กลัวป่วนกอดรัฐล้มเหลว
ความไม่พอใจรัฐบาลเกิดจากความล้มเหลว บ้าอำนาจ จะบอกให้หุบปาก หยุดม็อบ เพื่อให้เห็นความหวังเพื่อโอกาสเก็งกำไร มันจะเป็นจริงได้อย่างไร
“ม็อบป่วนบ้านป่วนเมือง” อยากถามคนที่บ่นอย่างนี้ว่า ถ้าไม่มีม็อบแล้วหุ้นจะขึ้น การบริหารประเทศจะราบรื่น รัฐบาลจัดหาวัคซีนให้เพียงพอ จัดซื้อชุดตรวจ ATK โปร่งใส นำพาเศรษฐกิจหลังโควิดเชิดหัวแข่งขันกับชาวโลกได้?
ก็เปล่าเลย ทุกด้านแย่ไปหมด วันนี้ไม่ใช่แค่รัฐล้มเหลว แต่เป็นรัฐล้มละลาย หมดเครดิตไร้ความน่าเชื่อถือ
คำว่า “รัฐ” ไม่ได้หมายความแค่รัฐบาล แต่หมายถึงองคาพยพแทบทุกด้าน กลไกราชการ ทหาร ตำรวจ กระบวนการยุติธรรม ฝ่ายปกครอง (ทำไมผู้ว่าฯ สมุทรสาครต้องลาออก) ไปจนผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข อาจารย์แพทย์ “ซิโนแวค”
การเกิดข้อครหา “แย่งไฟเซอร์” ไล่จับได้คาเข็มเต็มไปหมด ก็สะท้อนความไม่ไว้วางใจรัฐราชการและเจ้าหน้าที่ ในระบบอภิสิทธิ์เหลื่อมล้ำ
ยังไม่ต้องพูดถึงหายนะทางเศรษฐกิจ 120 วันเปิดประเทศ กลายเป็น 100 วันอันตราย GDP NPL ตัวเลขทุกอย่างไปทางร้าย และความเป็นจริงคงร้ายกว่า
นี่คือปัญหาของระบอบประยุทธ์ สร้างรัฐราชการใหญ่โตควบคุมประชาชน แต่ไร้ประสิทธิภาพแก้ปัญหาประเทศ ปล่อยให้ประชาชน หรือภาคธุรกิจเอกชนดิ้นรนกันเอง
แบบดิ้นรนซื้อโมเดอร์นา ซิโนฟาร์ม แล้วรัฐบาลเอาไปนับเป็นผลงาน ฉีดครบ 100 ล้านโดส
“ม็อบป่วนบ้านป่วนเมือง” ที่บางคนไม่พอใจ หาว่ารับจ้างบ้าง หาว่าพรรคการเมืองอยู่เบื้องหลัง บ้าง อันที่จริงเป็นปรากฏการณ์ที่น่าตระหนก สะท้อนภาพวิบัติเชิงโครงสร้าง
Car Mob วันอาทิตย์มี 3 สาย มีคนเข้าร่วมล้นหลาม พยายามเคลื่อนไหวอย่างสันติ หลีกเลี่ยงไม่ผ่านดินแดง แต่ตำรวจยังตั้งตู้คอนเทนเนอร์และเกิดการปะทะจนได้ จากกลุ่มวัยรุ่น อายุน้อย ที่ขี่จักรยานยนต์ไปรวมตัวกันโดยอิสระ ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ตามไปห้ามก็ไม่ยอมกลับ
ไปหาคลิปหาภาพดู จะพบว่าวันนั้นเด็กวัยรุ่นเยอะมาก ฝ่ายจัดม็อบยังงงว่ามาจากไหน นี่ไม่ใช่การสร้างสถานการณ์ ไม่มีใครจ้างได้ สันนิษฐานเบื้องต้นว่ามาจากความไม่พอใจรัฐบาล แรงกดดันทางเศรษฐกิจ ความเป็นอริกับตำรวจ ความไม่พอใจที่ใช้ความรุนแรงสลายม็อบ ใช้แก๊สน้ำตากระสุนยางไม่บันยะบันยังจนความโกรธแค้นบานปลายเรียกเพื่อนมาช่วยกัน
ถ้ามองภาพกว้างๆ คือปีที่แล้ว เกิดม็อบคนรุ่นใหม่ “ทะลุเพดาน” มีแกนนำเป็นนิสิตนักศึกษา มีนักเรียนมัธยมเข้าร่วมล้นหลาม แต่ปีนี้ ขณะที่กระแสด้านกว้างเป็นม็อบไล่ประยุทธ์ ที่มีหลายฝ่าย ก็เกิดม็อบChaos คู่ขนาน ม็อบไม่มีแกนนำ มากันอิสระ ทั้งคนเข้าร่วมม็อบปีที่แล้วแบบ REDEM และเด็กวัยรุ่นขี่มอเตอร์ไซค์
นี่ไม่ใช่เรื่องดีหรอกนะ เพราะมีคนถูกยิงโคม่าไปแล้วหนึ่ง ไม่ใช่สนับสนุน แต่มันกลายเป็นความโกรธโดยธรรมชาติที่ห้ามไม่อยู่
อำนาจรัฐแทนที่จะให้ความสนใจปรากฏการณ์นี้ หาวิธีพูดคุยไม่ให้ลุกลาม กลับฉวยไปใช้ให้ร้ายฝ่ายค้าน ให้ร้ายการไล่ประยุทธ์อย่างสันติ โทษณัฐวุฒิ โทษกลุ่มทะลุฟ้า จับแกนนำไปติดโควิดไม่ได้ประกัน และให้ตำรวจใช้กำลังรุนแรงขึ้น เช่น อ้างว่าม็อบฝ่าฝืน พรก.ฉุกเฉิน แค่มีคนรื้อรั้วลวดหนาม ก็กระหน่ำยิงแก๊สน้ำตากระสุนยาง
รัฐบาลใช้ความรุนแรงกับม็อบ พอม็อบตอบโต้ ก็ประโคม “ม็อบป่วนบ้านป่วนเมือง” ทำให้เกิดความไม่สงบ ไม่ได้ทำมาหากิน ทั้งที่ไม่มีจะกินอยู่แล้วเพราะความล้มเหลวของรัฐบาล หวังปลุกกระแส “เลือกความสงบจบที่ตู่” จบจริงๆ ไม่มีม็อบก็เจ๊งอยู่แล้ว
ทั้งที่ประเด็นซึ่งสังคมควรสนใจคือ การเป็นกบฏ กระทั่งเกิด Chaos ถ้าไม่หาทางลง ถ้าไม่ทำให้สถานการณ์ผ่อนคลาย คิดแต่จะปราบจะจับจะไล่ยิง ปลุกความเกลียดชังเพื่อค้ำอำนาจ ประเทศจะไปต่อได้อย่างไร
ความไม่พอใจรัฐบาลเกิดจากความล้มเหลว บ้าอำนาจ จะบอกให้หุบปาก หยุดม็อบ เพื่อให้เห็นความหวังเพื่อโอกาสเก็งกำไร มันจะเป็นจริงได้อย่างไร