บลูชิพจัดเต็ม!โมนิก้าและทีมงาน

*ในที่สุดสถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยก็เป็นเหมือนกับที่เดี๊ยนเม้าท์มอยไว้ทุกอย่าง หลังแรงซื้อพรั่งพรูเข้ามาแบบไม่ทันตั้งตัว จนดัชนีพุ่งทะยานขึ้นมาปิดที่ 1,393.66 จุด บวกไป 22.97 จุด ด้วยมูลค่า 4.98 หมื่นล้านบาท มันเป็นภาพสะท้อนที่ทำให้โบรกเกอร์ต่างๆ รีบปรับเป้าดัชนีในทันทีพร้อมกับแสดงความเชื่อมั่นแบบสุดโต่งว่า ดัชนีจะไปถึง 1,700-1,800 จุดกันเลยทีเดียวเจ้าค่ะ


*ในที่สุดสถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยก็เป็นเหมือนกับที่เดี๊ยนเม้าท์มอยไว้ทุกอย่าง หลังแรงซื้อพรั่งพรูเข้ามาแบบไม่ทันตั้งตัว จนดัชนีพุ่งทะยานขึ้นมาปิดที่ 1,393.66  จุด บวกไป 22.97 จุด ด้วยมูลค่า 4.98 หมื่นล้านบาท มันเป็นภาพสะท้อนที่ทำให้โบรกเกอร์ต่างๆ รีบปรับเป้าดัชนีในทันทีพร้อมกับแสดงความเชื่อมั่นแบบสุดโต่งว่า ดัชนีจะไปถึง 1,700-1,800 จุดกันเลยทีเดียวเจ้าค่ะ

*โดยเฉพาะสำนักตราใบโพธิ์ให้เป้าปี 58 อยู่ที่ระดับ 1,450 จุด ขณะที่เป้าดัชนีในปี 59 ให้ไว้ที่ 1,800 จุด  มันเป็นการฟันธงแบบไม่กลัวด้ามธงหักแบบนี้ “โมนิก้า” ถือเป็นการเดิมพันครั้งใหญ่ของโบรกเกอร์สำนักนี้ หากเป็นไปตามที่มีการประเมินไว้ รับรองค่ายนี้ดังระเบิดระเบ้อแน่ๆ หากไม่เป็นเหมือนกับที่ประเมินไว้ อันนี้ก็ต้องตามไปดูกันเอาเองว่า ค่ายนี้จะเป็นอย่างไร? แต่ที่ชัดแจ้งสุดๆ ในเที่ยวนี้คือ โหนกระแสเก่งเหลือเกินพะยะค่ะ

*ผลของการมองภาพการลงทุนแบบโลกสวยสุดลิ่มทิ่มประตู ทำให้ผู้คนหันมามองหุ้นบลูชิพในทันที และตัวที่นำตลาดในเที่ยวนี้กลายเป็นพี่เบิ้ม PTT กระชากขึ้นอย่างร้อนแรงตั้งแต่เช้าจรดเย็น ทั้งหลายทั้งมวลเป็นผลมาจากราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้น 5% วานนี้ถึงเห็นหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 268 บาท บวกไป 15 บาท หรือขึ้นไป 5.90% ด้วยมูลค่า 4.50 พันล้านบาท มันเป็นภาพที่หาดูได้ยากจริงๆ เพราะก่อนหน้านี้หุ้นเอาแต่มุดหัวลงลูกเดียว ล่าสุดผงกหัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง ย่อมเป็นนิมิตหมายที่ดี และมีสิทธิ์ขึ้นไปถึง 300 บาทนะจะบอกให้

*เมื่อหุ้นแม่ขยับขึ้นแรง หุ้นลูกจอมขยันอย่าง PTTEP ย่อมไม่ปล่อยให้โอกาสหลุดลอยไป กระชากตามขึ้นมาในทันที แต่ดูเหมือนว่า ผู้คนจะเล็งเห็นถึงมูลค่าที่แท้จริงสูงกว่านี้ค่อนข้างเยอะ จึงไล่ราคาหุ้นขึ้นมาปิดที่ 76.75 บาท บวกไป 7 บาท หรือขึ้นไป 10% ด้วยมูลค่า 2.60 พันล้านบาทแบบนี้ “โมนิก้า” รู้ได้ทันทีว่า หุ้นจะไต่เพดานขึ้นไปยืน 100 บาทอีกรอบ เพราะมูลค่าทางบัญชีของหุ้นตัวนี้อยู่ที่ 107 บาทเจ้าค่ะ

*ส่วนที่รับอานิสงส์ตามหลังมาติดๆ ในเที่ยวนี้กลายเป็น PTTGC และ IRPC ซึ่งเป็นหุ้นที่ถีบตัวขึ้นแรงทุกครั้งที่กองทุนทั้งในและนอกเข้ามาเก็บหุ้นอีกครั้ง วานนี้ถึงเห็นตัวแรกวิ่งขึ้นมาปิดที่ 61 บาท บวกไป 4.50 บาท หรือขึ้นไป 8% ส่วนตัวหลังปิดที่ 4.22 บาท บวกไป 0.22 บาท หรือขึ้นไป 5.50% มันเป็นจังหวะที่ต้อง follow ตามเพื่อทำรอบ เหมือนกับในรายของ IVL ขาประจำต่างรู้ดีว่า เมื่อปิโตรเคมีเริ่มขยับขึ้นยกแผง นี่เป็นหุ้นอีกขบวนที่ต้องรีบกระโจนใส่ในทันที วานนี้ถึงเห็นหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 24.10 บาท บวกไป 1.20 บาท หรือขึ้นไป 5.20% เดี๊ยนคงบอกได้แค่ว่า ชอบตัวไหน..ใส่ตัวนั้น เพราะเรื่องพรรค์นี้มันขึ้นอยู่กับความชอบนะจะบอกให้

*อ้อ! เกือบลืมเม้าท์ถึง SCC ซึ่งเป็นหุ้น 1 ใน 4 จตุรเทพที่ช่วยดันดัชนีขึ้นมาทดสอบแนวต้าน 1,400 จุดอีกหน และเหตุผลของการเข้ามาไล่ราคาในเที่ยวนี้ก็เป็นที่ทราบกันดีว่า กองทุนได้เวลาเก็บเข้าพอร์ตอีกครั้ง วานนี้ถึงเห็นราคาหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 488 บาท บวกไป 16 บาท หรือขึ้นไป 3.40% “โมนิก้า” ถึงเชื่อว่า เป้า 500 บาทจะเป็นบันไดอีกหนึ่งขั้นที่ช่วยให้หุ้นขึ้นไปทำฐานแนวรับใหม่ที่สูงขึ้นไปอีกเจ้าค่ะ

*เหมือนกับในรายของ BANPU  พอมีข่าวดีเกี่ยวกับราคาพลังงานเริ่มผงกหัวขึ้น มักได้เห็นหุ้นตัวนี้ทะยานขึ้นอย่างร้อนแรงเป็นประจำ ล่าสุดก็ขึ้นมาปิดที่ราคาสูงสุดของวันที่ระดับ 22.50 บาท บวกไป 1.30 บาท หรือขึ้นไป 6% ด้วยมูลค่า 666 ล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นระดับราคาที่เล่นตามน้ำได้ทันที หลังหุ้นเบรกไฮเดิมเป็นที่เรียบร้อย โอกาสไปต่อมีค่อนข้างสูงนะคะ

*กระจองงอง..กระจองงอง..เจ้าข้าเอ้ย! ทำไปทำมาอีท่าไหนไม่รู้ จู่ๆ มิตรรักอย่าง ก.ล.ต. กลับทำเรื่องที่ไม่เป็นเรื่องขึ้นมาอีกจนได้ จนเปิดช่องให้หลายคนเม้าท์ถึงเรื่องสองมาตรฐานเริ่มปรากฏให้เห็นเป็นรูปธรรมอีกครั้ง หลังมีข่าวหลุดออกมาจากปากพรายกระซิบแถวถนนวิภาวดีว่า ในเร็วๆ นี้จะมีการตัดสินความผิดด้วยการลงโทษประธาน (วันเดียว คนเดียว)ของNMG เพียงผู้เดียว ซึ่งเป็นผลมาจากการกีดกันไม่ให้ผู้ถือหุ้นรายย่อยเข้าประชุมก่อนหน้านี้ ส่วนคนอื่นที่เป็นผู้บริหารหลุดหมดนะจะบอกให้

*โอ้แม่เจ้า!..บอกตามตรงว่า เดี๊ยนได้ยินคำตัดสินแบบนี้แล้วรู้สึกท้อแท้ใจสิ้นดี เพราะข้อหาที่ฝั่งของ NEWS โดนเข้าไปนั้น กลายเป็นเรื่องเกี่ยวกับเทนเดอร์ออฟเฟอร์เสียอย่างนั้น  ซึ่งดูไปแล้วข้อหาฝั่งของ NMG น่าจะชัดเจนเสียอีก (แมงลือเม้าท์ไว้อย่างนั้น) ไม่ว่าจะเป็นชายคนหนึ่งที่เข้ามาช่วยเก็บหุ้น หรือมหาลัยแห่งหนึ่งก็โผล่เข้ามาร่วมแจม มันเป็นอะไรที่ชัดเจนกว่าหลายเท่าแบบนี้ สงสัยตราชั่งเอียงเสียแล้วกระมั้ง!

*ที่สำคัญคือ ผู้คนในแวดวงตลาดหุ้นกำลังเฝ้ามองพฤติกรรมของคนในสำนักงานนี้ทุกฝีเก้า เดี๊ยนถึงได้แต่หวังว่า หน่วยงานนี้ยังคงมีความเป็นกลาง ความเสมอภาค และความยุติธรรม เพราะถ้าไม่มีหลักในการดำเนินการ และสามารถอธิบายเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้สังคมได้รับรู้ “โมนิก้า” คิดว่า ผู้คนที่อยู่ในวงการตลาดหุ้นอาจเกิดความรู้สึกที่ไม่ดีมากยิ่งขึ้น..งานนี้บอกได้แค่ว่า รักนะถึงเตือน ถ้าไม่รักจริง ก็คงปล่อยไปตามเรื่องตามราวแล้วล่ะค่ะ!

Back to top button