TikTok สู่ตลาดหุ้นฮ่องกง.?

เป็นที่ชัดเจนแล้วว่า ByteDance บริษัทแม่ของแอปพลิเคชันอันดับหนึ่งอย่าง TikTok ประกาศเลื่อนแผนระดมทุนผ่านการขายหุ้น IPO ในตลาดหุ้นสหรัฐฯ อย่างไม่มีกำหนด อันเป็นผลมาจากหน่วยงานกำกับดูแลจีน เริ่มควบคุมบริษัทในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีจีนอย่างเข้มข้น โดยเฉพาะบริษัทที่มีแผนระดมทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศ การตัดสินใจดังกล่าวเกิดขึ้นภายหลัง Zhang Yiming ผู้ก่อตั้งและ CEO เข้าพบกับหน่วยงานบริหารและจัดการไซเบอร์สเปซจีน (The Cyberspace Administration of China : CAC)


เป็นที่ชัดเจนแล้วว่า ByteDance บริษัทแม่ของแอปพลิเคชันอันดับหนึ่งอย่าง TikTok ประกาศเลื่อนแผนระดมทุนผ่านการขายหุ้น IPO ในตลาดหุ้นสหรัฐฯ อย่างไม่มีกำหนด อันเป็นผลมาจากหน่วยงานกำกับดูแลจีน เริ่มควบคุมบริษัทในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีจีนอย่างเข้มข้น โดยเฉพาะบริษัทที่มีแผนระดมทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศ การตัดสินใจดังกล่าวเกิดขึ้นภายหลัง Zhang Yiming ผู้ก่อตั้งและ CEO เข้าพบกับหน่วยงานบริหารและจัดการไซเบอร์สเปซจีน (The Cyberspace Administration of China : CAC)

โดยบริษัทจีนที่ต้องการระดมทุนในตลาดต่างประเทศ กำลังเผชิญกับการตรวจสอบที่เข้มงวดมากขึ้น หลังจากรัฐบาลจีนเสนอกฎหมายให้ทุกบริษัทที่ต้องการเสนอขายหุ้นนอกประเทศ ต้องผ่านการตรวจสอบด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ โดยปัจจุบันมีบริษัทจีน 37 แห่ง ที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ รวมมูลค่าระดมทุนกว่า 400,000 ล้านบาท

ความกังวลของรัฐบาลจีน คือ เรื่องข้อมูลส่วนตัว เพราะบริษัทเทคโนโลยีเก็บข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้ชาวจีนเอาไว้จำนวนมาก เช่น รูปถ่ายใบหน้า เส้นทางขับขี่ ประวัติการซื้อสินค้า ที่พักอาศัยและวิดีโอต่าง ๆ โดยการเข้าสู่ตลาดหุ้นอาจเป็นเหตุให้ต้องเปิดเผยข้อมูลบางส่วนได้ ดังนั้นบริษัทต่าง ๆ ต้องมีมาตรการการเก็บรักษาและการใช้ข้อมูลที่สอดคล้องกับข้อบังคับของทางการจีน

ล่าสุดสำนักข่าวไฟแนนเชียล ไทม์ รายงานว่า ByteDance กำลังเริ่มเดินหน้าแผน IPO อีกครั้งโดยมีเป้าหมายใหม่คือการจดทะเบียนในตลาดหุ้นฮ่องกง ภายในต้นปี 2565 ล่าสุด ByteDance อยู่ระหว่างการยื่นเอกสารทั้งหมดให้ทางการจีน และกำลังเข้าสู่ขั้นตอนการตรวจสอบอย่างเข้มข้น ขณะที่ ByteDance ระบุเพียงว่า รายงานของไฟแนนเชียล ไทม์ ไม่ได้ถูกต้องทั้งหมด แต่ยังไม่ได้ให้ข้อมูลอะไรเพิ่มเติม

สำหรับ TikTok (หรือ Douyin ในประเทศจีน) เป็นแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย สังกัดค่าย ByteDance เริ่มให้บริการเมื่อ 29 ก.ย. 2559 ที่ผ่านมา มีจุดเด่นคือการสร้างและแชร์วิดีโอสั้น ๆ กับเพื่อนบนโลกออนไลน์ ด้วยลูกเล่นทั้งภาพและเสียงให้ผู้ใช้ได้สนุกกับการแต่งวิดีโอตัวเอง ดังนั้นผู้ใช้ TikTok ส่วนมากจึงเน้นเข้ามาเพื่อรับชมความบันเทิงมากกว่าสาระ แม้มีวิดีโอของผู้ใช้บางกลุ่มที่ให้สาระเช่นเดียวกันก็ตาม

ปัจจุบัน TikTok มีผู้ใช้บริการรายวันเฉลี่ยประมาณ 500 ล้านคนทั่วโลก โดยได้รับการยอมรับอย่างมากในประเทศแถบเอเชีย เช่น กัมพูชา, ญี่ปุ่น, อินโดนีเซีย, มาเลเซีย, ไทย และเวียดนาม โดยช่วงเวลาสั้น ๆ เพียง 3-4 ปี เมื่อเทียบกับแอปพลิเคชัน Instagram ที่ต้องใช้เวลา 6 ปี เพื่อสร้างฐานผู้ใช้ระดับ 500 ล้านคน จึงชัดเจนว่า TikTok ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว

สำหรับยอดการดาวน์โหลด TikTok นับเป็นหนึ่งในแอปพลิเคชัน ที่มียอดดาวน์โหลดสูงสุดช่วงปีที่ผ่านมา โดยมียอดดาวน์โหลดผ่าน App Store และ Play Store มากถึง 1,500 ล้านครั้ง ทำให้ TikTok สามารถขึ้นเป็นแอปพลิเคชันอันดับหนึ่งของฝั่ง App Store ส่วนการดาวน์โหลดผ่าน Play Store เป็นรองเพียง Whatsapp และ Facebook

เป็นที่น่าสนใจว่า..การถอดใจจาก “ตลาดหุ้นสหรัฐฯ” และเบนเข็มมาที่ “ตลาดหุ้นฮ่องกง” จะทำให้ TikTok เข้าตลาดหุ้นได้หรือไม่ เพราะตราบใดที่ TikTok ยังถูกมองว่าเป็น “ความเสี่ยงต่อความมั่นคงแห่งชาติ” เป้าหมายการเข้าสู่ตลาดหุ้นฮ่องกง..ก็คงไม่ใช่เรื่องง่ายเช่นกัน..!!??

Back to top button