กองทุน-รายใหญ่ ขายทำกำไร
หุ้นกลุ่มไฟแนนซ์ที่ร่วงลงอย่างหนัก ทั้ง MTC SAWAD TIDLOR KTC XPG AEONTS และหุ้นตัวอื่น ๆน่าจะถูกขายออกมาจาก “กองทุน” และ “นักลงทุนรายใหญ่”
หุ้นกลุ่มไฟแนนซ์ที่ร่วงลงอย่างหนัก ทั้ง MTC SAWAD TIDLOR KTC XPG AEONTS และหุ้นตัวอื่น ๆ
น่าจะเป็นการถูกขายออกมาจากบรรดา “กองทุน” และ “นักลงทุนรายใหญ่”
เพราะแต่ละหุ้นที่ปรับลงมาอย่างหนัก
สะท้อนให้เห็นว่า กลุ่มนักลงทุนที่ขายออกมา มีต้นทุนต่อหุ้นตัวนั้น ๆ ค่อนข้างต่ำมาก ๆ
บวกกับมูลค่าการซื้อขายเป็นระดับพันล้านบาทต่อเนื่อง 3-4 วัน
มีแต่ “รายใหญ่” เท่านั้นที่สร้างปรากฏการณ์แบบนี้ได้
ถามว่าการขายของกลุ่มรายใหญ่ที่ว่านี้เกี่ยวกับ SCBX หรือเปล่า
คำตอบ อาจจะใช่ และอาจจะไม่ถึงกับเกี่ยวกับ SCBX โดยตรง
แม้จะมีมุมมองเชิงบวกอย่างมากจากนักวิเคราะห์ และนักลงทุนในตลาดหุ้นกับการเคลื่อนไหวของ SCB ที่ตั้ง SCBX จนเกิดเรื่องของ Disruption ต่อหุ้นอื่น ๆ
ทว่า ผลกระทบที่เกิดกับหุ้นอื่น ๆ ไม่น่าจะรุนแรง
ส่วนเหตุที่ราคาลงมาหนัก เข้าใจว่า รายใหญ่เหล่านี้ มองว่า เผื่อข้างหน้าจะมีการแข่งขันมากขึ้น
ประกอบกับการที่หุ้นตัวเองถืออยู่มีกำไรอยู่ค่อนข้างมากแล้ว
จังเป็นโอกาสที่จะ “ปรับพอร์ต” เพื่อลดความเสี่ยงไปก่อน
รวมถึงเป็นการ Take profit หรือ “ขายทำกำไร” ควบคู่ไปด้วย
หลังปรากฏการณ์ของ SCBX
และหุ้นไฟแนนซ์ ต่างถูกขายออกมาในช่วงหลัง SCB เปิดแถลงข่าว 1 วัน
นักวิเคราะห์ต่างแนะนำให้เลี่ยงการลงทุนกลุ่มไฟแนนซ์ไปก่อน เพื่อรอให้ฝุ่นจาง และมองไปข้างหน้า รอให้ภาพมีความชัดเจนขึ้นอีกนิด ก่อนจะตัดสินใจเข้าลงทุนได้
ผ่านมาถึงต้นสัปดาห์นี้
นักวิเคราะห์จากโบรกฯ ต่าง ๆ เริ่มมองเห็นอัพไซด์ของหุ้นไฟแนนซ์บางตัว
หรือราคาหุ้นที่ลงมามากเกินไป
จนมีการทำบทวิเคราะห์แบบรายตัวออกมา และแนะนำให้ “ทยอยซื้อ” ได้ หลังประเมินว่า แรงขายน่าจะเริ่มเบาบาง
และราคาหุ้นมีโอกาสเป็น Technical rebound หรือการปรับขึ้นทางเทคนิค
ส่วนกองทุนต่าง ๆ และรายใหญ่ที่ขายหุ้นออกมา
นักลงทุนกลุ่มนี้จะถือเงินสดกันไม่ค่อยนานนัก อย่างกองทุนก็มีเกณฑ์กำหนดอยู่ว่า จะถือเงินสดได้จำนวนเท่าไหร่ของสินทรัพย์ และการถือเงินสดไว้เฉย ๆ มันสร้างผลตอบแทนไม่ได้
ดังนั้น จึงต้องนำเงินไปลงทุนให้เร็วสุด
นั่นก็คือ การเปลี่ยนตัว (หุ้น) เล่น ที่พวกเขามองว่า น่าจะเริ่มฟื้นตัว ราคามีอัพไซด์
เช่น หุ้นกลุ่มเปิดเมือง หรือแม้กระทั่งการวกกลับเข้าลงทุนหุ้นในกลุ่มธนาคาร เช่น SCB และ KBANK รวมถึง BBL ด้วยเหตุผลว่า แบงก์ต่าง ๆ น่าจะทยอยปรับตัวเองเพื่อก้าวสู่การเป็น Financial Technology หรือ Fin Tech
จริง ๆ แล้ว ไม่ใช่เฉพาะหุ้นกลุ่มไฟแนนซ์เท่านั้น ที่ถูกเทขาย
หุ้นกลุ่มอื่น ๆ ที่ราคาขึ้นมาค่อนข้างมาก หรือแทบไม่เหลืออัพไซด์ ต่างถูกขายออกมาเช่นกัน
อย่างกลุ่มโรงพยาบาล BCH IMH LPH EKH BDMS ที่ราคาหุ้นค่อย ๆ ซึมลงต่อเนื่องในช่วง 3-4 วันที่ผ่านมา
น่าจะเป็นผลมาจากสถานการณ์ของโควิด-19 ที่ค่อย ๆ ดีขึ้น
กลุ่มเดินเรือ TTA PSL RCL นี่ก็ถูกขายทำกำไรเช่นกัน ราคาหุ้นปรับลงตลอด
กลุ่มแบงก์ที่ถูกเพิ่มน้ำหนักลงทุนมากขึ้น
นอกเหนือจากปัจจัยเรื่องการปรับตัวเองก้าวเข้าสู่ Fin Tech
ยังมาจากแนวโน้มการประชุมของ กนง.วันพุธนี้ น่าจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.50 บาท และสะท้อนว่า ดอกเบี้ยระดับนี้มีความเหมาะสม และจะเป็นจุดต่ำสุดแล้ว
เศรษฐกิจที่ค่อย ๆ ฟื้นตัว เป็นอีกปัจจัยหนุนการปล่อยสินเชื่อของกลุ่มแบงก์ขึ้นด้วย
ส่วนกลุ่มน้ำมัน พบว่า มีเงินเข้าลงทุนเพิ่มจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับสูงขึ้น
สรุปแล้ว แบงก์ กับน้ำมัน กลายเป็นหุ้นที่ถูกกลับมาน่าสนใจอีกครั้งจากกองทุน และอาจรวมถึงรายใหญ่ด้วย