100 วัน..อตร

* ในที่สุดการประกาศผลประกอบการไตรมาส 2 ก็ทำให้เห็นว่า บริษัทในตลาดหุ้นไทยทำผลงานได้ยอดเยี่ยมกระเทียมดองเหมือนที่คาดหวัง และตัวแปรดังกล่าวก็ทำให้ราคาหุ้นหลายตัวเหมาะต่อการทยอยเก็บหุ้นเข้าพอร์ต แถมเมื่อเทียบแวลูที่ควรจะเป็นในอนาคต ก็ทำให้หุ้นเหล่านั้นมีแก๊ปที่จะไปต่อสวย ๆ ส่งผลให้นักลงทุนที่มีเงินเย็นช้อนหุ้นได้อย่างสบายใจเฉิบกันเลยทีเดียวนะจ๊ะ

* ท่ามกลางอารมณ์ที่กำลังฟิน ๆ กลับมีคำเตือนออกมาว่า 100 วันข้างหน้า ประเทศจะเจอไวรัสมรณะเล่นงานแบบจัดหนัก ซึ่งจะทำให้ประเทศไทยตกอยู่ในภาวะอัมพาตไปทุกด้าน และหนทางเดียวที่จะรอดพ้นจากสถานการณ์ได้อย่างอุ่นใจคือ ต้องฉีดวัคซีนเข็มแรกครบทั้งประเทศเสียก่อนแบบนี้..หมอหนูต้องออกมาชี้แจงเพื่อทำให้ทุกอย่างเคลียร์ชัดจบจริง และควรเลิกทำตัวติ๊ดชึ่งไปวัน ๆ เสียทีนะพ่อมหาจำเริญ..ญญ

* สถานการณ์ตรงนี้กลายเป็นแรงกดดันที่ส่งผลต่องบไตรมาส 3 และไตรมาส 4 อย่างมีนัยสำคัญ “โมนิก้า” เลยเกิดอาการหนาว ๆ ร้อน ๆ กับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้ บวกกับดัชนีเริ่มมีอาการเมาหมัดถี่ขึ้นเรื่อย ๆ ส่งผลให้การยืนปิดที่ระดับ 1,528.32 จุด ลบไป 4.39 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 8.20 หมื่นล้านบาท กลายเป็นสัญญาณที่ทำให้แฟนคลับต้องเล่นสั้นมากขึ้นอย่างไม่มีข้อแม้นะตัวเอง

* เหมือนกับการเด้งขึ้นในระหว่างทางขาลงของหุ้น PTT ถือเป็นเรื่องที่บีบหัวใจคนเล่นเต็ม ๆ เพราะการขึ้นมาปิดที่ระดับ 35 บาท บวกไป 0.50 บาท หรือขึ้นไป 1.45% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.59 พันล้านบาท ท่ามกลางค่า PE 13 เท่า พ่วงด้วยอัตราเงินปันผลตอบแทนที่ระดับ 2.90% ย่อมเป็นจุดที่ลงทุนได้สบายบรื๋อสะดือโบ๋ แต่ด้วยสถานการณ์ล่อแหลมที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต จึงลุ้นได้แค่วิ่งผ่านแนวต้านแรกแถว 36 บาทไปก่อนเจ้าค่ะ

* เช่นเดียวกับหุ้นเทิร์นอะราวด์ทรงสวยอย่าง IRPC ก็เป็นหุ้นที่น่าลงทุนอีกหนึ่งตัวในมุมของกำไรที่มาตามนัด “โมนิก้า” เลยไม่มีอะไรติดใจเมื่อเห็นหุ้นขึ้นมาปิดที่ 3.78 บาท บวกไป 0.16 บาท หรือขึ้นไป 4.40% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.28 พันล้านบาท และเชื่อว่า หุ้นสามารถสร้างฐานแนวรับอย่างต่ำ ๆ ได้ที่ 4 บาท จึงอยากให้แฟนคลับประเมินความเป็นไปได้ที่เกริ่นไว้มีมากขนาดไหนพะยะค่ะ

* อีกรายที่ช่วงเช้าแหวกกระแสหุ้นใหญ่ขึ้นมาติดในกระดาน Most Active ตามผลงานที่ทำได้อย่างยอดเยี่ยม “โมนิก้า” คงมองไปที่หุ้น B ภายใต้การกุมบังเหียนของ “เสี่ยหมู” เป็นรายถัดมาแบบไม่ลังเลใจ เพราะการขึ้นมาปิดที่ 0.71 บาท บวกไป 0.04 บาท หรือขึ้นไป 6% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 701 ล้านบาท เป็นตัวเลขที่ยังไม่ได้รวมงบไตรมาส 2 เข้ามาคำนวณค่าพีอี จึงอยากให้ขาลุยตามดูหุ้นตัวนี้ให้ดีนะจะบอกให้

* ไหน ๆ ก็มาสายลุยกันทั้งที “โมนิก้า” ขอแนะนำให้หันมาดู MENA เพื่อเป็นทางเลือกกันไปเลยดีกว่า เพราะการผงกหัวก่อนจะโดนกดซ้ำอีกรอบ เหมือนส่งสัญญาณว่า หุ้นกำลังพยายามกลับทิศอย่างเป็นทางการ และเรื่องนี้จะถูกย้ำหัวหมุดด้วยงบไตรมาส 2 ออกมาปังไหม? มันกลายเป็นช็อตของผู้กล้าอย่างแท้ทรู เดี๊ยนถึงอยากให้ขาลุยดูว่า การยืนปิดที่ 1.73 บาท ลบไป 0.05 บาท หรือลงไป 2.80% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 264 ล้านบาท น่าสนใจอ๊ะป่าว?

* เช่นเดียวกับการเด้งขึ้นของ WORK ก่อนจะมาปิดที่ระดับ 20.80 บาท บวกไป 2.20 บาท หรือขึ้นไป 11.80% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 518 ล้านบาท ล้วนมาจากกำไรไตรมาส 2 ออกมาเลิศหรูเกินบรรยาย แรงซื้อจึงไหลกลับเข้ามาเป็นจำนวนมาก พร้อมกับวาดฝันงบไตรมาส 3  น่าจะออกมาสวยไม่หยอก! ย่อมเป็นสตอรี่ที่ “โมนิก้า” ให้ความสนใจมากเป็นพิเศษ เพราะหลายกระแสพูดไปในทางเดียวกันว่า ไตรมาสนี้ไม่หมู จึงต้องเผื่อใจไว้บ้างนะคะ

* ส่วนรายที่ไม่ได้เผื่อใจไว้อย่าง AGE กลายเป็นช็อตที่ทำให้หลายคนเจ็บปวดรวดร้าว (รวมเดี๊ยนด้วย) เพราะไม่คาดฝันกำไรจะลดฮวบขนาดนี้ ประกอบกับก่อนหน้านี้เห็นกันทนโท่ว่า ราคาถ่านหินในตลาดโลกขึ้นดีเหลือเกิน แต่สุดท้ายกลับไม่ช่วยให้ผลงานของบริษัทดีขึ้น ทุกคนเลยกระหน่ำขายหุ้นแบบไม่ไว้หน้า จนหุ้นลงมาปิดที่ 2.80 บาท ลบไป 0.70 บาท หรือลงไป 20% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 172 ล้านบาทแบบไม่ทันตั้งตัวไงล่ะคะ