู้เรื่อง) จึงได้แต่หวังว่า เฮียโก้จะเร่งสางปัญหาให้ได้ในเร็ววัน ขืนปล่อยไว้เนิ่นนานคงมีแต่แย่ลง และการยืนปิดที่ระดับ 1.60 บาท บวกไป 0.01 บาท หรือขึ้นไป 0.65% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 26 ล้านบาท ก็เป็นสัญญาณเตือนว่า ทุกคนกังวลอนาคตของบริษัทจะเป็นอย่างไรนะคุณน้อง!

* ไหน ๆ ก็มาในโทนไม่มั่นใจทั้งที “โมนิก้า” คงต้องเอ่ยถึงหุ้น SAWAD เพื่อชี้ให้เห็นทิศทางของหุ้นออกมาในโทนไซด์เวย์ดาวน์อย่างเดียว และเรื่องนี้เกี่ยวข้องโดยตรงกับกำไรหลังจากนี้จะออกมาดีไหม? รวมทั้งการดีดตัวขึ้นมาปิดที่ 65.50 บาท บวกไป 1.75 บาท หรือขึ้นไป 2.75% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 610 ล้านบาท ใช่การเปลี่ยนทิศอย่างถาวรหรือเปล่า? ล้วนเป็นเรื่องที่นักเล่นต้องคิดเหมือนกันนะจ๊ะ

* ส่วนหุ้นอีกรายที่ดูแล้วอึดอัดใจมากสุด เพราะการขึ้นเกิดขึ้นแค่ประเดี๋ยวประด๋าว จนบรรดากองเชียร์ OSP ถอยห่างจากหุ้นตัวนี้ออกไปเรื่อย ๆ แถมเมื่อย้อนดูข้อมูลในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมาจะเห็นว่า มีแค่ครั้งเดียวที่หุ้นขึ้นไปแถว 38.50 บาท เพราะเวลาส่วนใหญ่หมดไปกับการย่ำฐานบริเวณ 34 บาท จึงอยากให้ขาลุยประเมินการยืนปิดที่ 35 บาท บวกไป 0.75 บาท หรือขึ้นไป 2.20% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 187 ล้านบาท น่าสนใจขนาดไหน..อิอิอิ

Back to top button