พาราสาวะถี

วันแรกสำหรับศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ ผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจและรัฐมนตรีเป็นไปตามสูตรฝ่ายถูกซักฟอกก็แสดงความมั่นใจต่อการชี้แจงอย่างเต็มเปี่ยม


ประเดิมกันวันแรกสำหรับศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ ผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจและรัฐมนตรีร่วมคณะอีก 5 ราย เป็นไปตามสูตรฝ่ายถูกซักฟอกก็แสดงความมั่นใจต่อการชี้แจงอย่างเต็มเปี่ยม ส่วนฝ่ายอภิปรายก็กระทืบเท้าขู่อ้างว่ามีข้อมูลเด็ดเตรียมน็อคกันคาสภา เป็นอย่างนี้มาทุกยุคทุกสมัย แต่สุดท้ายขึ้นอยู่กับหน้างานทุกอย่างเป็นไปตามราคาคุยกันหรือไม่ แต่หลังจากเลือกตั้งภายใต้รัฐธรรมนูญสืบทอดอำนาจเป็นต้นมา ยังไม่เห็นฝ่ายค้านมีอะไรเด็ดทำให้ฝ่ายอำนาจสืบทอดระคายผิวได้

ผิดจากสมัยก่อนที่ในการซักฟอก จะต้องมีรัฐมนตรีอย่างน้อย 1 รายที่เกิดบาดแผลจนนำมาซึ่งความเปลี่ยนแปลง จะบอกว่ารัฐบาลนี้โปร่งใส ไร้การทุจริต จึงไม่มีอะไรให้ฝ่ายค้านนำมาเปิดประเด็นกลายเป็นบาดแผลขยายขยี้ซ้ำได้ คงไม่ใช่ แต่อยู่ที่ว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจในแต่ละครั้งไม่ได้ยึดหลักที่ว่ามีข้อมูลเด็ดที่เป็นหลักฐานมัดตัวผู้ถูกอภิปรายได้อยู่หมัด หากแต่มีการเร่งรัดทำไปตามสิทธิ์ที่สามารถทำได้ในสมัยประชุมนั้นเท่านั้นเอง

ส่วนใหญ่มันจึงกลายเป็นข้อมูลตัดแปะที่ประชาชนรู้กันอยู่แล้ว นำมาปรุงแต่งและใส่ลีลาอาศัยโวหารของผู้อภิปรายแต่ละคนว่ากันไป หนักข้อมากไปกว่านั้นก็คือการขายข้อมูลส่งผลให้ข้อสอบรั่วฝ่ายถูกซักฟอกตั้งรับและโต้กลับได้สบาย ไม่น่าแปลกใจในยุคที่เลี้ยงงูเห่าด้วยกล้วยแบบคนใจถึงพึ่งได้ ประกอบกับมีเสือหิวจำนวนมาก มันจึงทำให้การอภิปรายไม่ไว้วางใจที่ควรจะนำมาซึ่งความเปลี่ยนแปลงกลายเป็นเวทีชี้แจงการทำงานหรือเรียกคะแนนนิยมของฝ่ายรัฐบาลไปเสียฉิบ

อย่างไรก็ตาม ภายใต้สถานการณ์โควิด-19 ที่วิกฤติอยู่ในเวลานี้ ประกอบกับมีการแทงข้างหลังกันอยู่ตลอดเวลาของส.ส.พรรคร่วมรัฐบาล มันจึงทำให้ฝ่ายกุมอำนาจโดยเฉพาะซีกผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจ ต้องออกแรงทักท้วง ขอกันตรง ๆ ผ่านที่ประชุมครม.กับคำพูดที่ว่า”ช่วยกันในการที่จะทำให้รัฐบาลมีความมั่นคง ช่วยๆ กัน ถึงเวลาโหวตช่วยดูกันให้ดี ขอให้ครม.รักกัน และสามัคคีเชื่อใจกัน” ย่อมสะท้อนความไม่มั่นใจของท่านผู้นำได้เป็นอย่างดี

แต่อย่างที่รู้กันตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาพรรคร่วมรัฐบาลก็ใช่ว่าจะอยู่ในฐานะที่กดดันและสร้างแรงบีบคั้นต่อผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจได้ แต่ละพรรคก็ต่างมีบาดแผล พรรคเก่าแก่อยู่ในภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ส่วนภูมิใจไทยอยู่ในสถานการณ์ตกกระไดพลอยโจนกับงานที่ตัวเองกุมบังเหียน เมื่อครั้งเข้าร่วมรัฐบาลใหม่ ๆ ตีอกชกตัวได้คุมกระทรวงใหญ่เกรดเอ ทั้งสาธารณสุขและคมนาคม เวลาผ่านไปสองปีกว่ากลายเป็นว่ารัฐมนตรีทั้งสองกระทรวงงานเข้าไม่หยุดหย่อน

โดยเฉพาะรายของ อนุทิน ชาญวีรกูล ตอนแรกก็ดีใจที่สร้างผลงานทำกัญชาให้ถูกกฎหมายได้ แต่หลังจากเสียรังวัดด้วยวาทกรรมไข้หวัดกระจอก ก็ออกอ่าวออกทะเลหาทางกลับฝั่งยังไม่เจอต่อการแก้ไขสถานการณ์โควิด-19 จะโยนไปอ้างว่าถูกยึดอำนาจไปไว้ที่ตัวผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจทั้งหมด มันก็คงอธิบายสังคมยาก เพราะโฆษกรัฐบาลคนใหม่ ธนกร วังบุญคงชนะ เพิ่งแถลงหลังครม.วันวาน ท่านผู้นำทำงานแก้ไขโควิดจากคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข

สรุปแล้วคือรับไปเต็ม ๆ จากอดีตผู้บริหารบริษัทก่อสร้างยักษ์ใหญ่กลับไม่ได้แสดงออกถึงศักยภาพของความเป็นนักบริหาร มิหนำซ้ำ ยังถูกค่อนขอดว่าที่บริษัทโตมาได้เพราะความเป็นมืออาชีพของผู้เป็นพ่อ และเพราะสายสัมพันธ์สำคัญมากกว่า ถ้ามีฝีมือจริงคงไม่อ่อนหัด ถนัดแต่ใช้อารมณ์ตอบโต้ทางการเมืองเหมือนพวกคุณหนูเอาแต่ใจอย่างที่เป็นอยู่ มาเจอปมวัคซีนยิ่งไปกันใหญ่ บททดสอบเรื่องวิสัยทัศน์และประสิทธิภาพในการบริหาร สอบตกแถมคะแนนติดลบอีกต่างหาก

มาจนถึงนาทีนี้เรื่องวัคซีนก็ยังเป็นการชักเข้าชักออกของบรรดาหมอการเมืองทั้งหลายแบบไม่ขาดตกบกพร่อง หาความแน่นอนอะไรไม่ได้ซักอย่าง วันก่อน นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรง เพิ่งสื่อสารกับสังคมจะมีการฉีดวัคซีนเข็ม 3 ให้กับประชาชนที่ฉีดวัคซีนสองเข็มไปแล้ว แน่นอนว่า หนีไม่พ้นกลุ่มที่ฉีดซิโนแวค จากที่ไม่มีความชัดเจนใด ๆ โดยบอกว่าน่าจะดำเนินการได้ปลายเดือนกันยายนหรือต้นตุลาคมนี้

แต่คล้อยหลังไม่เกิน 24 ชั่วโมงอธิบดีคนเดิมแถลงข่าวใหม่ เหมือนหนังคนละม้วนกับที่บอกไปอย่างมั่นใจในวันก่อน การกระตุ้นวัคซีนเข็ม 3 จะขึ้นกับปริมาณวัคซีนที่เข้ามา จากการคาดการณ์พบว่าตุลาคมนี้จะมีวัคซีนเข้ามาประมาณ 20 ล้านโดส ดังนั้น ช่วงเดือนดังกล่าวคาดว่าจะสามารถฉีดวัคซีนกระตุ้นให้แก่ประชาชนที่ได้รับวัคซีนสองเข็มมาก่อนหน้านี้ หากในกรณีวัคซีนไม่เข้ามาตามกำหนด จะขยับปริมาณการให้วัคซีนต่อไป

เล่นเอาล่อเอาเถิดไม่เลิก เห็นประชาชนเป็นอะไร ที่ทำให้ประชาชนส่ายหน้าและมองเห็นว่าหมอขี้ข้าการเมืองทั้งหลายไม่ได้มีความจริงใจหรือยึดผลประโยชน์ประชาชนเป็นสำคัญ ก็เป็นการแถลงในเรื่องเดียวกันของหมอจากกรมเดียวกันคือ นายแพทย์เฉวตสรร นามวาท ผู้อำนวยการกองควบคุมโรคและภัยสุขภาพในภาวะฉุกเฉิน ที่ระบุว่า การฉีดวัคซีนเข็ม 3 ให้กับประชาชนทั่วไปจะเริ่มได้เฉพาะในพื้นที่เสียงเดือนพฤศจิกายนนี้

ช่วงเวลาต่างกันกับที่อธิบดีกรมควบคุมโรคแถลงเกือบ 2 เดือน หรือดีไม่ดีอาจจะมากกว่านั้นหากเกิดภาวะวัคซีนไม่มาตามนัดเหมือนกับที่เคยหน้าแหกกันมาแล้วเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา เมื่อต้นทางยังสะเปะสะปะคาดการณ์กันอะไรไม่ได้ขนาดนี้ แล้วฝ่ายนโยบายที่อ้างว่าบริหารตามที่ระดับล่างเสนอมามันจะเดินกันยังไง ปะติดปะต่อข้อมูลแบบชาวบ้านมองเห็นความผิดพลาดกันขนาดนี้ อยู่ที่ฝ่ายค้านว่าจะมีความสามารถหาหลักฐาน ข้อมูลอะไรมาขยายผลเรื่องเหล่านี้ได้หรือไม่

ส่วน ศักดิ์สยาม ชิดชอบ เลขาฯพรรคของอนุทินนั้น อาจจะได้หน้าจากโครงการใหญ่หลายโครงการที่เกิดขึ้นและเดินหน้าไม่หยุดยั้งในช่วงที่ตัวเองบริหาร แต่ก็มีหลายโครงการที่สังคมตั้งข้อกังขา โดยเฉพาะเรื่องรถไฟฟ้า สายสีส้มล้มกันไม่เป็นท่าด้วยสาเหตุที่รู้กันดีว่าเพราะอะไร ล่าสุดก็เป็นคิวของสีม่วงใต้กับเหตุผลที่สังคมได้ฟังแล้วหัวร่อทั้งน้ำตา อ้างกันว่าไม่เกี่ยวกับการหนีศึกอภิปราย รอฟังสิ่งที่ฝ่ายค้านจะนำมาซักฟอกดูว่าไม่เกี่ยวกันจริงหรือไม่

Back to top button