หุ้นสายโหด?

ดัชนีในปี 2564 จึงอยากให้แฟนคลับเพิ่มความระมัดระวังในการเล่นเป็นพิเศษ เพราะรายการเขย่าหุ้นจะเกิดถี่ขึ้นเรื่อย ๆ จนงงเป็นไก่ตาแตกเลยพะยะค่ะ


* หากมองสถานการณ์ตลาดหุ้นไทยแบบขั้นบันไดจะเห็นว่า ดัชนีมีจุดขายหลักอยู่ด้วยกัน 3 บริเวณ ซึ่งไล่ตั้งแต่ระดับ 1,600 จุด ต่อจากนั้นขึ้นมาที่บริเวณ 1,660 จุด และบริเวณที่เป็นไฮไลท์สำหรับนักเล่นอยู่ที่ 1,700 จุด เพราะเป็นระดับเหมาะสมของดัชนีในปี 2564 จึงอยากให้แฟนคลับเพิ่มความระมัดระวังในการเล่นเป็นพิเศษ เพราะรายการเขย่าหุ้นจะเกิดถี่ขึ้นเรื่อย ๆ จนงงเป็นไก่ตาแตกเลยพะยะค่ะ

* ประกอบกับสัปดาห์ก่อนดัชนีวิ่งขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่บริเวณ 1,657 จุด ต่อจากนั้นเกิดอาการเครื่องน็อคกลางอากาศดื้อ ๆ จนวานนี้พยายามวิ่งกลับขึ้นไปอีกครั้ง แต่สุดท้ายทำได้แค่ยืนปิดที่ระดับ 1,648.37 จุด ลบไป 1.96 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 7.83 หมื่นล้านบาท น่าจะเป็นจังหวะพักตัวเหมือนเช่นทุกครั้งที่ตลาดหุ้นมีการเปลี่ยนฐาน จึงต้องมองเกมให้ขาดว่า เที่ยวนี้จะขายหนักจนดัชนีลงไปทดสอบ 1,625 จุดอ๊ะป่าว?

* หากคิดว่า มีสิทธิ์ลงไปถึงบริเวณแนวรับดังกล่าว ก็ควรหาทางขายทำกำไรเมื่อยังมีโอกาส และควรเตรียมเงินสำหรับทยอยช้อนหุ้นเมื่ออ่อนตัวลงมา เพราะภาพใหญ่ของตลาดหุ้นไทยยังเป็นขาขึ้น ซึ่งเห็นได้จากเม็ดเงินในระบบเศรษฐกิจเริ่มสะพัดขึ้นกว่าเมื่อก่อน บวกกับหุ้นหลายตัวยังมีราคาต่ำกว่าเป้าหมายค่อนข้างเยอะ จึงเปิดโอกาสให้แฟนคลับขาประจำได้เล่นรอบกันอย่างจุใจเจ้าค่ะ

* โดยเฉพาะในรายของหุ้น BANPU กลายเป็นช็อตที่ทำให้คนที่ใช้สิทธิ์เพิ่มทุนยิ้มหน้าบานเป็นจานเชิง เพราะเที่ยวนี้ in the money มาแบบครบเซต และยังมีของแถมติดปลายนวมเป็นปันผลอีกเล็ก ๆ น้อย ๆ ผสานกับราคาถ่านหินขาขึ้นเป็นแรงเสริมอีกหนึ่งช็อต วานนี้จึงเห็นราคาหุ้นพุ่งขึ้นมาปิดที่ 12.90 บาท บวกไป 1.50 บาท หรือขึ้นไป 13.15% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4 พันล้านบาทแบบชิลๆ  และยังมีลุ้นทดสอบเป้าถัดมาแถว 14 บาทอีกด้วยนะจ๊ะ

* เมื่อเม้าท์ถึงหุ้นที่เปิดตัวสวยกันทั้งที “โมนิก้า” ย่อมมองไปที่หุ้น SUPER แบบไม่ลังเลใจ เพราะปัจจัยพื้นฐานเอื้อให้หุ้นวิ่งเกิน 1 บาทได้สบาย ๆ แต่ไม่เคยประคองตัวได้เลยสักครั้ง (8 เดือนขึ้นเกินบาท 3 ครั้ง) เดี๊ยนจึงเชื่อว่า การยืนปิดที่ระดับ 1.04       บาท บวกไป 0.02 บาท หรือขึ้นไป 1.95% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.32 พันล้านบาท ท่ามกลางงบไตรมาส 2 โตเท่าตัว และยังเป็นการเทรดบน PE 14 เท่าแบบนี้..หุ้นน่าจะไปต่อสบาย ๆ นะคะ

* เหมือนกับความร้อนแรงของน้องบี B ก็มีต้นกำเนิดมาจากงบสวยเป็นประเด็นสำคัญ และยังคาดหวังในงวดถัดไปจะออกมาดีกว่าเดิม หุ้นจึงวิ่งขึ้นมาปิดที่ 1.12 บาท บวกไป 0.06 บาท หรือขึ้นไป 5.65% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.22 พันล้านบาท พร้อมกับทำราคาสูงสุดในรอบ 5 ปี 7 เดือน มันกลายเป็นจุดของการไหลตามน้ำสำหรับเหล่าผู้กล้า เพราะโมเมนตัมของหุ้นมันเอื้อให้สุด ๆ ไงล่ะคะ

* เม้าท์ถึงหุ้นตัวแรงย่อมมีชื่อของหุ้น AJA รวมอยู่ด้วยอย่างแน่นอน และสเต็ปที่ทำให้เคาะขวารัว ๆ ก็มาจากข่าวลือเกี่ยวกับกลุ่มทุนใหม่เข้ามาจีบ ซึ่งกำลังมีการพูดกันปากต่อปากอย่างเมามัน “โมนิก้า” เลยเข้าใจว่า การขึ้นมาปิดที่ 0.70 บาท บวกไป 0.15 บาท หรือขึ้นไป 27.25% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 666 ล้านบาท น่าจะเกี่ยวข้องกับข่าวดังกล่าวอย่างมีนัยสำคัญ ส่วนจะเป็นข่าว “จริง” หรือ “เท็จ” อย่างไร? คงต้องติดตามตอนต่อไปนะออเจ้า

* ไหน ๆ ก็มาทางสายบู๊อย่างเต็มตัว “โมนิก้า” ขอมองไปที่หุ้น TRC ภายใต้บังเหียนของ “ป๋าสมัย” กันสักหน่อย เพราะการบวกแรงสองวันติด พร้อมด้วยวอลุ่มที่แน่นขนัด มันน่าจะมีอะไรในกอไผ่ให้สืบค้นกันยกใหญ่ ผสานกับการขึ้นมายืนปิดที่ระดับ 0.20 บาท บวกไป 0.04 บาท หรือขึ้นไป 25% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 100 ล้านบาท ก็กลายเป็นตัวเร่งที่ทำให้เดี๊ยนต้องค้นหาเหตุผลในทันทีเจ้าค่ะ

* ตบท้ายกันที่หุ้น GEL เพื่อชี้ให้เห็นการเคาะขวาเที่ยวนี้ช่างเร้าใจดีเหลือเกิน แถมคนรุ่นก่อน ๆ ต่างรับรู้ถึงความแสบสันของหุ้นตัวนี้เป็นอย่างดี “โมนิก้า” ถึงไม่อยากลากไส้ประวัติเก่า ๆ ที่ทำให้แมงเม่าเจ๊งกันระนาว เพราะจะเป็นการดิสเครดิตท่านประธาน “บวรศักดิ์” เร็วเกินไป จึงขอให้แฟนคลับประเมินการขึ้นมาปิดที่ 0.48 บาท บวกไป 0.05 บาท หรือขึ้นไป 11.60% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 212 ล้านบาท ท่ามกลางสตอรี่เทิร์นอะราวด์ ผสานกับบุ๊ก  0.76 บาท จะปั่นกันได้อีกหลายยกอ่ะป่าว?…อิอิอิ

Back to top button