งานงอก ?
ตลาดหุ้นไทยเต็มไปด้วยความผันผวน เห็นได้จากอาการวิตกจนเกินเหตุ แต่บางครั้งก็แสดงอาการห้าวเป้งจนเกินงาม จึงคาดหวังอะไรได้ไม่มากนักในยามนี้
* เปิดหัวสัปดาห์นี้มีแต่เรื่องชวนให้ปวดเศียรเวียนเกล้า จนผู้เล่นบางคนถึงกับมีอาการมือไม้สั่นดิก ๆ มันเป็นผลมาจากนักลงทุนหันมาเล่นเกมเสี่ยงกันเยอะขึ้น ส่งผลให้สถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยเต็มไปด้วยความผันผวน ซึ่งเห็นได้จากอาการวิตกจริตกันจนเกินเหตุ แต่บางครั้งก็แสดงอาการห้าวเป้งจนเกินงาม จึงคาดหวังอะไรได้ไม่มากนักในยามนี้นะจะบอกให้
* เม้าท์ถึงเรื่องความหวังของนักลงทุนกลุ่มต่าง ๆ ขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” คงต้องเกาะติดท่าทีของจีนที่กำลังจัดระบบเงินดิจิทัลอย่างเอาจริงเอาจัง รวมทั้งการโยกย้ายเงินของกองทุนใหญ่ ก็กลายเป็นตัวชี้ชะตาตลาดหุ้นทั่วโลกเป็นไปในทิศทางไหน? หลังผู้เล่นบางกลุ่มเชื่อว่า น่าจะมีการเปิดฉากขายอีกรอบอย่างแน่นอน จึงพยายามเร่งระบายหุ้นออกมาตลอดเวลา ส่งผลให้รูปแบบของการเล่นเที่ยวนี้ยังเป็นการเก็งอนาคตล้วน ๆ เจ้าค่ะ
* ด้วยเหตุนี้ “โมนิก้า” ถึงมองอาการเป๋ไปเป๋มาของดัชนีเป็นเรื่องของอารมณ์ในการลงทุนล้วน ๆ ซึ่งไม่ได้คำนึงถึงปัจจัยพื้นฐานสักเท่าไหร่ และดูเหมือนอาการตื่นตกใจในคราวนี้ มันไม่ได้แตกต่างจากสิ่งที่ทุกคนเคยพบเจอสักเท่าไหร่ วานนี้ถึงเห็นดัชนีทำผลงานได้ดีสุดแค่ประคองตัวปิดที่ 1,620.02 จุด ลบไป 11.13 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.35 แสนล้านบาท โดยทั้งหมดเป็นผลมาจากสงครามข่าวเริ่มกลับมาระบาดระลอกใหม่น่ะสิ
* ส่วนที่มีกลิ่นไม่ค่อยดีโชยมาแต่ไกลในรอบนี้ “โมนิก้า” ขอพุ่งเป้าไปที่หุ้นตัวจี๊ดอย่าง XPG กันสักหน่อย โดยเฉพาะการไล่ราคาอย่างบ้าคลั่งก่อนหน้านี้ น่าจะเป็นภาพสะท้อนที่ชี้ให้เห็นว่า มีบรรดาหมูไม่กลัวน้ำร้อนเยอะเหลือเกิน จึงไม่ขอคอมเม้นท์อะไรมากไปกว่านี้ดีกว่า เพราะการลงมายืนปิดที่ 2.92 บาท ลบไป 0.80 บาท หรือลงไป 21.50% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.52 พันล้านบาท มันฟ้องว่า “ไผเป็นไผ” น่ะสิ
* ว่าจะไม่เม้าท์ถึง COM7 สักประมาณ 3-4 สัปดาห์ พอเหลือบไปเห็นนักเล่นสาดหุ้นรัว ๆ “โมนิก้า” ก็เกิดอาการหูตาผึ่งขึ้นมาในทันที พร้อมกับบอกกับตัวเองว่า นี่คือหุ้นหมดรอบอย่างแท้จริง! จึงไม่ต้องแปลกใจที่แมงลือชิ่งหนีกันเป็นแถว (เขาเม้าท์ให้แซ่ดว่า ธุรกิจผ่านจุดพีคไปแล้ว) หุ้นถึงทรุดลงมาปิดที่ระดับ 65.75 บาท ลบไป 4.25 บาท หรือลงไป 6% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 941 ล้านบาทแบบนี้..บอกได้คำเดียวว่า เผลอเมื่อไหร่ โดนฝังทั้งเป็นแน่ค่ะ
* อีกหนึ่งรายที่ไม่ควรมองข้ามในยามนี้ได้แก่ STGT ถูกกระหน่ำขายแบบไม่มีเยื่อใยเป็นเวลานาน จนวานนี้หุ้นลงมายืนปิดที่ระดับ 30 บาท ลบไป 1.50 บาท หรือลงไป 4.75% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.66 พันล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นช็อตของการหนีตายกันแบบจ้าละหวั่น! จึงไม่มีเวลาคิดอะไรมากอีกแล้ว หากเช้านี้มีออเดอร์เคาะซ้ายเป็นจำนวนมาก ก็จำเป็นต้องถอยทัพในทันที เพราะหุ้นตัวนี้ก็เล่นกันโหด ๆ เป็นประจำอยู่แล้ว..ไม่เชื่อลองถาม เสี่ย ย. ดูสิคะ
* เม้าท์ถึงหุ้นที่มีความเสี่ยงในการเล่นรอบ “โมนิก้า” ก็เหลือบไปเห็นน้องเปิ้ล TTA ขึ้นมาในทันที เพราะพื้นฐานของหุ้นกำลังจะเปลี่ยนไปอย่างมีนัยสำคัญ แต่เผอิญแมงลือดันซุบซิบนินทาเกี่ยวกับตัวเลขบรรทัดสุดท้ายในงวดถัดไปจะออกมาไม่เหมือนที่ตั้งใจ หุ้นจึงโดนรินออกมาเป็นระยะ ๆ จนวานนี้ทรุดฮวบลงมาปิดที่ 12.90 บาท ลบไป 0.90 บาท หรือลงไป 6.50% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 573 ล้านบาทแบบนี้ สงสัยจะลงไปตั้งฐานแถวบริเวณ 12 บาทอีกรอบกระมัง!
* ส่วนในรายของ AAV กลายเป็นไฟต์บังคับที่ทำให้ “โมนิก้า” ต้องเอ่ยถึงอีกครั้ง ประเด็นไม่มีอะไรมากมาย แค่อยากให้รู้ว่า มีเรื่องราวที่ทำให้หลายคนต้องหันมามองหุ้นตัวนี้อีกครั้ง (เปิดเมือง เปิดประเทศ) และราคาหุ้นก็เคลื่อนไหวในกรอบราคา 2.60-2.80 บาทมาร่วมเดือน เดี๊ยนจึงมองว่า การขึ้นมาปิดที่ระดับ 2.76 บาท บวกไป 0.04 บาท หรือขึ้นไป 1.50% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 104 ล้านบาท น่าจะมีนัยสำคัญบางอย่างซ่อนอยู่นะนายจ๋า!
* อีกหนึ่งรายที่มีอาการคล้ายกัน “โมนิก้า” คงต้องมองไปที่ JR เป็นประเด็นหลัก เพราะก่อนหน้านี้เคยเม้าท์ให้ฟังแล้วว่า งบจะโตทุกไตรมาสยาวไปถึงปีหน้า ผนวกกับวันนี้หุ้นเทรดบน PE 31 เท่า จึงกลายเป็นหุ้นที่มีความเสี่ยงต่ำสุด ๆ จึงไม่มีความจำเป็นต้องถอยห่างเลยจริง ๆ และอยากให้แฟนคลับประเมินการยืนปิดที่ 7.45 บาท ลบไป 0.10 บาท หรือลงไป 1.30% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 43 ล้านบาท น่าเล่นขนาดไหน..อิอิอิ