แรงจนน่ากลัว?โมนิก้าและทีมงาน
*ส่วนบรรยากาศการลงทุนวานนี้อาจสร้างความเฮฮาให้กับนักลงทุนรายย่อยก็จริง แต่อย่าลืมว่าปรากฏการณ์ดังกล่าวเกิดจากกระแสข่าวปล่อย ข่าวลวง รวมทั้งเป็นการหยั่งเชิงแรงซื้อไปในตัว “โมนิก้า” ถึงรู้สึกเฉยๆ ต่อการเหวี่ยงตัวไปมาของดัชนี เพราะเป็นเรื่องที่เคยพูดซ้ำแล้วซ้ำอีก และขอย้ำอีกครั้งว่า “นักลงทุนที่ขายหุ้นออกไปก่อนหน้านี้ ท้ายสุดก็ต้องกลับเข้ามาซื้อหุ้นอยู่ดี” นะจะบอกให้
*ส่วนบรรยากาศการลงทุนวานนี้อาจสร้างความเฮฮาให้กับนักลงทุนรายย่อยก็จริง แต่อย่าลืมว่าปรากฏการณ์ดังกล่าวเกิดจากกระแสข่าวปล่อย ข่าวลวง รวมทั้งเป็นการหยั่งเชิงแรงซื้อไปในตัว “โมนิก้า” ถึงรู้สึกเฉยๆ ต่อการเหวี่ยงตัวไปมาของดัชนี เพราะเป็นเรื่องที่เคยพูดซ้ำแล้วซ้ำอีก และขอย้ำอีกครั้งว่า “นักลงทุนที่ขายหุ้นออกไปก่อนหน้านี้ ท้ายสุดก็ต้องกลับเข้ามาซื้อหุ้นอยู่ดี” นะจะบอกให้
*วานนี้ถึงเห็นดัชนีกระชากขึ้นมาปิดที่ 1,363.17 จุด บวกไป 16.82 จุด ด้วยมูลค่า 3.64 หมื่นล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นภาพมุมเดิมที่นักเล่นต้องหัดทำตัวให้ชินกับสถานการณ์ เพราะสูตรของการเข้าลงทุนในเที่ยวนี้เขาวัดกันที่ความไว ส่วนปัจจัยพื้นฐานเป็นเพียงข้ออ้างที่นิยมเม้าท์ในช่วงที่ตัวเองกำลังสาดหุ้นใส่ หลังจากนั้นก็จะกลับไปช้อนซื้อของถูกเมื่อมีคนยอมปล่อยออกมาเจ้าค่ะ
*งานนี้เดี๊ยนไม่ได้มีเจตนาโจมตีใครทั้งสิ้น แค่อยากให้แฟนคลับลองหลับตา แล้วร่วมรำลึกเหตุการณ์ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา มันมีจุดเปลี่ยนอยู่ตรงไหนบ้าง? ขนาดวิเคราะห์ถึงค่า P/E ที่ระดับ 15 เท่า ค่อนข้างถูก ผสมผสานกับเข้าสู่ช่วงที่กองทุนเปิดขาย LTF และRMFหรือแม้กระทั่งนักลงทุนต่างชาติเทขายหุ้นออกมาเยอะเกินไป และได้เวลากลับเข้ามาซื้อหุ้นอีกรอบ มันเป็นภาพเดิมๆ ที่เวียนมาแล้วสองรอบนะจ๊ะ
*เม้าท์ถึงเรื่องเดิมๆ ขึ้นมาทีไร “โมนิก้า” ขอโฟกัสข่าวไปที่สำนักงานอันเป็นที่รักของชาวหุ้นอย่าง ก.ล.ต. สักหน่อยดีกว่า (ไม่รู้ว่า ในวงการหุ้นจะมีใครรักหน่วยงานนี้เท่าเดี๊ยนอีกไหม?) เพราะประเด็นร้อนๆ ถาโถมเข้าใส่ไม่หยุดหย่อน ซึ่งบางเรื่องเข้าไปเกี่ยวข้องโดยเหตุบังเอิญ ส่วนบางเรื่องก็เข้าไปพัวพันแบบเนื้อไม่ได้กินหนังไม่ได้รองนั่ง แถมยังเอากระดูกมาแขวนคอเสียอีก..มันเลยเป็นเรื่องเป็นราวใหญ่โตไงล่ะค่ะ
*เรื่องแรกคงหนีไม่พ้นประเด็นคุมเพดานการวิ่งของหุ้นIPO ซึ่งเป็นประเด็นที่ทำให้ชาวหุ้นทั่วสารทิศหันมามองหน่วยงานนี้ตาเขียวปัดกันเป็นแถบ ขนาดผู้บริหารอารมณ์ดีอย่าง “สมภพ กีระสุนทรพงษ์” หรือ “เฮียแกะ” ยังต้องออกมาคัดค้านการทบทวนเกณฑ์กรอบราคาสูงสุดในวันแรก 200% เพราะจะเป็นการบิดเบือนกลไกตลาด และปัจจุบันกฎเกณฑ์ต่างๆ ของทางการก็มีเพียงพออยู่แล้ว เพียงแค่ต้องนำกฎเกณฑ์ต่างๆ มาใช้ให้เกิดผลอย่างรวดเร็วก็เพียงพอแล้ว..รักนะจุ๊บ..จุ๊บ
*ขณะที่ฝั่งของ ก.ล.ต. ก็ออกมานั่งยัน นอนยัน ตะแคงยัน พร้อมกับส่งสัญญาณว่า ไม่มีเรื่องนี้อยู่ในหัว เพราะมีเรื่องที่สำคัญกว่าให้ทำหลายเรื่อง “โมนิก้า” จึงขอเป็นตัวกลางบอกเล่าเรื่องราวต่างๆ เพื่อผู้คนในแวดวงตลาดทุนจะได้เข้าใจตรงกันว่า มีคนพยายามปั้นเรื่องนี้ขึ้นมาอีกรอบ (สงสัยจะเป็นมือที่มองไม่เห็น) แต่เผอิญแต่ละฝั่งที่เกี่ยวข้องไม่เล่นด้วย..เรื่องนี้เลยแป้ก พร้อมกับทำให้ทุกคนเลยหันมาจูบปาก และเรื่องนี้ก็จบลงอย่างแฮปปี้เอนดิ้งไงล่ะค่ะ
*ไหนๆ จั่วหัวเรื่อง “เกมเสี่ยง” ทั้งที “โมนิก้า” ถือโอกาสนี้แนะนำหุ้นความเสี่ยงสูงอย่าง ADVANC และ INTUCHเพื่อเตือนนักลงทุนรายย่อยให้ระวังการเข้าซื้อในรอบถัดไป อาจมีความเสี่ยงมากขึ้นเป็นทวีคูณ..ทางที่ดีควรเลี่ยงหุ้นเหล่านี้เป็นการชั่วคราว เพราะแรงเทขายที่มีออกมาเป็นจำนวนมากวานนี้ มันทำให้เดี๊ยนรู้สึกถึงรังสีอำมหิตได้บังเกิดขึ้นอีกรอบ แถมครั้งนี้จะเล่นกันแบบสุดติ่งกระดิ่งแมวเสียด้วย หุ้นถึงได้รูดลงมาปิดที่ 219 บาท ลบไป 7 บาท หรือลงไป 3% ส่วนรายหลังปิดที่ 71.75 บาท ลบไป 1 บาท หรือลงไป 1.40%..รอให้ทุกอย่างเคลียร์ แล้วคอยตามก็ได้นะคะ
*สำหรับพระเอกชั่วคราวที่ “โมนิก้า” อยากให้นักลงทุนเฝ้าติดตามดูอย่างใกล้ชิดก็คือ PTT AOT และKTB เพราะหุ้นเหล่านี้เพิ่งขยับขึ้นแรงเป็นวันแรก และที่ผ่านมาก็พิสูจน์ให้เห็นว่า นักลงทุนกลุ่มต่างๆ เข้าซื้อหุ้นเก็บไว้ในพอร์ตมากพอสมควร เดี๊ยนถึงต้องการให้แฟนพันธุ์แท้ “หุ้นคุณค่า” ลองคิดทบทวนดูว่า การเด้งขึ้นรอบนี้เป็นแค่ระยะสั้นๆ หรือเป็นการกลับทิศอย่างถาวรเจ้าค่ะ
*เห็นได้จากในรายของ TIPCO ยังได้รับความนิยมอย่างล้นหลามอีกรอบ ล้วนเป็นผลมาจากข่าวผลประกอบการสูงสุดเป็นประวัติการณ์ นักลงทุนกลุ่มต่างๆ ถึงวิ่งเข้าใส่ไม่ยั้ง ส่งผลให้ราคาหุ้นถีบตัวขึ้นมาปิดที่ 18.90 บาท บวกไป 2.50 บาท หรือขึ้นไป 15% พร้อมด้วยวอลุ่มที่แน่นขนัด “โมนิก้า” วิเคราะห์จากประสบการณ์ที่ผ่านมาพบว่าเป็นแค่ “หุ้นกระแส”..มีโอกาสลุย ก็ต้องลุย..หากผิดทางต้องเน้นจังหวะขายสถานเดียว เพราะรอบนี้ปอบผีฟ้ารับหน้าเสื่อเป็นเจ้าภาพเจ้าค่ะ
*เช่นเดียวกับในรายของ NUSA ไม่ต้องนั่งวิเคราะห์อะไรให้มากมาย เพราะแค่รู้ว่า หุ้นตัวนี้มีสตอรี่คลอดออกมาตลอด!! และการปรับตัวขึ้นเที่ยวนี้ย่อมมีนัยแฝงอยู่ในตัวของมันเอง ล่าสุดก็ออกมาเฉลยแล้วว่า “เสี่ยกึ้ง” เข้ามาร่วมห่อลงโรงด้วยกันอย่างเป็นทางการ เหลือเพียงข่าวเม้าท์เกี่ยวกับการซื้อหุ้น WEH ซึ่งบรรดาแมงลือยังเม้าท์กันไม่เลิกเสียที..งานนี้หากเป็นจริงอย่างที่เม้าท์ละก็..มันพะยะค่ะ
*ป.ล.วันนี้โบรกเกอร์ฉายเดี่ยวด้วยการซื้อหุ้นไป 2.50 พันล้านบาท ขณะที่คนอื่นขายหุ้นทิ้งเรียบ ส่งผลให้ความแรงของดัชนีเที่ยวนี้ กลายเป็นเรื่องน่ากลัวขึ้นมาในทันที!