พาราสาวะถี
การโหวตร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตรา ในมาตรา 83 และ 91 เพื่อให้กลับไปใช้บัตร 2 ใบ เพราะเอาเข้าจริงที่หวังมีเสียงหนุน 84 เสียงขึ้นไป
เรียบร้อยโรงเรียนผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจ กับการโหวตร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตรา ในมาตรา 83 และ 91 เพื่อให้การเลือกตั้งส.ส.กลับไปใช้บัตร 2 ใบ แอ็คชั่นของส.ว.บางราย บางพวกที่ออกมาขู่ก่อนหน้าแค่สร้างราคาหรือโหนกระแสให้ปรากฏเป็นข่าว เพราะเอาเข้าจริงที่หวังมีเสียงหนุน 84 เสียงขึ้นไป พบว่ามีส.ว.โหวตรับร่างดังกล่าวถึง 149 เสียง มีเสียงคัดค้านเพียงแค่ 10 เสียงเท่านั้น แม้แต่ พลเอกปรีชา จันทร์โอชา น้องชายท่านผู้นำยังเห็นชอบด้วย
เป็นอันว่าจากนี้ไปก็ให้ไปจับตาดูในกระบวนการหลังจากที่ร่างแก้ไขดังกล่าวมีผลบังคับใช้ ซึ่งจะต้องมีการร่างกฎหมายลูกประกอบ บางคนอาจแปลกใจว่าไม่ได้มองไปยังความเคลื่อนไหวของส.ส.พรรคเล็กที่จะล่ารายชื่อยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญเพื่อตีความร่างแก้ไขดังกล่าวอย่างนั้นหรือ ดูที่การรวบรวมรายชื่อแล้วก็คงยากที่จะได้ครบ เพราะแม้แต่พรรคใหญ่ที่ไม่เห็นด้วยต่างร่างแก้ไขดังกล่าวอย่างก้าวไกลและภูมิใจไทย ยังไม่สนับสนุนให้มีการยื่นตีความ
ขณะเดียวกัน หากฟังความเห็นจาก วิษณุ เครืองาม เรื่องการยื่นตีความนั้นก็เห็นชัดเจนว่า เป็นสิ่งที่สามารถทำได้ แต่จะไม่มีผลต่อกระบวนการที่ผ่านความเห็นชอบจากที่ประชุมรัฐสภาไปแล้ว หมายความว่า หลังจากที่ประชุมรัฐสภาเห็นชอบในวาระ 3 ไปแล้ว ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 256(7) คือพักไว้ 15 วัน ก่อนนำร่างฯขึ้นทูลเกล้าฯ ซึ่งวิษณุชี้ว่าเมื่อกระบวนการจบตรงนี้ร่างรัฐธรรมนูญฉบับแก้ไขก็ประกาศใช้อยู่ดี เป็นเรื่องของสภาและพรรคการเมือง
ดังนั้น จึงต้องไปดูในชั้นของการร่างกฎหมายลูกซึ่งในที่นี้ สมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกกต.ให้ความเห็นได้น่าสนใจว่า การต้องเสนอร่างแก้ไขพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.ให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญที่มีการแก้ไขนั้นจะกลายเป็นอีกมหากาพย์ เนื่องจากการตีความมาตรา 93 และ 94 ที่ไม่มีการแก้ไขเกี่ยวกับคำว่าส.ส.ที่พึงจะมีและส.ส.บัญชีรายชื่อที่พึงได้รับ จะเป็นประเด็นถกใหญ่ของการแก้กฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.
เนื่องจากร่างที่มีการแก้ไขให้มีการเลือกตั้งส.ส.ด้วยบัตรสองใบ แต่มีคำนวณส.ส.พึงมีก่อน แล้วไปคำนวณส.ส.บัญชีรายชื่อที่พึงได้รับแบบบัตรใบเดียว ที่พรรคได้ส.ส.เขตมากอาจไม่ได้ส.ส.บัญชีรายชื่อแบบบัตรใบเดียวในการเลือกตั้งปี 2562 ก็เข้าทางพรรคขนาดกลางและพรรคเล็ก และคงไม่มีใครว่าอะไร แต่หากไปเขียนกฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. ให้คำนวณแยกเขตส่วนเขต ปาร์ตี้ลิสต์ส่วนปาร์ตี้ลิสต์จากบัตรคนละใบ คงเป็นเรื่องยาวถึงศาล จนถึงฟ้องถอดถอนคนร่าง และคนผ่านกฎหมายทุกคนว่าทำผิดรัฐธรรมนูญ
แต่มุมกฎหมายในแบบของสมชัยนั้น หลายครั้งจะเห็นว่าไม่ได้เป็นไปตามที่คาดการณ์ ต้องอย่าลืมว่าการเดินหน้าโดยซามูไรกฎหมายของพรรคสืบทอดอำนาจอย่าง ไพบูลย์ นิติตะวัน สำทับด้วยการสั่งส.ส.ของพรรคยกมือหนุนทุกคนโดย พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ และการไฟเขียวให้ส.ว.ร่วมโหวตอีกแรงจากผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจ นั่นย่อมหมายความว่าทางโล่ง ไร้อุปสรรค อยู่ที่ว่าจะดัดแปลง เติมแต่งกันอย่างไร เพื่อไม่ให้เป็นการเตะหมูเข้าปากหมา คือพรรคของคนแดนไกลได้ประโยชน์
นั่นเป็นสิ่งที่จะเกิดขึ้นตามมาหลังจากนี้ แต่สิ่งที่น่าสนใจจากการโหวตที่ผ่านพ้นไปคือ ส.ส.ในกลุ่มของ ธรรมนัส พรหมเผ่า ไม่ปรากฏกายร่วมในการลงคะแนน และเป็นไปตามสูตรเมื่อยังอยู่ภายใต้ชายคาพรรคเดิมไปงัดปากถามคงไม่มีใครบอกว่าออกแน่ย้ายชัวร์ นาทีนี้ต้องประเมินสถานการณ์ อ่านใจของหัวหน้าพรรค เนื่องจากตามรายงานข่าวหลังประชุมครม.วันอังคารที่ผ่านมา ซึ่งมีการปิดห้องคุยกันของพี่น้อง 3 ป.นั้น ว่ากันว่า พี่ใหญ่ไม่แฮปปี้เอามาก ๆ
หลังจากได้ยินคำว่า “ปลด” สองรัฐมนตรีที่เป็นถึงเหรัญญิกและเลขาธิการพรรคคู่ใจข้างกายตัวเอง พี่ใหญ่ถังกับว้ากลั่นห้อง และทุกอย่างก็จบลงด้วยการแยกย้าย โดยที่หัวหน้าพรรคลงจากห้องแล้วจะขึ้นรถที่ตีนบันไดตึกไทยคู่ฟ้า ก็มีสองรัฐมนตรีที่ถูกปลดมายืนส่ง ขณะที่น้องเล็กเดินผ่านแล้วไม่แยแส ไม่ใส่ใจเหมือนที่ผ่านมา และในเวลาต่อมาก็มีข่าวว่าไปคุยภารกิจลับอีกวงหนึ่งนอกทำเนียบรัฐบาล นั่นหมายความว่า ผลสะเทือนจากศึกซักฟอกหนนี้ไม่ได้จบที่เขี่ยเสนาบดีเจ้าปัญหาพ้นทาง
หากแต่เป็นเรื่องที่พี่น้อง 3 ป. ซึ่งยืนยันในช่วงของการซักฟอกว่ารักกันปานจะกลืน แม้จะไม่ใช่พี่น้องคลานตามกันมา แต่ผูกพันเหมือนสายเลือดเดียวกันไม่มีวันที่จะมีใครมายุให้แตกแยกได้ ถ้ายังคงสวมหัวโขนภายในกองทัพ มีอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาด หรือเกษียณแล้วอยู่บ้านดูลูกเลี้ยงหลาน ภาพความกลมเกลียวนั้น คงจะเหนียวแน่นยืนนาน แต่เมื่อเลือกที่จะสืบทอดอำนาจและถอดคราบจากชุดลายพรางมาใส่สูทบนสนามการเมืองของนักเลือกตั้ง ทุกย่างก้าวล้วนแต่เต็มไปด้วยแรงเสียดทานและเสียงยั่วยุ
จับเอาแค่ประเด็นขัดแย้งเฉพาะหน้า ภาพชัดเจนว่าพี่ใหญ่ต้องบริหารงานการเมือง นั่นหมายถึงกระสุนที่จะต้องพร้อมอยู่ตลอดเวลาและดูแลไม่ให้ขาดตกบกพร่อง ขณะที่น้องทั้งสองโดยเฉพาะน้องเล็กขายภาพซื่อสัตย์ โปร่งใสมาโดยตลอด จะให้มาเล่นเกมเกลือกกลั้วเปลืองตัวแบบนั้นไม่ได้ ทว่าเมื่อเข้าตาจนที่จะเกิดการโหวตคว่ำในศึกซักฟอก สิ่งที่ตัวเองสร้างภาพรังเกียจก็จำเป็นต้องทำ มิเช่นนั้น จะเกิดอุบัติเหตุทำให้ตัวเองเสียหน้าและเสียหายอย่างใหญ่หลวง
ขณะเดียวกัน ต้องอย่าลืมเป็นอันขาด ข่าวคราวเรื่องพี่ใหญ่ขอได้นั่งเก้าอี้สำคัญของประเทศครั้งหนึ่งในชีวิต ยังเป็นสิ่งที่สร้างความตะขิดตะขวงใจให้กับน้องเล็กอยู่ตลอดเวลา ถึงปากจะบอกว่าไม่มีอะไร ต่างก็เชื่อใจกันและกันเสมอมา อย่างไรก็ตาม เกมการปล่อยผ่านร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ผ่านพ้นไป มองได้ทั้งในแง่ที่ว่าผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจเตรียมจะวางมือทางการเมืองแล้ว หรือก็เป็นการวางแผนเพื่อจัดหนักหวังผลเลือกตั้งครั้งหน้า เข้ามาสู่เก้าอี้ผู้นำประเทศอีกหนอย่างสง่างามจากเสียงของพรรคที่ชนะเลือกตั้ง
แต่คงต้องตัดข้อความของ วันชัย สอนศิริ ส.ว.ลากตั้งเจ้าของคำถามพ่วงให้ส.ว.โหวตเลือกนายกฯ ที่ส่งสัญญาณเตือนว่ารัฐบาลกำลังนับถอยหลังหรือไม่ โดยยกปัจจัย เมื่อผู้มีอำนาจแตกกัน รัฐบาลก็พัง เมื่อพรรคร่วมแตกกัน รัฐบาลก็พัง และเมื่อมีการโกงกินทุจริตคอร์รัปชั่นชัดแจ้ง รัฐบาลก็พัง ตามที่ส.ว.รายนี้ปิดท้ายนั่นแหละ ดูเอาแล้วกันว่ารัฐบาลตอนนี้เข้าหรือกำลังเข้าข้อไหน