พาราสาวะถีอรชุน

ครบรอบ 39 ปี 6 ตุลาคม 2519 ถามว่า ประชาธิปไตยของไทยวันนี้เป็นอย่างไร สิ่งที่เห็นและเป็นอยู่คงช่วยอธิบายได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะผ่านไปกี่สิบปีประเทศไทยยังจมปลักกับวงจรอุบาทว์ ประชาชนคนประชาธิปไตยยังต้องต่อสู้เรียกร้องต่อไป แม้บริบทจะเปลี่ยนไปและแนวร่วมอาจจะไม่อุ่นหนาฝาคั่งเหมือนในอดีต เพราะผู้ที่ได้ชื่อว่าคนเดือนตุลาฯมาพ.ศ.นี้ก็มีแนวคิดและจุดยืนที่เปลี่ยนไปหลายราย

โดยเฉพาะในช่วง 10 กว่าปีที่ผ่านมานี้ สังคมไทยไม่ได้ต่อสู้เรียกร้องแค่เรื่องการทุจริตคอร์รัปชั่นของนักการเมือง หรือเดินหน้าล้มระบอบทุนนิยมสามานย์เหมือนอย่างที่เหล่าคนดีและคณะรัฐประหาร 2 ชุด นำมากล่าวอ้าง แต่อย่างที่รู้กัน การต่อสู้ที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องของการแย่งชิงอำนาจและผลประโยชน์ของคนไม่กี่กลุ่มในสังคมไทยเท่านั้น

ยิ่งในระยะหลังนับตั้งแต่พรรคไทยรักไทยภายใต้การนำของ ทักษิณ ชินวัตร เข้ามามีบทบาทในการบริหารประเทศ ยิ่งทำให้กลุ่มอำนาจนิยมในระบอบสังคมเก่าที่ไม่ยอมรับการเปลี่ยนแปลงมายาวนาน ปลุกระดมการต่อต้านในรูปแบบต่างๆผ่านกลไกทั้งในระบบราชการ กองทัพและกระบวนการยุติธรรม ทำให้ประเทศไทยจึงไม่ปลอดการรัฐประหารและดูท่าว่าน่าจะเป็นเรื่องยากเสียด้วยที่จะเป็นเช่นนั้น

เรียบร้อยโรงเรียนคสช. มีชัย ฤชุพันธุ์ ตกปากรับคำนั่งประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญหรือกรธ.ตามคาด โดยแจกแจงเหตุผลเพื่อตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน นอกจากนั้นพอจะเห็นเค้าลางของร่างรัฐธรรมนูญที่จะออกมาแล้วว่า น่าจะไม่แตกต่างจากร่างฉบับของ บวรศักดิ์ อุวรรณโณ เพราะเจ้าตัวย้ำต้องเป็นไปตามกรอบของรัฐธรรมนูญชั่วคราว 2557

หากเป็นเช่นนั้นคงจะหวังให้เป็นร่างรัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตยได้ยาก ขณะเดียวกันรายชื่อของกรธ.ทั้ง 20 คนเห็นหน้าค่าตากันแล้ว ทายได้เลยว่า ตุ๊กตาตัวหนึ่งที่จะต้องถูกนำมาเป็นแนวทางในการยกร่างก็คือทักษิณ ถ้าเป็นไปตามนี้ก็หนีไม่พ้นวังวนเดิมคือ เขียนกฎหมายสูงสุดของประเทศเพื่อตีกันคนคนเดียวรวมทั้งพรรคพวกในระบอบทักษิณ

ยิ่งจะเป็นความชอบธรรมมากขึ้นเมื่อมีการเชิญตัวแทนพรรคการเมืองต่างๆเข้าร่วมแล้ว พรรคเพื่อไทยปฏิเสธ กลุ่มคนเสื้อแดงในนามนปช.ก็ไม่เอาด้วย จะเข้าทางที่ว่าชวนแล้วไม่ให้ความร่วมมือเช่นนั้นหากร่างออกมาอย่างไรก็อย่าได้คัดค้าน สีข้างเข้าถูกันเข้าไป หากใช้แนวทางเช่นนี้โอกาสที่จะเห็นการปฏิรูปและเกิดความปรองดองยังมองไม่เห็นจริงๆ

ทิศทางเริ่มต้นคงพอจะเห็นกันในวันนี้ เพราะมีชัยเรียกประชุมกรธ.ทั้งหมดทันที เรียกว่าฟิตตั้งแต่เริ่มต้น ขณะที่สปท.จำนวน 200 คน ประกาศรายชื่อกันมาเป็นที่เรียบร้อย ฟากของเพื่อไทยปรากฏรายชื่อของ สุชน ชาลีเครือ ตามคาด โดย พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา จะแถลงแนวทางของทั้งกรธ.และสปท.ในวันนี้เช่นเดียวกันที่ทำเนียบรัฐบาล

ทั้งนี้ ในส่วนของคนการเมืองฝ่ายเพื่อไทยถือเป็นการเข้าไปในฐานะส่วนตัวจะอ้างพรรคการเมืองและตัวแทนกลุ่มการเมืองไม่ได้ เพราะพรรคนายใหญ่ได้ยืนยันเจตนารมณ์ที่ชัดเจนแล้วว่าใครจะเข้าร่วมต้องลาออกจากความเป็นสมาชิกพรรคก่อน ด้านนปช. จตุพร พรหมพันธุ์ ประกาศไว้ชัดเจนคนเสื้อแดงหรือสมาชิกพรรคที่เข้าร่วมองคาพยพของคณะรัฐประหารอย่าอ้างตัวว่าเป็นคนเสื้อแดง พร้อมทั้งสาปส่งชนิดผีไม่เผาเงาไม่เหยียบกันเลยทีเดียว

สำหรับโรดแมปที่เกรงกันว่าถึงเวลาจริงอาจจะไม่ใช่แค่ 20 เดือนแล้วได้เลือกตั้งเหมือนที่ วิษณุ เครืองาม เคยประกาศสูตร 6-4 6-4 ไว้ก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตาม มีการยืนยันว่า ไม่น่าจะช้าออกไปกว่านั้น เพราะบิ๊กตู่ดันไปสัญญาไว้ต่อที่ประชุมสหประชาชาติไว้แล้วว่า จะต้องจัดให้มีการเลือกตั้งได้ไม่เกินกลางปี 2560 ถือว่าเป็นคำมั่นสัญญาระดับสากลทีเดียว

แน่นอนว่า ข้อห่วงใยเรื่องสูตรพิสดารที่จะทำให้กระบวนการจดทะเบียนตั้งพรรคการเมืองต้องเริ่มต้นกันใหม่นั้น สุดท้ายอาจกลายเป็นแค่การโยนหินถามทาง เพราะ 2 คนในกรธ.นั้นมีชื่อของ อภิชาต สุขัคคานนท์ และ ประพันธ์ นัยโกวิท อดีตประธานกกต.และกกต.รวมอยู่ด้วย น่าจะช่วยอธิบายผู้ที่มีแนวคิดเช่นนี้ได้ว่า มันจะทำให้เกิดความล่าช้าอย่างไร

อย่างไรก็ตาม สำหรับแนวทางการปฏิรูปนั้น มีความเห็นจาก คณิต ณ นคร อดีตประธานคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติหรือคอป.ว่า  หากคสช.ต้องการให้ได้ผลจริง ไม่จำเป็นต้องเสียเวลากับกระบวนการร่างรัฐธรรมนูญ เพราะต้องใช้เวลากว่าจะมีผลใช้บังคับ แต่ควรใช้มาตรา 44 ออกคำสั่งให้ชัดเจนว่าให้มีการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม เท่านี้ก็สามารถแก้ปัญหาการเมืองได้จบแล้ว

นอกจากนี้ ยังมีวลีเด็ดจากคณิตที่ไม่รู้ว่าเป็นตลกร้ายหรือเปล่า เมื่อถูกถามถึงเรื่องที่ไม่มีรายชื่อในกรธ. โดยเจ้าตัวบอกว่า ไม่มีใครมาทาบทาม หากจะมีใครให้ทำงานต้องมีเหตุฆ่ากันตายก่อน จึงมาถึงตน เวลาสบายๆไม่มีใครนึกถึง ไม่แน่ใจว่าเป็นอาการน้อยใจ ประชดประชันหรือมองเหตุการณ์ข้างหน้าว่า ปัญหาความขัดแย้งจนถึงขั้นต้องบาดเจ็บสูญเสียนั้นยังไม่หมดไป

หลุดพ้นจากวงจรการเมืองปัญหาเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนคือหัวใจสำคัญที่รัฐบาลคสช.ยังต้องโชว์ฝีมือให้เห็น ที่ฮึ่มๆอยู่เวลานี้คือชาวสวนยาง ที่ล่าสุดเครือข่ายแนวร่วมกู้ชีพชาวสวนยางสงขลา ได้นำป้ายผ้าเขียนข้อความประกาศเขตภัยพิบัติราคายางพาราตกต่ำ ไปติดบนสะพานลอยถนนสายเอเชีย บริเวณสี่แยกคูหา อำเภอรัตภูมิ เพื่อแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ให้ทราบว่า ชาวสวนยางกำลังเดือดร้อนอย่างหนักจากปัญหาราคายางพาราตกต่ำ

ก่อนจะตามมาด้วยเสียงขู่หากข้อเรียกร้องทั้งหมดยังไม่ได้รับการตอบสนอง ทางเครือข่ายแนวร่วมกู้ชีพชาวสวนยางทั้ง 16 จังหวัดภาคใต้ จะมีมาตรการรวมตัวเคลื่อนไหวที่ประจวบคีรีขันธ์ตามมา แต่ยังบอกไม่ได้ว่าจะทำอย่างไร ย้ำอีกครั้งว่ากลุ่มปัญหาความเดือดร้อนนี่แหละที่จะเป็นตัวสั่นคลอนเสถียรภาพของรัฐบาลคสช.มากกว่ากลุ่มการเมือง