พาราสาวะถี
ชะตากรรมหนักหน่วงในรอบ 50 ปี แทนที่จะให้สวดมนต์เพื่อให้เพื่อนผู้เผชิญกับอุทกภัยพ้นเคราะห์ น่าจะเยียวยาและลงไปดูแลให้ดีที่สุดดีกว่า
แค่พายุเข้าแป๊บเดียว บวกกับน้ำเหนือไหลหลากปรากฏว่าสถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดสุโขทัยก็ย่ำแย่ และพื้นที่รับน้ำอื่น ๆ ก็บักโกรก ไม่นับรวมพื้นที่ภาคอีสานที่ผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจเตรียมจะลงไปตรวจเยี่ยมที่โคราช ขณะที่ชัยภูมิถูกน้ำท่วมสูงหลายอำเภอและถือว่าประสบชะตากรรมหนักหน่วงในรอบ 50 ปี แทนที่จะเรียกร้องให้คนไทยทุกคนช่วยกันสวดมนต์เพื่อให้เพื่อนผู้เผชิญกับอุทกภัยพ้นเคราะห์ น่าจะหาหนทางเยียวยาและลงไปดูแลให้ดีที่สุดดีกว่า
ไม่อยากเปรียบเทียบกับยุค ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่ผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจมีตำแหน่งเป็นผบ.ทบ.เคยตามประกบลงพื้นที่ทำงาน (ด้วยความไม่เต็มใจ) ครั้งนั้นรัฐนาวาสตรีเหล็กถูกพายุถล่มติดกันหนัก ๆ หลายลูก ประกอบกับมีการระบายน้ำในเขื่อนกันเต็มที่ เรียกว่าสารพัดปัจจัยรุมถล่ม แต่แก้ไขปัญหาได้เท่านั้นทั้งที่เพิ่งเข้ารับตำแหน่งยังไม่ทันได้เตรียมการอะไร แต่สำหรับรัฐบาลสืบทอดอำนาจประกาศด้วยความภาคภูมิใจมีแผนยุทธศาสตร์ชาติว่าด้วยการบริหารจัดการน้ำแล้วเป็นไง
คุยโขมงโพนทะนาว่ารัฐบาลตัวเองทำแบบครบวงจรไม่เหมือนในอดีต ยุทธศาสตร์ที่วางไว้ป้องกันได้ทั้งน้ำท่วม น้ำแล้ง เรียกได้ว่าบริหารจัดการน้ำแบบครบวงจร แล้วเป็นไงเรื่องภัยธรรมชาติอย่าได้ไปป่าวประกาศเป็นความสำเร็จ ต้องรอดูปัญหาหน้างาน พอเผชิญกับวิกฤติแล้วดันทะลึ่งไปพูดเรื่องสวดมนต์ จะด้วยเจตนาใดก็ตาม มันไม่ใช่หนแรก จึงไม่แปลกที่จะถูกทัวร์ลง ถ้าเป็นผู้นำประเทศคิดได้เท่านี้ เอะอะอะไรก็สวดมนต์ขอให้ทุกอย่างผ่านพ้น นิมนต์พระสงฆ์หรือเชิญปุโรหิตมาบริหารประเทศจะดีกว่าไหม
ผลพวงจากการลงพื้นที่ตรวจน้ำท่วม ไม่ต้องอธิบายอะไรกันให้เมื่อยตุ้ม ภาษาดอกไม้ที่ส่งให้กันว่ารักปานจะกลืนไม่มีทางที่จะแตกแยกของพี่น้อง 3 ป.นั้น มันก็แค่การสร้างภาพเพื่อกลบกระแส เวลานี้ลองสแกนเข้าไปดูภายในพรรคสืบทอดอำนาจ ก๊กก๊วนต่าง ๆ ไม่เป็นอันทำงานต้องจับกลุ่มกันวิเคราะห์อ่านทิศทาง เตรียมเลือกข้างถือหางทางการเมืองให้ถูก ประเภทลูกรักทั้งหลายตัดสินใจเองไม่ได้ต้องเดินตามนายอยู่แล้ว แต่นักเลือกตั้งที่ต้องฟังเสียงประชาชนจำเป็นต้องประเมินทุกเม็ดเก็บทุกดอก
หากต้องการความใจถึงพึ่งได้ ฝากผีฝากไข้ใครเดือดร้อนก็ต้องยืนกระต่ายขาเดียวกับพี่ใหญ่และสมุนคู่ใจอย่าง ธรรมนัส พรหมเผ่า ถ้ามองการเมืองหลังเลือกตั้งหนใหม่บริบทจะเปลี่ยนไป ก็ต้องเทน้ำหนักหรือเลือกจิ้มมาทางฝั่งนี้ แต่หากยังเชื่อมั่นว่ากลไกและกระบวนการที่ขบวนการสืบทอดอำนาจวางเอาไว้ยังแข็งแกร่ง ล้มไม่ได้ ยังไงผู้นำประเทศต้องเป็นคนเดิม ก็ต้องไปวัดกันที่การทุ่มทุน ถ้าเหนียวกระสุนประเภทลงแรงไม่ลงทุนก็ต้องคิดกันหนักหลายตลบ
นักเลือกตั้งเมื่อลงสนามไม่ได้ใช้แรงใจ แรงเชียร์เป็นต้นทุน กระสุนดินดำต้องถึง น้ำเลี้ยงต้องดี ท่าทีของผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจที่เปลี่ยนไปก่อนวันลงมติซักฟอก ที่ยอมปล่อยของ และความพยายามเดินสายถี่ยิบในช่วงนี้ หากต้องการอยากอยู่ในอำนาจต่อไป ไม่ใช่แค่กลัวเสียเหลี่ยมเสียหน้า หรือรอเวลาเอาคืนพวกที่ทำตัวเป็นกบฏให้สาสม ก็ต้องซื้อใจด้วยพลังดูดมหาศาล ถามกันว่าในฐานะผู้นำการปฏิรูปจะยอมกลืนน้ำลายที่ว่าอย่าให้การเมืองกลับไปเป็นเหมือนเดิมอย่างนั้นหรือ
อย่าลืมเป็นอันขาดคนที่อยู่ในพื้นที่ย่อมรู้ดีถึงกระแสของประชาชนว่าเป็นอย่างไร พึงพอใจต่อผลงานของฝ่ายกุมอำนาจชนิดที่ว่าลงเลือกตั้งไม่ต้องทุ่มเทอะไร ยังไงคนก็เลือกแบบนั้นหรือไม่ ถามวันนี้คำตอบมีอยู่แล้ว ไม่ต้องไปมองถึงวันข้างหน้าว่าเผื่อสถานการณ์ทุกอย่างมันจะดีขึ้น ผู้นำเผด็จการสามารถพลิกฟื้นทำให้ประชาชนอยู่ดีกินดีได้ บอกคำเดียวว่าปาฏิหาริย์เท่านั้น อ่านกันไม่ยากดูบทสรุปจากที่ประชุมศบค.ชุดใหญ่เมื่อวานที่ผ่านมาได้
การประกาศยืดอายุการใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินออกไปอีก 2 เดือน ทั้งที่ก่อนหน้าพยายามโหมประโคมข่าวเรื่องร่างพ.ร.ก.แก้ไขพ.ร.บ.โรคติดต่อ 2558 และปล่อยข่าวกันว่าน่าจะสามารถทำมาใช้แทนกันได้ภายในต้นเดือนตุลาคมนี้ แต่ปรากฏว่าก็ไม่เป็นเช่นนั้น นั่นหมายความว่า สถานการณ์ทางการเมืองเรื่องเสถียรภาพของผู้นำเผด็จการสืบทอดอำนาจไม่น่าไว้วางใจ จำเป็นต้องคงกฎหมายพิเศษไว้เพื่อความอุ่นใจ ไม่ต้องซับซ้อนแค่ม็อบที่มีอยู่เวลานี้ก็แย่แล้ว
หากไม่มีพ.ร.ก.ฉุกเฉินถามว่าตำรวจจะใช้อะไรเป็นเครื่องมือในการปราบปราม เอาผิด นี่ขนาดมีกฎหมายแบบนี้ยังต้องกุมขมับกันทุกวัน ต้องเข้าใจกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ออกมาเคลื่อนไหวก้าวข้ามความกลัวต่าง ๆ ไปหมดแล้ว ขนาดแกนนำหลักทั้งหลายถูกจับกุมเข้าซังเตกันเป็นว่าเล่น แต่บรรดาแนวร่วมก็ยังคงเคลื่อนไหวกันต่อเนื่อง นั่นย่อมแสดงให้เห็นถึงความไม่พอใจต่อการคงอยู่ของผู้นำเผด็จการและคณะสืบทอดอำนาจ จึงออกมาเรียกร้องทายท้ากับอำนาจรัฐที่ใช้ทุกวิถีทางในการจัดการ
ขณะเดียวกัน รัฐบาลเรือเหล็กหลังจากเด็ดปีกสองรัฐมนตรีเด็กในคาถาพี่ใหญ่ไปแล้ว อย่างไรเสียก็ต้องมีการปรับครม.เกิดขึ้น แรงกระเพื่อมภายในพรรคสืบทอดอำนาจนั้นมีให้เห็นกันอยู่แล้วกลุ่มก๊วนต่าง ๆ ต้องแสดงความกระเหี้ยนกระหือรือที่อยากจะได้เก้าอี้เสนาบดีเป็นเรื่องปกติ แต่หนนี้จะเป็นบทพิสูจน์ความรักกันปานจะกลืนของพี่ใหญ่กับน้อง 2 ป. ถ้ายังมีความเกรงใจกันอยู่บ้างก็ต้องตามใจคนที่เป็นหัวหน้าพรรค หากหักกันขึ้นมาก็น่าจะเป็นสัญญาณที่บอกได้ว่าต้องเตรียมตัวเลือกตั้งกันได้แล้ว
ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีอีกจุดที่มีข่าวมาว่าพี่ใหญ่จะใช้ยั่วยวนกวนประสาทน้องรักก็คือการขอเขย่าเก้าอี้รัฐมนตรีกันล็อตใหญ่ สับเปลี่ยนตำแหน่งของกระทรวงเกรดเอที่เวลานี้กระจายไปอยู่ในมือของสองพรรคร่วมรัฐบาลสำคัญ ด้วยการขอมาเป็นโควตาให้พรรคสืบทอดอำนาจ หากรักกันจริงและไม่คิดที่จะแยกจากกันเดิน ต้องให้โอกาสคนของพรรคที่สนับสนุนตัวเองได้กุมบังเหียนกระทรวงใหญ่เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการเลือกตั้งที่จะมีขึ้น ถือเป็นเกมวัดความจริงใจกันก็ว่าได้