TQM แตกกิ่ง เติมยอด.!
TQM หลังจากเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ มาก็เห็นการเปลี่ยนแปลงค่อนข้างเยอะ จากราคาไอพีโอ 23 บาท ปัจจุบันไต่ทะลุ 100 บาทไปแล้ว มาอยู่ที่ 110.50 บาท
บริษัท ทีคิวเอ็ม คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TQM หลังจากเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ มา (เข้าเมื่อวันที่ 20 ธ.ค. 2561) ก็เห็นการเปลี่ยนแปลงค่อนข้างเยอะ ทั้งในแง่ของราคาหุ้น จากราคาไอพีโอ 23 บาท ปัจจุบันไต่เพดานทะลุ 100 บาทไปแล้ว มาอยู่ที่ 110.50 บาท
นั่นเท่ากับว่า ช่วงเกือบ 3 ปีที่ผ่านมา ราคาหุ้น TQM ปรับขึ้นไปแล้ว 380%…ใครที่มีหุ้นติดอยู่ในพอร์ต ณ ราคาไอพีโอ ป่านนี้รวยเละไปแล้ว..!! น่าอิจฉาเนอะ…
ส่วนในแง่ตัวธุรกิจ ก็เห็นความเปลี่ยนแปลงชัดเจน…ก่อนหน้านี้ไปซื้อ 2 บริษัทนายหน้าประกัน ได้แก่ บริษัท ทรู ไลฟ์ โบรกเกอร์ จำกัด และ บริษัท ทรู เอ็กซ์ตร้า โบรกเกอร์ จำกัด เพื่อขยายตลาดประกันภัยและประกันชีวิต…เป็นการใช้ฐานทุนจากการระดมทุนมาต่อยอดซื้อบริษัทนายหน้าประกันภัยในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อให้พอร์ตใหญ่ขึ้น
ก็จะทำให้ TQM เป็นบริษัทนายหน้าประกันที่มีความครบเครื่องมากขึ้น..!!
ไม่เพียงเท่านี้ ล่าสุดยังแตกกิ่งธุรกิจใหม่..!! ด้วยการส่งบริษัทลูก บริษัท อีซี่ เลนดิ้ง จำกัด บุกสินเชื่อส่วนบุคคลเพื่อซื้อประกันภัยอีกด้วย
ปกติเวลาลูกค้าซื้อประกัน บางคนอาจคิดเยอะ เพราะต้องจ่ายเงินก้อนใหญ่ หรือบางคนก็จะเลือกใช้สินเชื่อบุคคลกับสถาบันการเงินเพื่อผ่อนชำระค่าเบี้ยประกัน ซึ่ง TQM เห็นถึงโอกาสตรงนี้ ก็เลยตั้ง อีซี่ เลนดิ้ง ขึ้นมาตอบโจทย์ลูกค้า
จุดที่น่าสนใจ… TQM ซึ่งเป็นนายหน้าขายประกัน เน้นจับตลาดลูกค้ารายย่อย หรือ B2C จากเดิมมีรายได้จากค่านายหน้าขายประกันให้กับบริษัทประกันต่าง ๆ เป็นหลัก…การมีอีซี่ เลนดิ้ง เพิ่มเข้ามา อันดับแรก จะทำให้ TQM ได้ลูกค้าเพิ่มและได้ฐานลูกค้าต่อเนื่อง ก็จะทำให้ได้ค่านายหน้าจากบริษัทประกันเพิ่มขึ้น
ถัดมาช่วยลดค่าใช้จ่าย เนื่องจากบริษัทไม่ต้องจ่ายดอกเบี้ยบัตรเครดิตแก่สถาบันการเงินอีกต่อไป
ขณะที่อีซี่ เลนดิ้ง ก็อาศัยฐานลูกค้าของ TQM ที่มีอยู่ทั่วประเทศกว่า 3 ล้ายราย ในการปล่อยสินเชื่อส่วนบุคคล ก็จะมีรายได้ดอกเบี้ยเข้ามา…พออีซี่ เลนดิ้ง มีกำไร TQM ในฐานะแม่บังเกิดเกล้าก็จะได้ประโยชน์ไปเต็ม ๆ
ในมุมลูกค้าเองก็ได้ประโยชน์ เพิ่มความสะดวก มีบริการครบจบในที่เดียว…
โดยอีซี่ เลนดิ้ง จะประเดิมปล่อยสินเชื่อภายในไตรมาส 4 ปีนี้ คาดจะปล่อยได้ไม่น้อยกว่า 300 ล้านบาท สร้างรายได้ให้บริษัทกว่า 20 ล้านบาท
ซึ่งถ้าดูจากเป้าหมายของบริษัทที่วางไว้ว่าในปี 2565 ตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อไว้ที่ 1,500 ล้านบาท และในอนาคตจะสามารถเพิ่มรายได้ให้เติบโตได้กว่า 100 ล้านบาทต่อปี บ่งบอกว่าตลาดตรงนี้ยังมีโอกาสโตได้อีกมาก ก็จะเป็นอีกช่องทางที่ช่วยหนุนการเติบโตของ TQM ที่เดิมก็โตดีอยู่แล้ว จะยิ่งติดปีกโบยบิน…
สะท้อนได้จากผลงานในช่วง 4 ปีย้อนหลัง โดยปี 2560 มีกำไรสุทธิ 268 ล้านบาท จากรายได้รวม 2,281 ล้านบาท ปี 2561 กำไรสุทธิ 404 ล้านบาท จากรายได้รวม 2,525 ล้านบาท ปี 2562 กำไรสุทธิเพิ่มเป็น 507 ล้านบาท จากรายได้รวม 2,783 ล้านบาท ปี 2563 กำไรสุทธิแตะ 702 ล้านบาท จากรายได้รวม 3,136 ล้านบาท
ขณะที่ครึ่งแรกปี 2564 ตุนกำไรสุทธิไว้แล้ว 423 ล้านบาท จากรายได้รวม 1,703 ล้านบาท
กรณีนี้จึงเปรียบเสมือนการแตกกิ่ง (สร้างความหลากหลายของโปรดักส์) ต่อยอดประกัน ทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้นอีก…
โอเค…เรื่องของ TQM แตกกิ่งก็ว่ากันไป แต่ยังมีอีกประเด็นที่จับจ้องกันอยู่ นั่นคือการเข้าซื้อหุ้นบริษัท ที คิว อาร์ จำกัด (มหาชน) หรือ TQR จากผู้ถือหุ้นใหญ่ “กลุ่มพรรณนิภา” ว่าจะเกิดขึ้นเมื่อใด..?
เอาเป็นว่า ดีลนี้จะเกิดขึ้นเมื่อไหร่..? อันนี้ไม่รู้ (เงื่อนไขต้องรอให้หลุด Silent Period ซะก่อน)…แต่สถานีต่อไปคงหนีไม่พ้น TQR…ชัวร์ป้าบ…
…อิ อิ อิ…