หุ้นวงแตก

* เดี๊ยนขอยืนยันอีกครั้งว่า การทะยานของดัชนีต้องตั้งอยู่บนพื้นฐานเหมือนเช่นที่เคยปฎิบัติมาทุกครั้ง จึงรู้สึกเป็นกังวลทุกครั้งที่เห็นดัชนีพยายามบวกสวน ทั้งที่เนื้อในยังอยู่ในลักษณะต๊ะติ๊งโหน่ง แถมการแก้ปัญหาของประเทศก็ยังมืดแปดด้าน “โมนิก้า” จึงไม่เชื่อว่า ตลาดหุ้นไทยจะได้ไปต่อในช่วงไตรมาส 3 เพราะมันไม่มีเรื่องไหนที่พอจะทำให้รู้สึกชื่นใจเลยพับผ่าซิ!


* เดี๊ยนขอยืนยันอีกครั้งว่า การทะยานของดัชนีต้องตั้งอยู่บนพื้นฐานเหมือนเช่นที่เคยปฎิบัติมาทุกครั้ง จึงรู้สึกเป็นกังวลทุกครั้งที่เห็นดัชนีพยายามบวกสวน ทั้งที่เนื้อในยังอยู่ในลักษณะต๊ะติ๊งโหน่ง แถมการแก้ปัญหาของประเทศก็ยังมืดแปดด้าน “โมนิก้า” จึงไม่เชื่อว่า ตลาดหุ้นไทยจะได้ไปต่อในช่วงไตรมาส 3 เพราะมันไม่มีเรื่องไหนที่พอจะทำให้รู้สึกชื่นใจเลยพับผ่าซิ!

* ฉะนั้นการที่มีแรงซื้อเข้ามาพยุงตลาดเป็นช่วง ๆ จึงเหมือนเป็นการบอกให้รู้ว่า ตลาดหุ้นไทยกำลังรอวันที่ฝีแตก ซึ่งเป็นภาพที่ไม่โสภาสถาพรเอาเสียเลยสำหรับชาวหุ้น แต่เมื่อมองความเป็นจริงที่เกิดขึ้นในเวลานี้ “โมนิก้า” ก็เป็นอีกคนที่ต้องอยู่กับความจริงอันโหดร้ายแบบไม่มีเงื่อนไข และต้องอยู่กับเรื่องเฮงซวยหลายอย่างให้ได้ เพราะชีวิตยังต้องดำเนินต่อไปไงล่ะคะ

* ด้วยเหตุนี้ถึงมองการยืนปิดของดัชนีที่ระดับ 1,545.86 จุด บวกไป 5.35 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 6.68 หมื่นล้านบาท น่าจะเป็นแค่การประวิงเวลา เพื่อรอให้มีข่าวดีใหม่ ๆ เข้ามาหนุน ซึ่งเป็นการเปิดช่องให้กับขาลุยเข้ามาเล่นรอบเหมือนที่ผ่านมา แต่ในขณะเดียวกันพบว่า มีหุ้นหลายตัวที่ถูกกระหน่ำขายจนนักเล่นต้องร้องขอชีวิต ซึ่งเป็นการย้ำหัวหมุดว่า ก๊วนขาใหญ่ที่คอยทำหน้าที่ MM มาระยะหนึ่ง ถึงเวลานั่งนับเงินในกระเป๋า และแยกย้ายวงเพื่อกลับบ้านน่ะสิ

* เรื่องนี้เห็นได้จากหุ้น 7UP ซึ่งเป็นแหล่งรวม “เสือ สิงห์ ชะนี เก้ง กวาง” ก็อยู่ในอาการชื่นมื่นสุด ๆ ในช่วงแรกของการรวมตัว และมีการยกราคาหุ้นขึ้นไปเรื่อย ๆ แบบไม่แคร์มาตรการสกัดความอหังการ แถมเมื่อดูราคาหุ้นช่วงกลางเดือน มี.ค. อยู่แค่ระดับ 0.50 บาท แต่ปลายเดือน ก.ค. ขึ้นมาอยู่แถว 3.50 บาท แต่หลังจากนั้นไหลลงเรื่อย ๆ จนวานนี้รูดติดฟลอร์ ก่อนจะปิดไปที่ระดับ 1.78 บาท ลบไป 0.76 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.05 พันล้านบาท เขาเรียกอาการแบบนี้ว่า โหดสลัด!..ไม่เชื่อลองถามก๊วนการเมืองค่ายต่าง ๆ ที่นั่งบอร์ดดูซิ!

* ไหน ๆ ก็เริ่มต้นด้วยเรื่องวงแตกขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” ก็จำเป็นต้องเอ่ยถึงหุ้น THG กันสักหน่อย เพราะทันทีที่ ..ต. ร่อนจดหมายด่วน เพื่อให้ชี้แจงประเด็นดีลวัคซีนภายใน 7 วัน ก็ทำให้ราคาหุ้นทรุดฮวบลงมากองอยู่ที่ 28.25 บาท ลบไป 2.50 บาท หรือลงไป 8.10% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 200 ล้านบาทในทันทีแบบนี้ เหมือนเป็นการส่งสัญญาณให้นักเล่นรีบชิ่งก่อนจะสายเกินแกงใช่หรือเปล่า?..ลองไปคิดกันดูนะจ๊ะ

* ส่วนรายที่ทำท่าจะฟื้นอย่าง STGT กลับโดนมือดีเทขายลงมาอีกระลอก จนราคาหุ้นลงมายืนปิดที่ 37.25 บาท ลบไป 0.75 บาท หรือลงไป 2% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 710 ล้านบาท ก็เป็นอีกหนึ่งโมเมนต์ที่ทำให้ “โมนิก้า” ต้องหันมาพูดถึงอีกรอบ เพราะการเกาะฐานราคาแนวรับสุดท้ายบริเวณ 37 บาทได้อย่างเหนียวแน่น ทำให้หุ้นมีลุ้นเด้งกลับขึ้นไปแถวเส้นแนวรับ 200 วันบริเวณ 40 บาทอีกครั้ง..หากทำไม่สำเร็จ ก็กล่าวคำว่า ซาโยนาระได้เลยจ้า!

* อีกรายที่ออกอาการเป๋หนักอย่างไม่น่าเชื่อ “โมนิก้า” ขอมองไปที่หุ้น RBF เป็นถัดมาในทันที เพราะการไหลลงต่อเนื่องจากยอดใหม่ที่ทำไว้แถว 23 บาท เหมือนเป็นภาพสะท้อนที่บอกให้รู้ว่า แรงขายยังมีอยู่เยอะ! และเรื่องนี้ก็ถูกตอกย้ำด้วยแรงขายที่ถล่มใส่อีกวัน จนหุ้นลงมายืนปิดที่ 17.90 บาท ลบไป 0.40 บาท หรือลงไป 2.20% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 340 ล้านบาท และทำให้แนวรับถัดมาบริเวณ 17 บาทเด่นขึ้นมาทันทีเจ้าค่ะ

* สำหรับหุ้นปลายแถวที่ “โมนิก้า” จำเป็นต้องเอ่ยถึงเพื่อความเข้าใจที่ตรงกัน และต้องการชี้ให้เห็นการไล่ราคาหุ้น BROOK ก่อนหน้านี้เป็นเกมลากออกของธรรมดา ๆ และเกมข่าวที่ออกมาในโทนคริปโทแบบรัว ๆ ก็ไม่มีนัยที่ทำให้มีแรงขับเคลื่อนมากพอ เดี๊ยนถึงอยากให้ขาลุยมองการอ่อนตัวลงมาปิดที่ 0.69 บาท ลบไป 0.02 บาท หรือลงไป 2.80% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 80 ล้านบาท มันไม่มีมุมไหนที่ควรค่าสำหรับการเหลียวแลเลยนะจ๊ะ

Back to top button