กระทิงกำลังมา?

ทันทีที่ผู้คนเริ่มออกมาใช้ชีวิตตามวิถีใหม่ ก็เกิดความคาดหวังถึงเศรษฐกิจที่เริ่มเคลื่อนตัว ซึ่งเป็นนิมิตหมายที่ดี เพราะมันหมายถึงการเปิดประเทศ


* ทันทีที่ผู้คนเริ่มออกมาใช้ชีวิตตามวิถีใหม่ และบรรดาห้างร้านเริ่มคราคร่ำไปด้วยผู้คน ก็เกิดความคาดหวังถึงเม็ดเงินในระบบเศรษฐกิจเริ่มเคลื่อนตัว ซึ่งเป็นนิมิตหมายที่ดีสำหรับคนทั้งประเทศ เพราะมันหมายถึงการเปิดประเทศ และการเปิดเมืองใกล้ความจริงเข้ามาทุกที “โมนิก้า” จึงอยากให้โมเมนต์แบบนี้อยู่กับเราไปนาน ๆ หลังนั่งอิจฉาแฟนบอลหงส์แดงนั่งเชียร์ทีมรักแบบเกาะติดขอบสนามมาสองสามสัปดาห์น่ะสิ

* งานนี้ใครจะว่าอย่างไร..ก็ช่างหัวปะไร เพราะสิ่งที่เห็นในวันนี้ดีกว่าวันวานอย่างเป็นรูปธรรม รวมทั้งข่าวสารที่เผยแพร่ออกสู่สังคมก็มีแต่เรื่องสร้างขวัญกำลังใจ “โมนิก้า” จึงไม่แปลกใจที่หลายคนเริ่มวาดฝันตลาดหุ้นจะเข้าสู่ภาวะกระทิงในช่วงปลายปี เพราะเม็ดเงินลงทุนยังไหลเข้ามาไม่ขาดสาย และยังเห็นการตั้งป้อมรับหุ้นเมื่อราคาหุ้นย่อตัวลงมาตลอดเวลาไงล่ะคะ

* ด้วยเหตุนี้ถึงเห็นดัชนีประคองตัวเหนือแนวรับ 1,600 จุดได้หลายวัน ผนวกกับในแต่ละวันต้องเผชิญกับการทดสอบแรงขายตลอดเวลา แต่สุดท้ายก็ยืนปิดที่ 1,647.75 จุด บวกไป 13.27 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.01 แสนล้านบาท ย่อมกลายเป็นจุดที่ทำให้เชื่อว่า ดัชนีมีโอกาสวิ่งขึ้นไปทดสอบ 1,700 จุดในเดือนหน้า ต่อจากนั้นจะอยู่ในช่วงพักตัวเพื่อสะสมพลัง ก่อนทะยานขึ้นไปยังเป้าหมาย 1,750 จุดแบบนี้..โลกสวยเหลือเกินนะจ๊ะ

* ประเด็นเหล่านี้ทำให้ “โมนิก้า” ต้องตั้งคำถามแฟนคลับว่า กระทิงกำลังมาใช่ไหม? และเตรียมพร้อมสำหรับการเล่นขนาดไหน? ส่วนคนที่ไม่เชื่อจะเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว ได้เริ่มปรับยุทธวิธีเล่นหุ้นให้เข้ากับสถานการณ์หรือยัง? ทั้งหมดเป็นเรื่องที่นักเล่นต้องกลับไปคิดกันต่อ เพราะเดี๊ยนไม่สามารถไปบีบบังคับให้ทุกคนเชื่อตาม จึงต้องหยิบยกเรื่องราวต่าง ๆ ในตลาดหุ้นมาแลกเปลี่ยนมุมมองไงล่ะคะ

* เหมือนกับการเม้าท์ถึงหุ้นสุดเลิฟอย่าง EA ก็มาจากผลงานในแต่ละปียังโดดเด่นเป็นสง่า ผนวกกับตัวธุรกิจอยู่ในช่วงที่เรียกว่า New S-Curve ผนวกกับราคาหุ้นยังวิ่งรับข่าวไม่มากสักเท่าไหร่ จึงเหมาะต่อการลงทุนทั้งสั้นทั้งยาวอย่างแน่นอน “โมนิก้า” ถึงอยากให้แฟนคลับประเมินการขึ้นมาปิดที่ 65.75 บาท บวกไป 0.75 บาท หรือขึ้นไป 1.15% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 889 ล้านบาท ยังน่าเล่นอ๊ะป่าว?

* เมื่อแม่สวยจนไม่มีที่ติ “โมนิก้า” เลยมองไปที่หุ้นตัวลูกอย่าง NEX เพื่อเป็นทางเลือกให้กับคนที่ชอบหุ้นดาวรุ่ง หลังแมงลือเม้าท์กันให้แซ่ดว่า ปีนี้โตดี..ปีหน้าโตดีกว่า ซึ่งสอดคล้องกับมีบทวิเคราะห์ที่มีการให้ราคาเป้าหมายไว้แถว ๆ 12 บาท เดี๊ยนจึงอยากถามแฟนคลับว่า การยืนปิดที่ 9.40 บาท บวกไป 0.30 บาท หรือขึ้นไป 3.30% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 206 ล้านบาท มันเข้าตำราที่ว่า “ดูช้างให้ดูที่หาง ดูนางให้ดูที่แม่” ไหมเอ่ย?

* ในเมื่อจะเล่นยาว ๆ “โมนิก้า” ย่อมเบนสายตาไปมองหุ้น AIT อย่างไม่ลังเลใจ เพราะสายข่าวพูดถึงโมเมนตัมของธุรกิจครึ่งปีหลังมีแววโตได้อีก เพราะภาครัฐเริ่มมีการเร่งเบิกจ่ายอย่างเต็มที่ บวกกับราคาหุ้นในปัจจุบันเทรดบนค่า PE 13 เท่า เดี๊ยนถึงอยากให้แฟนคลับขาลุยลองพิจารณาราคาปิดที่ 37.75 บาท บวกไป 3 บาท หรือขึ้นไป 8.60% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 615 ล้านบาท ยังเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับภาวะกระทิงไหมจ๊ะ

* อีกรายที่มีแววจะไปได้สวย และมีการพูดถึงในหมู่นักลงทุนสไตล์คุณค่า ก็ต้องมีชื่อของหุ้น SAPPE รวมอยู่ด้วยอย่างแน่นอน โดยเฉพาะในมุมของเป้าหมายที่โบรกฯ ให้ไว้อยู่แถว ๆ 36 บาท มันเป็นอะไรที่จี๊ดโดนใจอย่างแรง หรือกระทั่งการเทรดของหุ้นยังอยู่บน PE 20 เท่า ก็เป็นอีกปัจจัยที่ทำให้ “โมนิก้า” มองการยืนปิดที่ระดับ 29 บาท บวกไป 1.75 บาท หรือขึ้นไป 6.40% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 248 ล้านบาท คือจังหวะที่ต้องเล่นตามเจ้าค่ะ

* สำหรับม้าตีนปลายที่ไม่ควรมองข้ามในเที่ยวนี้ “โมนิก้า” ขอเทน้ำหนักไปที่หุ้น EPG เพื่อเป็นทางเลือกสำหรับคนที่มองการ growth เป็นประเด็นหลัก และเมื่อเจาะลึกลงไปในแต่ละหน่วยธุรกิจจะเห็นว่า ทุกหน่วยกลับมาทำกำไรอย่างพร้อมเพรียง ผสานกับเศรษฐกิจทั่วโลกเริ่มฟื้นตัวดีขึ้นเป็นลำดับ เดี๊ยนจึงกล้าฟันธงว่า การยืนปิดที่ระดับ 13 บาท บวกไป 0.70 บาท หรือขึ้นไป 5.70% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 411 ล้านบาท ดาวน์ไซด์ต่ำมากพะยะค่ะ

Back to top button