อย่าปอดเกิน
นักลงทุนต้องระมัดระวังไว้นิดหนึ่ง เพราะมีโอกาสโดนทุบหนักเหมือนจันทร์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นบทเรียนที่ทำให้รู้ว่า คนยังเน้นหนักไปที่การเคาะสั้นๆ
* สถานการณ์ของตลาดไทยในยามที่แขวนบนเส้นด้าย มักมีเรื่องที่ทำให้ไม่สบายใจเข้ามากระทบเป็นประจำ จนเป็นเหตุให้นักเล่นกลุ่มต่าง ๆ ขายหุ้นเพื่อลดความเสี่ยงเป็นจำนวนมากนั้น “โมนิก้า” มองเป็นจังหวะที่นักลงทุนต้องเพิ่มความระมัดระวังไว้นิดหนึ่ง เพราะมีโอกาสโดนทุบหนักเหมือนเช่นวันจันทร์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นบทเรียนที่ทำให้รู้ว่า ทุกคนยังเน้นหนักไปที่การเคาะสั้น ๆ นะจะบอกให้
* ด้วยเหตุนี้ถึงไม่แปลกใจที่ทุกคนกังวลใจในทุกเรื่องที่เกี่ยวข้องกับตลาดหุ้น เพราะมันเป็นปัจจัยที่มีผลกระทบต่อตลาดหุ้นไม่มากก็น้อย จึงต้องเผื่อใจกับการขายหนัก ๆ ในช่วงก่อนวันหยุดยาว ผสานกับช่วงนี้กลับมาวิตกงบไตรมาส 3 กันอีกรอบ “โมนิก้า” เลยไม่แน่ใจว่า เที่ยวนี้จะมีการเล่นสตอรี่ “วินโดว์เดรสซิ่ง” เหมือนเช่นทุกครั้งหรือเปล่า? เพราะบรรยากาศมันไม่เอื้อเลยพับผ่าสิ!
* ยิ่งตลาดหุ้นทำท่าจะต้านแรงขายได้อยู่หมัด แต่สุดท้ายลงเอยด้วยการยืนปิดที่ระดับ 1,619.59 จุด บวกไป 4.73 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 7.90 หมื่นล้านบาท ยิ่งเพิ่มแรงกดดันให้กับนักเล่นอย่างมีนัยสำคัญ และเหมือนเป็นการส่งสัญญาณให้รู้คร่าว ๆ ว่า ขอปรับฐานเพื่อสะสมกำลังซื้อสักระยะหนึ่ง ต่อจากนั้นจะกระชากขึ้นอีกรอบแบบนี้..ส่อแววจะโดนเล่นใหญ่ไฟกระพริบอีกดอกหนึ่งกระมั๊ง!..อิอิอิ
* ส่วนรายที่สังคมลงความเห็นสมควรโดนจัดหนักแบบยาว ๆ “โมนิก้า” คงมองไปที่หุ้น DELTA แบบไม่ลังเลใจ เพราะการขึ้นของหุ้นไม่เมคเซ้นส์เอาเสียเลย แถมข้อกังขาเกี่ยวกับกองทุนไต้หวันเข้ามาปั่นก็ยังไม่เคลียร์ จึงไม่แปลกใจที่หุ้นโดนทุบลงมากองอยู่ที่ 474 บาท ลบไป 24 บาท หรือลงไป 4.80% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.17 พันล้านบาท เพราะการเทรดบนค่า PE 81 เท่ามันโอเวอร์แอคติ้งเกินไปน่ะสิ
* สำหรับรายที่สร้างเซอร์ไพรส์ให้กับเม่า พร้อมกับทะยานขึ้นแบบไม่บอกกล่าว คงต้องโฟกัสไปที่หุ้น LHFG ก่อนหุ้นตัวอื่น ๆ หลังราคาหุ้นพุ่งขึ้นมาปิดที่ระดับ 1.64 บาท บวกไป 0.23 บาท หรือขึ้นไป 16.30% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.03 พันล้านบาทอย่างรวดเร็ว ทั้งที่ก่อนหน้าแสดงอาการอิดออดราวกับจบรอบ และดูเหมือนไม่ยินดียินร้ายกับแบงก์ไต้หวันเข้ามาเก็บหุ้นเพิ่ม เดี๊ยนเลยสงสัยว่า หุ้นตัวนี้น่าจะมีความรู้สึกช้าไปหน่อยก็เท่านั้นเองจ้า!
* ตรงกันข้ามกับในรายของ AJ อย่างสิ้นเชิง เพราะรายนี้นอนสลบแน่นิ่งเป็นแรมเดือน แต่วานนี้กลับพุ่งพรวดพราดขึ้นมาปิดที่ 22.10 บาท บวกไป 1.80 บาท หรือขึ้นไป 8.90% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 925 ล้านบาท คงไม่แคล้วดันออกของเหมือนเช่นที่เคยเป็นมา “โมนิก้า” จึงไม่ขอแสดงความคิดเห็นอะไรไปมากกว่านี้ เพราะในมุมของผลงานไม่มีอะไรต้องกังขา แต่ในมุมของหุ้นที่ทำให้คนติดดอยเป็นเบือ..ต้องคิดหนักน่ะสิ
* เม้าท์ถึงหุ้นฟอร์มฮอตขึ้นมาทั้งที ก็จำเป็นต้องมองไปที่หุ้น ACE ด้วยเช่นกัน เพราะการขึ้นมายืนปิดที่ 4.08 บาท บวกไป 0.16 บาท หรือขึ้นไป 4.10% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 630 ล้านบาท คือการบวกต่อเนื่องวันที่สอง แถมเที่ยวนี้มีวอลุ่มเข้ามาซัพพอร์ต ผสานกับลุ้นข่าวดีไฟฟ้าชุมชนอีก แบบนี้จึงมีลุ้นขึ้นไปทดสอบยอดเดิมบริเวณ 4.50 บาทอย่างแน่นอน…จริงหรือไม่ วันนี้ได้รู้กันเจ้าค่ะ
* ส่วนรายที่พุ่งกระฉูดสุด ๆ พร้อมมีสตอรี่เด็ดพร้อมนำเสนออย่าง T กลายเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ไม่ควรมองข้าม เพราะทุกคนในวงการรับเหมาก่อสร้างรู้ดีว่า ภาพของธุรกิจในช่วง 1 ปีข้างหน้าจะพลิกโฉมขนาดไหน? และเมื่อประเมินร่วมกับความสามารถในการทำกำไรที่จะดีขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม บรรดาขาลุยเลยกระโจนใส่แบบไม่ยั้ง จนหุ้นพุ่งขึ้นมาปิดที่ 0.40 บาท บวกไป 0.06 บาท หรือขึ้นไป 17.65% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 433 ล้านบาทไงล่ะคะ
* อีกรายที่แรงเงียบ ๆ มาเห็นอีกทีราคาหุ้น AIE ก็ขึ้นมาปิดที่ระดับ 1.57 บาท บวกไป 0.15 บาท หรือขึ้นไป10.55% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 430 ล้านบาทเสียแล้ว “โมนิก้า” เลยอยากรู้เหมือนกันว่า เที่ยวนี้จะแรงขนาดไหน? เพราะมองในมุมของค่าพีอีเป็นหลัก ก็ยังมีแก๊ปให้เล่นต่อสบาย ๆ หรือมองในมุมของกำไรที่ประคองตัวได้ดีในช่วงโควิดระบาดอีกรอบ ก็ทำให้รู้สึกสดชื่นซ่าบซ่าไม่ใช่น้อย จึงอยากให้คุณ ๆ ท่าน ๆ พิจารณาดูว่า น่าตามไหม?..อิอิอิ