หุ้นไทย 9 เดือนลูบคมตลาดทุน

มีตัวเลขที่น่าสนใจเกี่ยวกับตลาดหุ้นไทยในช่วง 9 เดือนแรก(มกราคม-กันยายน 2558) มาให้ชมกันนิดๆ หน่อยๆ


ธนะชัย ณ นคร

 

มีตัวเลขที่น่าสนใจเกี่ยวกับตลาดหุ้นไทยในช่วง 9 เดือนแรก(มกราคม-กันยายน 2558) มาให้ชมกันนิดๆ หน่อยๆ

ดัชนีหากดูตอนสิ้นปี 2557 อยู่ที่ 1,497 จุด

ส่วนสิ้นเดือนกันยายน 2558 หรือช่วง 3 ไตรมาสแรก ดัชนีมาอยู่ที่ 1,349 จุด ปรับลง 9.88%

เรามาถึงจุดนี้ได้อย่างไร…?

หลายคนอาจตั้งคำถาม

เพราะเมื่อดูช่วงต้นปี 2558 บรรดานักวิเคราะห์ จากบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ต่างๆ ได้คาดการณ์ดัชนีหุ้นไทยสิ้นปีนี้จะอยู่ระหว่าง 1,500-1,650 จุด

แต่ผ่านมาถึงตอนนี้หลายคนปรับเป้าไปหมดแล้ว

คาดว่าดัชนีสิ้นปีจะอยู่แถวๆ 1,450 จุด

หรือหากดัชนีปรับขึ้นไปยืนเหนือ 1,400 จุด ก็นับว่าสวยหรูแล้วล่ะ

เหตุผลที่มีการมองว่าดัชนีคงไปได้ไม่ไกล เพราะหุ้นตัวเป้งๆ หรือกลุ่มอุตสาหกรรมใหญ่กำลังสะดุดหัวคะมำกันอยู่ทั้งในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ กลุ่มพลังงานที่สามวันดีสี่วันไข้

ส่วนกลุ่มสื่อสารทั้ง  ADVANC กับ INTUCH ก็กำลังเผชิญปัญหาต้องจ่ายค่าอะไรนั่นน่ะ จำไม่ได้แล้ว..ให้กับทีโอที

ส่วนปัจจัยบวกก็มีเพียงเรื่องประมูล 4G

หุ้นที่เหลือแม้บางตัวมีปัจจัยบวกหนุน แต่มาร์เก็ตแคปไม่มาก โอกาสจะลากดัชนีให้ขึ้นมาก็คงยาก

อ้อ…เห็นผู้จัดการกองทุนจาก “บลจ.” ต่างๆ บอกว่า อาจมีแรงซื้อเข้ามาในกองทุนแอลทีเอฟ และอาร์เอ็มเอฟบ้างในช่วงไตรมาส 4/58

แต่ยังไม่รู้ว่าจะดึงดัชนีได้เท่าไหร่

เพราะนักลงทุนต่างชาติยังกระหน่ำขายสนุกสนาน

ผ่านมา 9 เดือนแรกนั้น การซื้อขายของนักลงทุนต่างชาติ พวกเขายังขายสุทธิ 1.08 แสนล้านบาท

โอ้วว…ขอถามอีกครั้ง เรามาถึงจุดนี้ได้อย่างไร?

เรื่องเงินทุนของนักลงทุนต่างชาติ หากย้อนกลับไปต้นปี 2552 ขณะนั้นดัชนีหุ้นไทยอยู่ที่ 449 จุด

และก็เป็นช่วงเวลาที่ทางการสหรัฐฯ เขานำมาตรการ QE มาใช้ มี QE1, QE2 และ QE3 ลากกันมาเรื่อยจนถึงปี 2556 และนั่นทำให้มีเม็ดเงินจากต่างชาติไหลเข้ามากว่า 2.0 แสนล้านบาท

ผ่านมาถึงปี 2558 คาดกันว่า เงินที่ต่างชาติใส่เข้ามา เมื่อรวมกับกำไรที่ได้ไป น่าจะอยู่ราวๆ  3.6 แสนล้านบาท

ในปี 2556 อันเป็นช่วงเวลาสิ้นสุดมาตรการ QE ปรากฏว่าต่างชาติขายหุ้นไทยในปีนั้นกว่า 1.94 แสนล้านบาท นับว่าเยอะมาก หรือเท่ากับว่า เงินจำนวนดังกล่าว เท่ากับยอดที่ขนเข้ามาหลังใช้ QE พอดี

แม้ในปีนั้นต่างชาติจะขายหนัก แต่ก็ได้แรงซื้อจากนักลงทุนสถาบันเข้ามาช่วย ทำให้ดัชนีไม่ร่วงลงไป

ในปี 2557 ต่างชาติยังขายต่อเนื่องอีกกว่า 3.52 หมื่นล้านบาท

หรือรวม 2 ปี นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิแล้วกว่า 2.30 แสนล้านบาท

และหากนำมารวมกับปี 2558 ในช่วง 9 เดือนแรก เท่ากับว่า ต่างชาติขายหุ้นไทยสุทธิในช่วง 2 ปี 9 เดือนแล้วกว่า 3.35 แสนล้านบาท

ในรอบปี 2558 นี้ ในช่วง 9 เดือนแรก มีเพียง 3 เดือนเท่านั้นที่ต่างชาติซื้อสุทธิ

นั่นคือเมื่อเดือนมีนาคม-พฤษภาคม

เห็นตัวเลขกันแบบนี้แล้ว ก็อาจเป็นไปได้ว่าต่างชาติยังขายสุทธิได้อีก

หากถามผมว่า จะมีอะไรถามนักลงทุนต่างชาติไหม

ก็จะตอบบอกเพียงว่า

“เอาแบบที่สบายใจแล้วกัน..”.

มาดูตัวเลขสำคัญของตลาดหุ้นกันอีกบ้าง เช่น Market Dividend Yield เฉลี่ยอยู่ที่ 3.22% เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 2 ตัวเลขอยู่ที่ 2.91% และก็ดีกว่าสิ้นปี 2557 ซึ่งอยู่ 2.94%

ส่วน Market Capitalization       ลดลงครับ

เพราะจากสิ้นปี 2557 อยู่ที่ 13.8 ล้านล้านบาท ลงมาเหลือ 12.7 ล้านล้านบาท

มูลค่าการซื้อขายในช่วง 9 เดือนแรกมีทั้งหมดกว่า 8,221,073.53 ล้านล้านบาท เมื่อนำมาหารกับ 181 วันทำการ (ตลาดหุ้น) ผลลัพธ์การซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 45,420 ล้านบาท

หากเทียบกับไตรมาส 1 และ 2 ก็พบว่าลดลง

ที่น่าสนใจคือ P/BV ratios ลงมาเหลือเพียง 1.80 เท่า ต่ำสุดในรอบกว่า 4 ปี ซึ่งในหนังสือ “16 สูตรสำเร็จรวยด้วยหุ้น” ของ ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวากร เขียนบอกว่า ควรซื้อหุ้นที่ P/BV มากสุดไม่ควรเกิน 2 เท่า

ส่วนจะเป็นหุ้นตัวไหนบ้าง ต้องไปหากันเอง

ส่วนหุ้นไอพีโอใน SET มีเข้ามาทั้งหมด 16 ตัว (รวมกองทุนรีท และโครงสร้างพื้นฐาน) ส่วนในตลาด mai มีเข้ามีทั้งหมด 8 ตัว

เอาตัวเลขมาสรุปคร่าวๆ ไว้แค่นี้ก่อนครับ                                        

                                               

 

Back to top button