หุ้นตัวแรง
การแกว่งตัวไปมาของดัชนี เป็นเรื่องที่ต้องเผชิญทุกครั้งเมื่อกำลังรอฟังข่าวดีใหม่ๆ ประกอบกับเพดานที่จะให้เดินหน้าต่อก็แคบลงเรื่อย ๆ
* บอกตรง ๆ ว่า “โมนิก้า” ไม่ได้รู้สึกกังวลกับการแกว่งตัวไปมาของดัชนีแม้แต่นิดเดียว เพราะเป็นเรื่องที่ต้องเผชิญทุกครั้งเมื่อกำลังรอฟังข่าวดีใหม่ ๆ เข้ามาเสริมสร้างความมั่นใจในการลงทุน ประกอบกับเพดานที่จะให้เดินหน้าต่อก็แคบลงเรื่อย ๆ จึงต้องเขย่าแรง ๆ เพื่อเป็นการพิสูจน์แรงรับมีมากขนาดไหน? ส่งผลให้บรรยากาศการลงทุนช่วงนี้ฝุ่นตลบอีกครั้งไงล่ะตัวเอง!
* ยิ่งมีแรงกดดันจากการลดวงเงินคิวอี พ่วงด้วยข่าวเม้าท์ในทำนองเฟดจะขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่ากำหนด และยังมีข่าวช็อคโลกเกี่ยวกับยักษ์ใหญ่อสังหาฯ ของจีนล้มละลายเข้าผสมโรงอีกดอก ยิ่งทำให้ทุกอย่างอีรุงตุงนังไปหมด และทางออกที่ดีสุดในสถานการณ์ดังกล่าวคือ ขายก่อนพ่อสอนไว้! เพราะไม่รู้ว่าผลกระทบดังกล่าวรุนแรงขนาดไหน? และการลงไปตั้งหลักด้านล่างก็มีความเสี่ยงต่ำเสียด้วย..ทุกคนเลยพร้อมใจกันตัดช่องน้อยแต่พอตัวเจ้าค่ะ
* ถึงกระนั้นก็มีนักลงทุนบางกลุ่มที่เห็นโอกาสทองในการซื้อหุ้น จึงสวมวิญญาณชาวสวนแบบสุดซอย จนดันดัชนีขึ้นมาปิดที่ระดับ 1,614.86 จุด บวกไป 11.80 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 8.39 หมื่นล้านบาท ท่ามกลางความคาดหวังที่ว่า การเปิดเมืองเที่ยวนี้จะทำให้เม็ดเงินในระบบเศรษฐกิจสะพัดขึ้นกว่าเดิม ผนวกกับตลาดหุ้นไทยซึมซับเรื่องราวที่เกี่ยวกับข่าวร้ายเป็นระลอกไปเยอะแล้ว จึงเห็นคนดักเก็บหุ้นเมื่อย่อตัวลงมาเป็นประจำจ้า
* สำหรับตัวที่เป็นไฮไลท์ของการเล่นเที่ยวนี้ “โมนิก้า” ยังให้ความสำคัญกับแบงก์ตราใบโพธิ์ SCB เหมือนเช่นที่ผ่านมา และหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้เชื่อเช่นนั้น ล้วนมาจากการปรับตัวให้เข้ากับการเงินยุคใหม่ จึงเชื่อว่า การแถลงข่าวพรุ่งนี้เย็นน่าจะมีของดีมาโชว์แฟนแน่นอน และอาจทำให้การยืนปิดที่ระดับ 107.50 บาท บวกไป 6 บาท หรือขึ้นไป 5.90% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.10 พันล้านบาท กลายเป็นฐานที่หนุนให้หุ้นไปต่อสวย ๆ นะจะบอกให้
* ส่วนคนที่ชอบของแรง และยังได้เสียวทุกครั้ง คงมองไปที่หุ้นตัวจี๊ดอย่าง RPC เพื่อเป็นทางเลือกสำหรับพวกขาลุย เพราะการวิ่งขึ้นมาปิดที่ระดับ 1.89 บาท บวกไป 0.21 บาท หรือขึ้นไป 12.50% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.17 พันล้านบาท กลายเป็นจังหวะที่ทำให้เชื่อว่า เที่ยวนี้จะดันขึ้นไปถึงยอดเดิมที่บริเวณ 2 บาท จึงเป็นอีกหนึ่งช็อตเด็ดที่เหมาะต่อการเสี่ยงโชคสั้น ๆ สำหรับคนที่ชอบ “มาเร็ว เคลมเร็ว” นะคะ
* ประเด็นข้างต้นทำให้ “โมนิก้า” นึกถึงน้องริชชี่ RICHY ขึ้นมาทันที เพราะการกระชากขึ้นมาปิดที่ 1.39 บาท บวกไป 0.05 บาท หรือขึ้นไป 3.75% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 431 ล้านบาท กลายเป็นเรื่องที่เซอร์ไพรส์ในสายตาคนที่เฝ้ามองหุ้นอสังหาฯ แถมก่อนหน้านี้เพิ่งกระชากขึ้นแรงให้เห็นมาหมาด ๆ แต่หลังจากนั้นทรุดลงมาเรื่อย ๆ จึงกลายเป็นเกมเร็วที่อ้างอิงได้เฉพาะพีอีต่ำ ครึ่งปีหลังยังมีโกรทเท่านั้น..อิอิอิ
* เมื่อมาในโทนที่เล่นเร็วกันเป็นหลัก “โมนิก้า” คงหันไปมองหุ้นฟอร์มฮอตที่ถูกปัดฝุ่นขึ้นมาใหม่อย่าง TCC เป็นรายถัดไปในทันที เพราะท็อปฟอร์มสุด ๆ ตั้งแต่ต้นเดือน และจนบัดนี้ก็ยังฟอร์มสดเหมือนเดิม..ปัญหาเดียวที่เกิดขึ้นตอนนี้คือ เดี๊ยนไม่รู้ว่า การขึ้นมายืนปิดที่ระดับ 1.36 บาท บวกไป 0.12 บาท หรือขึ้นไป 9.70% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 311 ล้านบาท ทั้งที่ผลงานยังไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน..มันใช่หุ้นที่น่าลงทุนจริงเหรอ?
* ส่วนหุ้นอีกตัวที่มาในโทนเดียวกัน “โมนิก้า” คงมองไปที่หุ้นเหล็กเจ้าดังที่เป็นตำนานอย่าง GJS กันสักหน่อย เพราะการพุ่งขึ้นมาปิดที่ 0.38 บาท บวกไป 0.06 บาท หรือขึ้นไป 18.75% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 189 ล้านบาท ทั้งที่ภาพใหญ่ของหุ้นยังอยู่ในลักษณะประคองตัวไปวัน ๆ จึงกลายเป็นความเสี่ยงที่นักเล่นต้องแบกรับกันเอาเอง ซึ่งทั้งหมดขึ้นอยู่กับว่า ผลงานไตรมาสนี้จะดีเหมือนกับที่เคยทำได้ในไตรมาสก่อนไหมหละ?
* เช่นเดียวกับในรายของ TMC ทะยานขึ้นมาปิดที่ระดับ 1.62 บาท บวกไป 0.18 บาท หรือขึ้นไป 12.50% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 220 ล้านบาท ทั้งที่มีตัวแดงติดตัวมาเป็นแรมปี แถมผลงานในครึ่งปีแรกก็ยังดูไม่ได้ “โมนิก้า” เลยไม่รู้จะเอาคำไหนมาอธิบายเหตุผลที่ทำให้หุ้นร้อนเป็นปรอทแตก ยกเว้นคำว่า ปั่นธรรมดาโลกไม่จำ..เลยต้องปั่นแรงให้บันลือโลก จริงหรือไม่จริง..ก็คอยดูกันต่อไปนะคะ