SOLAR เปลี่ยนมือ..ผลัดธุรกิจ
หุ้นบริษัท โซลาร์ตรอน จำกัด (มหาชน) หรือ SOLAR หลุดหายไปจากจอเรดาร์ของนักลงทุนมาสักพักแล้ว ไม่มีข่าวคาว...อุ๊ย ข่าวคราวความเคลื่อนไหวให้เห็น แต่อยู่ ๆ ก็เริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงหลาย ๆ อย่าง เริ่มตั้งแต่ปลายเดือน ก.ค. มีการโยนบิ๊กล็อตเกิดขึ้น..!? ตอนนั้นก็คิดกันไปต่าง ๆ นานา ใครขาย..?
หุ้นบริษัท โซลาร์ตรอน จำกัด (มหาชน) หรือ SOLAR หลุดหายไปจากจอเรดาร์ของนักลงทุนมาสักพักแล้ว ไม่มีข่าวคาว…อุ๊ย ข่าวคราวความเคลื่อนไหวให้เห็น แต่อยู่ ๆ ก็เริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงหลาย ๆ อย่าง เริ่มตั้งแต่ปลายเดือน ก.ค. มีการโยนบิ๊กล็อตเกิดขึ้น..!? ตอนนั้นก็คิดกันไปต่าง ๆ นานา ใครขาย..?
ที่จริงในแง่โครงสร้างผู้ถือหุ้น SOLAR เปลี่ยนมาหลายรอบแล้ว…
ถ้าย้อนตำนานหุ้นตัวนี้ ก่อร่างสร้างตัวมาจากกลุ่ม “เตชะณรงค์” และกลุ่ม “กุญชรยาคง” ทำโซลาร์ฟาร์ม และขายแผงโซลาร์เซลล์
ต่อมาเกิดการแยกทางกัน กลุ่ม “กุญชรยาคง” หันไปปลุกปั้นบริษัท เอสพีซีจี จำกัด (มหาชน) หรือ SPCG ในปัจจุบัน ส่วนกลุ่ม “เตชะณรงค์” ยังถือหุ้นต่อ แต่มีการเปลี่ยนโครงสร้างผู้ถือหุ้นใหม่
จนปัจจุบันมีสองกลุ่มใหญ่เข้ามา คือ กลุ่ม “เดชกิจวิกรม” และกลุ่ม “เพชรอำไพ”
ล่าสุดเห็นการเปลี่ยนโครงสร้างผู้ถือหุ้นอีกครั้ง…หลังจากกลุ่ม “เพชรอำไพ” นำโดย “ศึกษิต เพชรอำไพ” ถือหุ้นใหญ่เบอร์ 1 ขายล้างพอร์ต 11.99% ตามมาด้วย “ชูชาติ เพ็ชรอำไพ” ถือหุ้นใหญ่เบอร์ 4 ที่ขาย 5.5164% เหลือถือแค่ 0.0029% ส่วน “ศรีศักร เดชกิจวิกรม” ถือหุ้นใหญ่เบอร์ 2 เจียดขาย 6.94% เหลือถือ 3.7704%
เป็นการเปลี่ยนมือหุ้น SOLAR อีกครั้ง..!!
ล่าสุดมีชื่อ “ปุณฑรีก์ อิศรางกูร ณ อยุธยา” โผล่มาถือหุ้นใหญ่ SOLAR ที่ 18.38% ถือเป็นกลุ่มใหม่เอี่ยมอ่อง..!!
ถ้าไปดูโปรไฟล์ของ “ปุณฑรีก์” นั้น หลายคนรู้จักในฐานะอาจารย์มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ และผู้ช่วยผู้อำนวยการสำนักวิจัยเอแบคโพลล์ ส่วนแวดวงหุ้นค่อนข้างใหม่ เท่าที่เห็นมีถือหุ้นบริษัท ยูบิส (เอเชีย) จำกัด (มหาชน) หรือ UBIS เท่านั้น
แต่ “ปุณฑรีก์” มีบริษัทส่วนตัวที่ชื่อว่า บริษัท วอร์เรน อินคอร์ปอเรชั่น จำกัด ก่อตั้งเมื่อปี 2559 ด้วยทุนจดทะเบียน 5 ล้านบาท ทำธุรกิจเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ แต่ในแง่ผลประกอบการขาดทุนต่อเนื่องทุกปี…
ก็ต้องจับตาดูว่า “ปุณฑรีก์” จะเป็นตัวจริงเสียงจริงหรือเปล่า..?
ที่สำคัญ จะมาช่วยสร้างแวลูให้กับ SOLAR ที่จมปลักอยู่กับตัวเลขขาดทุนมาหลายปี และเป็นหุ้นที่หมดหวังของผู้ถือหุ้นได้อย่างไร..? อันนี้ต้องดูกันต่อไป
นอกจากนี้ ในเชิงโครงสร้างธุรกิจของ SOLAR ก็ปรับมาตั้งแต่กลางปี 2563 แล้ว เห็นได้ชัดจากการเปลี่ยนบริคณห์สนธิ…ในขณะที่บริษัทอื่นล้มลุกคลุกคลานอยู่กับโควิด แต่ SOLAR มีการเพิ่มวัตถุประสงค์ของบริษัทหลายข้อ
ไล่มาตั้งแต่ 1) ประกอบกิจการค้าที่ดิน ทำการจัดสรรที่ดินและบ้าน การจัดสรรที่ดินและสิ่งก่อสร้าง หรือทำการก่อสร้างสิ่งก่อสร้างอย่างอื่นบนที่ดินเพื่อจำหน่าย ให้เช่า ให้เช่าซื้อ เพื่อเป็นสถานที่อยู่อาศัย สถานที่ทำการพาณิชย์ สถานที่ราชการ โรงงานอุตสาหกรรม
2) ประกอบกิจการค้าอาคารชุด ซื้อ ขาย ซื้อขายผ่อนส่ง ซื้อขายเงินเชื่อ ให้เช่าซื้อซึ่งห้องชุดในอาคารชุดดังกล่าว 3) จัดซื้อที่ดินแปลงใหญ่แล้วแบ่งแยกจัดสรรออกเป็นแปลง ๆ สำหรับขาย ตลาดจนรับจ้างปลูก ดูแลรักษาซึ่งสวนเกษตร สวนป่า สวนยาง สวนผลไม้ สวนกล้วยไม้ สวนผัก 4) การขอสัมปทานประกอบกิจการน้ำประปา น้ำบาดาล
5) โอนกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินที่เป็นสาธารณูปโภคและบริการสาธารณะต่าง ๆ ในโครงการจัดสรรที่ดินให้แก่นิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรร และ 6) ประกอบกิจการเข้าประมูล และร่วมเป็นคู่สัญญาทั้งกับภาครัฐและเอกชนเกี่ยวกับสายเคเบิลใยแก้วนำแสง สายทองแดง และสายสัญญาณทุกประเภท สายไฟฟ้าแรงสูงสำหรับติดตั้งใต้น้ำ ใต้ดิน และแขวนอากาศทุกประเภท เป็นต้น
นั่นเท่ากับว่า ต่อไปนอกจากขายแผงโซลาร์เซลล์แล้ว ก็อาจเห็น SOLAR ไปขายบ้าน ขายคอนโดฯ ขายน้ำ ติดตั้งระบบสายเคเบิลน่ะสิ…
ไม่รู้ว่าทั้งการเปลี่ยนโครงสร้างผู้ถือหุ้น (อีกครั้ง) และการเปลี่ยนนโยบายธุรกิจ…SOLAR โฉมใหม่จะล้างคราบโซลาร์เปื้อนโคลนได้หรือเปล่าน้อ..?
…อิ อิ อิ…