ลองมองมุมกลับโมนิก้าและทีมงาน

*วันสุดท้ายของสัปดาห์นี้ แต่เป็นวันที่ 2 ของไตรมาส 4 ปี 58  “โมนิก้า” อยากพูดถึงเรื่องตัวเลขมากกว่าเรื่องอื่นๆ เพราะเรื่องดังกล่าวสามารถช่วยให้นักลงทุนเห็นภาพของตลาดหุ้นไทยได้ชัดเจนขึ้น ในขณะที่สภาพของตลาดหุ้นต่างประเทศเป็นเพียงแค่ตัวเร่งทางจิตวิทยา เดี๊ยนถึงต้องการให้นักลงทุนเข้าใจถึงพฤติกรรมของนักลงทุนกลุ่มต่างๆ เพื่อวิเคราะห์โอกาสของการลงทุนในรอบใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้นพะยะค่ะ

*นั่นหมายความว่า หลังจากนี้ดัชนีจะไต่ระดับขึ้นอย่างช้าๆ ขณะเดียวกันจะเห็นหุ้นที่มีสตอรี่ growth โผล่มาให้เห็นมากหน้าหลายตา และจังหวะนี้ถือว่าเหมาะต่อการโหนกระแสเป็นอย่างยิ่ง เพราะสเต็ปการขึ้นมีอะไรเย้ายวนใจมากมายหลายอย่างด้วยกัน และหนึ่งในทีเด็ดคงหนีไม่พ้น ตัวเลขเศรษฐกิจน่าจะฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญ หลังจากหัวหน้าทีมเศรษฐกิจอัดฉีดเงินเข้ามาในระบบเป็นจำนวนมากไงล่ะค่ะ

*งานนี้บอกได้ทันทีว่า หุ้นใหญ่จะโผล่ขึ้นมาเป็นช่วงๆ หุ้นขนาดกลางจะทรงตัวอย่างแข็งแกร่ง ส่วนหุ้นขนาดเล็กจะเริ่มเปลี่ยนฐานใหม่ที่สูงขึ้นกว่าเดิม “โมนิก้า” ถึงค่อนข้างมั่นใจในสเต็ปความคิดเชิงบวกจะสำฤทธิผลในการลงทุน และวินาทีนี้อย่าได้กลัวอะไรที่ไม่เป็นเรื่อง หรือมัวลังเลใจอะไรอีกต่อไป เพราะข้อมูลที่เกิดขึ้นเที่ยวนี้บอกให้รู้ว่า มีจังหวะต้องใส่ให้เต็มที่พะยะค่ะ

*ฉะนั้นการที่ดัชนีอ่อนตัวลงมาปิดที่ 1,345.15  จุด ลบไป 3.85 จุด ด้วยมูลค่า 2.92 หมื่นล้านบาท อาจเป็นภาพที่ไม่ค่อยสวยงามนักก็จริง แต่อย่าลืมว่า ณ ตรงนี้เป็นการซื้อขายที่ Forward  P/E 15 เท่า ซึ่งเป็นจุดที่นักลงทุนสามารถทยอยสะสมหุ้นได้บางส่วน และถ้ามองถึง 3 เดือนสุดท้ายของปี 58 มักได้อานิสงส์จากแรงซื้อกองทุน LTF กับ RMF รวมถึงการกลับเข้ามาซื้อของฝรั่งตาน้ำข้าว มันชวนให้ฟินสุดๆ เลยเจ้าค่ะ

*เหมือนกับในรายของ CPALL CPF สองรายนี้มีสตอรี่ดีรองรับเต็มประตูหน้าต่าง และยังมีพัฒนาการสำคัญที่ปรากฏให้เห็นเป็นระยะ “โมนิก้า” ถึงอยากให้นักลงทุนลองพิจารณาข้อมูลหุ้นตัวนี้ให้ดีเสียก่อน เพราะมีหลายเรื่องที่ทำให้เดี๊ยนรู้สึกอุ่นใจ งานนี้ใครคิดว่า หุ้นตัวนี้จะมีพัฒนาการที่ขึ้นอย่างต่อเนื่อง ก็หาจังหวะทยอยซื้อหุ้นไปเรื่อยๆ เพราะการที่หุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 49  บาท บวกไป 1.25  บาท ด้วยมูลค่า 830 ล้านบาท และปิดที่ 20.80 บาท บวกไป 0.10 บาท ด้วยมูลค่า 700  ล้านบาท ย่อมมีอะไรบางอย่างซ่อนไว้เจ้าค่ะ

*เช่นเดียวกับกับในรายของ TRUE  รายนี้ถือเป็นหุ้นในดวงใจของ “โมนิก้า” อย่างแท้จริง แถมรูปแบบการเคลื่อนตัวของหุ้นเป็นลักษณะพยายามทะยานขึ้น พ่วงด้วยปัจจัยพื้นฐานที่เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น และที่สำคัญต้องไม่ลืมว่า มีการประเมินราคาเป้าหมายไว้สูงถึงระดับ 13 บาท ขณะที่ราคาล่าสุดอยู่ที่ 9.55 บาท ลบไป 0.20  บาท มันเหลือแก๊ปให้หุ้นวิ่งอีกเยอะนะค่ะ

 

*อีกตัวที่น่าจับตามากที่สุดก็คือ SUPER หลังจากโดนมรสุมแรงเทขายกระหน่ำซัดครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ล่าสุดราคาหุ้นเริ่มปรับตัวขึ้นอีกครั้ง จนมีผู้คนอยากรู้ว่า รอบนี้ราคาหุ้นจะปรับตัวขึ้นไปถึงระดับ 2 บาทไหม? ขณะที่ราคาปิดล่าสุดอยู่ที่ระดับ 1.60 บาท บวกไป 0.03 บาท  “โมนิก้า” ถือเป็นอีกหนึ่งตัวที่น่ารักน่าลุ้นสำหรับการลงทุนในรอบนี้….ด้วยความปรารถนาดี..สวย สปอร์ต ใจดี กทม.

* สำหรับดาวเด่นที่ “โมนิก้า” อยากให้คุณๆ ท่านๆ พิจารณาด่วนจี๋ก็คือ IRPC  ซึ่งถูกยกให้เป็นหุ้นเก็งกำไรที่น่าโหนกระแสมากสุดตัวหนึ่ง ราคาหุ้นก็เลยปรับตัวสูงขึ้นอีกครั้งล่าสุดขึ้นมาปิดที่ 3.84 บาท บวกไป 0.08 บาท หรือขึ้นไป 2% ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นเป็นวันที่ 2 พร้อมกับสัญญาณเทคนิคหนุนสุดตัวแบบนี้ คุณๆ ต้องนั่งบวกลบคูณหารกันเอาเองว่า “คุ้มกับความเสี่ยงไหม”…ทราบแล้วเปลี่ยน!!

*เม้าท์ถึงหุ้นที่มีสตอรี่ดี สัญญาณเทคนิคหนุน “โมนิก้า” ถึงกับต้องหันมามอง TVT  ในทันที แถมพรายกระซิบย้ำให้ฟังเสมอว่า โปรเจ็กต์ปี 58 จะทำให้กำไรโตดับเบิ้ล พร้อมกับบอกใบ้ให้อีกว่า รอบที่แล้วขึ้นไปแตะ 2.50 บาทมาทีหนึ่ง รอบนี้ก็น่าจะทำได้ดีกว่ารอบที่แล้ว ขณะที่ราคาหุ้นล่าสุดอยู่ที่ระดับ 2.22 บาท บวกไป 0.08 บาท มันเป็นจังหวะที่นักเล่นต้องตามให้ดีๆ นะคะ

*พร้อมกันนี้  “โมนิก้า” ขอเปลี่ยนอิริยาบถไปดูหุ้นอีกหนึ่งตัวที่เด้งขึ้นอย่างร้อนแรง ทั้งที่ก่อนหน้านี้เพิ่งโดนถล่มเสียยับเยิน  และตัวที่อยากจะพูดถึงมากเป็นอันดับแรกก็คือ COM7  ราคาหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 3.28 บาท บวกไป 0.16 บาท หรือขึ้นไป 5%  มีคนอยากรู้ว่า ราคาหุ้นจะทะยานขึ้นไปทำ new high ได้หรือเปล่า? เนื่องจากรอบที่แล้วราคาหุ้นเคยขึ้นไป 3.50 บาท จึงเป็นหุ้นที่น่าจับตาเป็นอย่างยิ่งนะจะบอกให้

*ตบท้ายกันที่หุ้นพลังงานน้องใหม่ SCN ซึ่งเข้าซื้อขายในช่วงต้นปี 58  ที่ราคา 5 บาท หลังจากนั้นก็ทะยานขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนขึ้นไปทำ high ไว้ที่ระดับ 16 บาท ต่อจากนั้นกลับรูดลงอย่างต่อเนื่อง จนล่าสุดหุ้นปิดที่ 8.25 บาท บวกไป 1.05 บาท หรือลงไป 11.30% ด้วยมูลค่า 350 ล้านบาท โดยที่ทิศทางของหุ้นอยู่ในทิศทางโค้งตัวลงแบบนี้ ลงต่อค่อนข้างสูง ยิ่งมีข่าวว่า ปตท.กลายมาเป็นคู่แข่งของบริษัทแบบนี้..ตายหยังเขียด! เพียงแต่ในระหว่างทางน่าจะเด้งขึ้นมาก่อนนะคะ

*ป.ล.วันนี้นักเล่นต้องหัดมองมุมกลับในหุ้นที่เริ่มเด้งกลับ  เพราะแนวทางการเล่นหุ้นในช่วงนี้ต้องยึดหลักโหนกระแสสั้นๆ ไปก่อน