TCAP เติมน้ำบ่อเก่า.!?

น่าแปลกใจ อยู่ ๆ TCAP ก็มาซื้อหุ้น TTB และ THANI เพิ่ม ส่งผลให้ปัจจุบัน TCAP ถือหุ้นใน TTB เพิ่มเป็น 22.2% และถือหุ้นใน THANI เพิ่มเป็น 59.8%


น่าแปลกใจ..!! อยู่ ๆ บริษัท ทุนธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือ TCAP ก็มาซื้อหุ้นธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือ TTB และบริษัท ราชธานีลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ THANI เพิ่ม จนส่งผลให้ปัจจุบัน TCAP ถือหุ้นใน TTB จาก 20.1% เพิ่มเป็น 22.2% และถือหุ้นใน THANI จาก 57.5% เพิ่มเป็น 59.8%…

ทำให้มีคำถามตามมาว่า เหตุใด TCAP ต้องซื้อหุ้นทั้งสองตัวเพิ่ม..? ประเด็นนี้มองได้หลายมุม…

กรณีของ TTB…ต้องย้อนไปที่สารตั้งต้น คือ ธนาคารธนชาต ซึ่งถือเป็นอภิชาตบุตรตัวหนึ่งของ TCAP เลยก็ว่าได้…ที่ผ่านมา TCAP อิ่มหมีพีมันกับธนชาตมาโดยตลอด งบ TCAP ที่เห็นเติบโตทุกไตรมาสและทุกปีนั้น ก็มาจากการรับรู้กำไรจากธนชาต 100%

แต่พอมีดีลควบรวมระหว่างธนชาตกับทหารไทย สิ่งที่ตามมา 1) จากที่เคยรับรู้กำไร 100% ทุกไตรมาส ก็มารับรู้ทางอ้อมผ่านการถือหุ้น TTB ประมาณ 20.1% ซึ่งจะรับรู้แค่เงินปันผลเท่านั้น คอนโทรลงบไม่ได้แล้ว แถมกว่าจะรับรู้เงินปันผลได้ต้องรอหนึ่งปี เนื่องจาก TTB ไม่มีปันผลระว่างกาล ปันผลแค่ปีละครั้งเท่านั้น…

กลายเป็นว่าจากที่เคยกินรวบธนชาต…วันนี้ TCAP ต้องมากินแบ่งซะงั้น..!!

และ 2) การปรับโครงสร้างครั้งนี้ เป็นที่ปรากฏชัดว่า TCAP ถือหุ้น TTB ในต้นทุนที่ 2.10 บาท ถ้าเทียบ mark to market โดยหุ้น TTB เคลื่อนไหวอยู่ที่ 98 สตางค์บวกลบ (ไม่เต็มบาท) นั่นเท่ากับว่า TCAP มีผลขาดทุนจากเงินลงทุนใน TTB ประมาณ 88 สตางค์เลยนะเนี่ย เมื่อเทียบกับต้นทุนที่ 2.10 บาท

ซึ่งประเด็นนี้ TCAP คงไม่ปลื้มแน่ ๆ…

ขณะที่การเข้ามาซื้อหุ้น TTB เพิ่ม ยังมองได้อีกมิติหนึ่ง นอกจากมีเงินสดในมือเยอะแล้ว (ล่าสุดมีเงินสดกว่า 6,500 ล้านบาท) ก็เป็นการซื้อเพื่อถัวเฉลี่ยราคา จากเดิมมีต้นทุนที่ 2.10 บาท ปัจจุบันเหลือไม่ถึง 2.10 บาทแล้ว นั่นหมายถึงหากมี mark to market ก็จะมีผลขาดทุนที่น้อยลงเช่นกัน

ส่วนกรณีซื้อหุ้น THANI เพิ่มนั้น…พอสูญเสียอภิชาตบุตรอย่างธนชาตไป สิ่งที่เห็นได้ชัดคือ กำไร TCAP ก็หายไป ไม่อู้ฟู่เหมือนก่อน ส่วนลูกที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ฯ ก็มี THANI ซึ่งที่ผ่านมาปันผลตลอด โดยเฉพาะช่วง 2 ปีให้หลังมานี้ยีลด์เฉลี่ยตั้ง 4-5% ต่อปี

โดย TCAP จะรับรู้ 2 ส่วน อันดับแรก รวมงบรวมเข้ามา เพราะถือหุ้นเกิน 50% และอันที่สองรับเงินปันผลปีละครั้ง

ฉะนั้นสิ่งที่ขาดหายไปของธนชาต ก็มาเติมเต็มที่ THANI…ซึ่งถ้าต้องการจะเพิ่มกระแสเงินสดจาก THANI ก็ต้องมีหุ้นเพิ่มขึ้น เพื่อให้ได้ปันผลมากขึ้น…

เข้าทำนองเมื่อน้ำบ่อหนึ่งแห้งไป ก็ต้องหาน้ำบ่อใหม่มาทดแทนนั่นแหละ..!!

ดังนั้น การซื้อหุ้น THANI นอกจากจะทำให้ได้เงินปันผลเพิ่มขึ้นแล้ว ยังเป็นการบริหารกระแสเงินสดที่มีอยู่อีกด้วย ถือเป็นการสร้างแวลูเพิ่มเติม…

ซึ่งถ้าให้เดา TCAP คงไม่หยุดอยู่แค่นี้แน่ ๆ ในระหว่างนี้คงไปแสวงหาโอกาสในการลงทุนอย่างต่อเนื่อง เพราะปัจจุบัน TCAP เป็นโฮลดิ้งคอมปานี ที่ไม่ได้ผูกติดอยู่กับไฟแนนซ์แล้ว ปลดล็อกจากการกำกับของแบงก์ชาติไปแล้ว ก็น่าจะเห็น TCAP ไปลงทุนในธุรกิจอื่น ๆ ที่หลากหลายมากขึ้น

แต่ระหว่างนี้ยังไม่รู้จะเกิดอะไรขึ้น…ผู้ถือหุ้น TCAP ก็ยังแฮปปี้นะ เพราะแว่ว ๆ มาว่าปีนี้จะปันผลที่ 3 บาทต่อหุ้น โดยคาดงวดครึ่งปีแรกปันผลที่ 1.20 บาทต่อหุ้นเชียวนะ…

…อิ อิ อิ…

Back to top button