กลัวก็ถอยไป!

ตลาดหุ้นทั่วโลกกังวลกับการขึ้นดอกเบี้ย และเงินทุน บวกกับโควิดสายพันธุ์เดลต้าระบาดหนักเข้ามาสมทบ ทำให้ทุกอย่างดูเกินกว่าจะรับไหว


* ดูเหมือนตลาดหุ้นทั่วโลกจะกังวลกับการขึ้นดอกเบี้ย และเงินทุนไหลกลับไปที่ตลาดพันธบัตร จึงเร่งขายบางส่วนออกไปก่อน เพื่อเฝ้าดูสถานการณ์ในอนาคตจะออกมาเหมือนกับที่คาดการณ์ขนาดไหน? ล้วนเป็นเรื่องที่ส่งผลกระทบต่ออารมณ์นักเล่นเต็ม ๆ ผนวกกับมีข่าวโควิดสายพันธุ์เดลต้าระบาดหนักเข้ามาสมทบ ทำให้ทุกอย่างดูเละเทะเกินกว่าจะรับไหวไงล่ะคะ

* ด้วยเหตุนี้ถึงทำให้ดัชนีรูดลงมาปิดที่ 1,629.12 จุด ลบไป 11.33 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 9.10 หมื่นล้านบาทอย่างรวดเร็ว พร้อมกับแสดงอาการจะลงไปทดสอบแนวรับ 1,620 จุดตลอดเวลาแบบนี้ “โมนิก้า” ถือเป็นภาพที่คลาสสิคมาก ๆ ในมุมของคนที่อ่านสัญญาณเทคนิคออก เพราะจะเป็นการเปิดโอกาสให้คนที่ถนัดเล่นรอบ และคนที่มีเงินเย็นเข้าเก็บหุ้นใส่พอร์ตอีกรอบเจ้าค่ะ

* ที่สำคัญคือ สถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยตอนนี้ถือว่าตื่นเต้นเร้าใจสุด ๆ เพราะเป็นเกมของผู้กล้าที่มองการลงทุนล่วงหน้า 3 เดือนเป็นหลัก และประเมินราคาเป้าหมายคร่าว ๆ ของหุ้นแต่ละตัวได้ในระดับหนึ่ง จึงอนุมานได้ทันทีว่า การทยอยเก็บหุ้นเมื่ออ่อนตัวมีความเสี่ยงต่ำ “โมนิก้า” ถึงอยากให้แฟนคลับลองทำตัวให้ยืดหยุ่นกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ณ เวลานี้ และหากรู้ตัวว่า ทำไม่ได้! ก็ควรถอยฉากไปไกล ๆ พะยะค่ะ

* เหมือนกับการบวกสวนภาวะของหุ้น KBANK ก่อนจะมาปิดที่ระดับ 122 บาท บวกไป 2.50 บาท หรือขึ้นไป 2.10% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.76 พันล้านบาท ก็เป็นเกมที่ต้องใช้ความคิดมากกว่าปกติ เพราะเป็นการสวนกระแสทั้งที่ยังไม่เห็นอะไรในกอไผ่ ผสานกับหุ้นเคยขึ้นเต็มที่ได้แค่ระดับ 126 บาท “โมนิก้า” ถึงอยากให้แฟนคลับประเมินกันเอาเองว่า หากวันนี้เล่นตามจะคุ้มค่าเหนื่อยไหมเอ่ย?

* ประเด็นดังกล่าวทำให้ “โมนิก้า” ต้องรีบหันไปมองหุ้นดาวเทียม (ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าของปลอม) THCOM เพื่อชี้ให้เห็นความสับสนที่เกิดขึ้นเที่ยวนี้ มันชวนให้เวียนหัวมากเหลือเกิน เพราะสุดท้ายปลายทางก็ต้องว่าด้วยเรื่องกฎหมาย เดี๊ยนถึงอยากให้แฟนคลับประเมินการยืนปิดที่ 11.10 บาท ลบไป 0.80 บาท หรือลงไป 6.70% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 282 ล้านบาท มันใช่เรื่องที่จะต้องเอาตัวเข้าไปเสี่ยงไหมล่ะคะ

* หากจะต้องเสี่ยงกันทั้งที ก็ควรเสี่ยงอย่างมีคลาส “โมนิก้า” จึงขอแนะนำให้หันไปดู LHFG ซึ่งเหมาะต่อการบริหารกล้ามเนื้อหัวใจเป็นอย่างยิ่ง และเหตุผลที่เลือกเม้าท์ถึงหุ้นตัวนี้มาจากปันผลรออยู่ รวมทั้งบุ๊กแวลูก็อยู่ถึงระดับ  1.83 บาท จึงน่าเหลือแก๊ปให้หุ้นวิ่งต่ออีกระยะหนึ่ง เดี๊ยนถึงเชื่อว่า การยืนปิดที่ระดับ 1.49 บาท บวกไป 0.26 บาท หรือขึ้นไป 21.15% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.70 พันล้านบาท มันน่าลองดูสักตั้งนะจ๊ะ

* คล้ายกับกรณีของหุ้นป้ายโฆษณา AQUA ทุกกระเบียดนิ้ว เพราะมองในมุมของบุ๊กแวลูที่อยู่ในระดับ 0.95 บาท ควบคู่กับเม็ดเงินโฆษณาเริ่มเยอะขึ้นเรื่อย ๆ “โมนิก้า” ย่อมเห็นด้วยกับการขึ้นมายืนปิดที่ระดับ 0.65 บาท บวกไป 0.11 บาท หรือขึ้นไป 20.40% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1 พันล้านบาท เพราะอย่างน้อยก็มีลุ้นเห็นกำไรในช่วงไตรมาส 4 จะโป่งขึ้นกว่าเดิมนะออเจ้า

* ส่วนรายที่ทำเสียวซ่านไปทั้งตัว จนหาคำบรรยายไม่ถูกนั้น “โมนิก้า” คงทิ้งน้ำหนักไปยังตัวจี๊ดอย่างหุ้น AJA ในทันที เพราะการขึ้นมายืนปิดที่ 0.79 บาท บวกไป 0.13 บาท หรือขึ้นไป 19.70% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 862 ล้านบาท มันเหมือนเป็นการตอกย้ำข่าวลือเรื่องกลุ่มทุนใหม่เข้ามาเทคฯ น่าจะมีมูล! หุ้นถึงวิ่งเย้ยมาตรการต่าง ๆ ของตลาดหลักทรัพย์แบบ “โนสน โนแคร์” จึงกลายเป็นช็อตที่เหมาะสำหรับพวกบ้าบิ่นอย่างแท้ทรูนะคะ

* สำหรับรายที่จัดจ้านบนพื้นฐานที่แน่นเปรี๊ยะอย่าง EP ถือเป็นช็อตที่น่าตามสุด ๆ ในมุมของหุ้นที่พัวพันกับการขายโรงไฟฟ้าให้ทุนใหญ่ในประเทศ ซึ่งว่ากันว่าเที่ยวนี้จะบันทึกกำไรเนื้อ ๆ เน้น ๆ หลักพันล้าน พร้อมกับจุดชนวนปันผลพิเศษตามมาติด ๆ โดยราคาหุ้นเด้งรับข่าวด้วยการขึ้นมาปิดไปที่ระดับ 6.80 บาท บวกไป 1 บาท หรือขึ้นไป 17.25% ท่ามกลางมูลค่าการซื้อขาย 309 ล้านบาทแบบนี้.. ป๋า.ย ต้องออกมาเคลียร์แล้วล่ะค่ะ

Back to top button