ศึกลดเหลื่อมล้ำ
กองเชียร์ระบอบประยุทธ์มักแอนตี้ “ประชาธิปไตยฝรั่ง” เชียร์จีน ยากเอาอย่างจีน ทำไมไม่ใช้กฎหมายป้องกันการผูกขาดสั่งปรับบรรษัทยักษ์ใหญ่
กองเชียร์ระบอบประยุทธ์มักแอนตี้ “ประชาธิปไตยฝรั่ง” เชียร์จีนเผด็จการพรรคเดียว
อยากเอาอย่างจีน ทำไมไม่ใช้กฎหมายป้องกันการผูกขาดสั่งปรับบรรษัทยักษ์ใหญ่ เอาเงินมาทุ่มให้สาธารณสุข ที่อยู่อาศัย การศึกษา รื้อระบบสอบห้ามกวดวิชา ขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ ฯลฯ
อย่ายุนะ รัฐไทยอยากเอาอย่างจีน แต่เอาแค่ห้ามเด็กเล่นเกม แบนแฟนด้อม (ติ่งเกาหลีเรี่ยไรเงินให้ม็อบ) เซ็นเซอร์โลกออนไลน์
พูดอย่างนี้ไม่ได้เชียร์จีน มาตรการแบบจีน “เป็นทุนนิยมให้น้อยลง กลับไปเป็นสังคมนิยมให้มากขึ้น” มีความเสี่ยงสูงมากที่เศรษฐกิจจะคว่ำ กระทบคนวงกว้าง ไม่ใช่แค่มหาเศรษฐี เพราะจีนมีคนชั้นกลาง 400 ล้านคน
แต่จะว่าโง่หรือดันทุรังก็ตาม พรรคคอมมิวนิสต์จีนได้ “ประกาศอุดมการณ์” ลดเหลื่อมล้ำ สั่งสอนทุนผูกขาด (รัฐเท่านั้นผูกขาดได้) สกัดกั้นการเก็งกำไร (ประหารชีวิตคริปโท)
เป็นเดิมพันครั้งใหญ่ของสี จิ้นผิง ถ้าทำสำเร็จก็อวดได้ว่าเผด็จการพรรคคอมมิวนิสต์สามารถสร้างความมั่งคั่งยั่งยืน พร้อมความเป็นธรรมทางเศรษฐกิจ แต่ถ้าล้มเหลวก็ซ้ำรอยประธานเหมาปฏิวัติวัฒนธรรม พาประเทศลงเหว เผลอ ๆ จะถูกโค่นอำนาจ
น่าสังเกตว่าในขณะที่จีน อเมริกา ตั้งป้อมประจัญหน้า ทั้งสองค่ายก็พยายามลดความเหลื่อมล้ำ กระจายรายได้ เพิ่มรัฐสวัสดิการ ทั้งเพื่อเอาใจประชาชน และเพื่อให้เศรษฐกิจเดินต่อได้
ไบเดนก็กำลังผลักดันนโยบายฟื้นฟูประเทศ build back better ให้ความสำคัญกับการดูแลเด็ก ผู้สูงอายุ การศึกษา สาธารณสุข สิ่งแวดล้อม ซึ่งต้องเพิ่มภาษีนิติบุคคล โดยเฉพาะกลุ่มทุนเทคโนโลยี
ทั้งสองฝ่ายวางเป้าหมายเดียวกัน แต่สี จิ้นผิง ใช้อำนาจเผด็จการ ทุบเลย เสี่ยงพังครืน ขณะที่ไบเดนต้องผลักดันผ่านสภา อุปสรรคขัดขวางมากมาย ไม่สำเร็จง่าย
อันตรายของโลกตะวันตกคือ การเก็งกำไรในโลกการเงิน เพราะอัดฉีดล้นเกิน อเมริกาเงินเฟ้อทั้งที่เศรษฐกิจฝืด ถ้าฟองสบู่แตกจะเป็นโดมิโนมโหฬาร
อันตรายของจีนคือ การใช้อำนาจหักดิบ อาจทำให้เศรษฐกิจบางภาคล้มครืน เช่นเอเวอร์แกรนด์ ปล่อยให้กู้เกินตัว จู่ ๆ รัฐจำกัดสินเชื่อซื้อบ้าน ปัญหาหลายอย่างก็หมกไว้ใต้อำนาจเผด็จการ เช่น วิสาหกิจของรัฐขาดทุน หนี้ท่วม
แล้วอันตรายของไทย? สาธยายไม่หมด เอาง่าย ๆ เป็นเผด็จการล้าหลังกว่าจีน ผูกขาดเหลื่อมล้ำกว่าอเมริกา บนโครงสร้างเศรษฐกิจที่อ่อนแอ
คนไทยนิยมจีนไม่ตระหนัก ว่าด้านที่จีนประสบความสำเร็จคือพรรคคอมมิวนิสต์ มีความคิดก้าวหน้ากว่ารัฐอนุรักษ์นิยมล้าหลังนับร้อยปี มีรากฐานอุดมการณ์ รู้ว่าจะรักษาอำนาจได้ต้องดูแลประชาชนให้ดี รัฐจีนจึงเป็นรัฐบริการ มีคุณภาพ ทันสมัยทางเทคโนโลยี ไม่ใช่รัฐราชการเจ้าขุนมูลนายที่บริการห่วยแทบทุกด้าน
แต่ต้นทุนของจีนคือความเป็นเผด็จการ ที่หมกปัญหาไว้ใต้พรม ปราบคนเห็นต่าง ทั้งที่พรรคคอมมิวนิสต์ก็เกิดจากคนเรียกร้องเสรีภาพ ความเป็นธรรม ถ้าเหมา เจ๋อตงเกิดยุคนี้ ก็เป็นโจชัว หว่อง
ความอยากเป็นมหาอำนาจทำให้ปลุกชาตินิยม สร้างศัตรูไปทั่ว ก้าวร้าว อวดเบ่ง แบบสถานทูตแถลงอย่าด้อยค่าวัคซีนจีน เสือกอะไร ใคร ๆ ก็เกลียดจีน
กระนั้น บนความเป็นคอมมิวนิสต์จีนยังคิดถึงความเท่าเทียม ลดเหลื่อมล้ำ จะฉลาดหรือโง่ก็ตาม อเมริกายุคเดโมแครตก็พยายามทำในอีกวิถีทาง
ทั้งจีนทั้งตะวันตกกำลังพยายามควบคุมการผูกขาด ลดความเหลื่อมล้ำ สร้างความเป็นธรรมทางเศรษฐกิจ ความคิดแบบนี้ไม่มีในรัฐไทย เช่นสังคมนิยมจีนไม่ยอมให้สั่งสมที่ดิน ทุนนิยมอเมริกาภาษีแพงลิบ แต่เจ้าสัวไทยกวาดเท่าไหร่ก็ได้ เปิดให้ต่างชาติซื้ออีก
เศรษฐกิจโลกปีหน้าจะผันผวนมาก แต่รัฐปรสิตยังเหมือนเดิม ใหญ่โต เปลืองภาษี ไม่มีประสิทธิภาพ ใช้อำนาจค้ำความเหลื่อมล้ำ
เป็นฝรั่งก็ไม่ได้ เป็นจีนก็ไม่ใช่ อยู่บนหนทางแห่งความหายนะของตัวเอง