ประเทศแบกรัฐ
ศบค.ผ่อนปรน 9 ธุรกิจ เปิดโรงหนัง ร้านนวด สปา ร้านสัก ทำเล็บ เล่นดนตรีในร้านอาหารได้ ขยายเวลาห้าง เปิดร้านสะดวกซื้อถึง 21.00 แต่ยังเคอร์ฟิว
ศบค.ผ่อนปรน 9 ธุรกิจ เปิดโรงหนัง ร้านนวด สปา ร้านสัก ทำเล็บ เล่นดนตรีในร้านอาหารได้ ขยายเวลาเปิดห้าง เปิดร้านสะดวกซื้อถึง 21.00 แต่ยังคงเคอร์ฟิว แค่ขยับเวลาเป็นสี่ทุ่ม พร้อมกับคง พรก.ฉุกเฉินถึงสิ้นเดือนพฤศจิกา
รู้ทั้งรู้ โควิดไม่ใช่แวมไพร์ ยังคงคำสั่งไร้สาระ เป็นอุปสรรคทำมาหากิน ทั้งคนทำงาน คนนั่งร้านอาหาร คนเดินทางท่องเที่ยว ต้องรีบกลับบ้าน สวนความต้องการของรัฐบาลเองที่อยากกระตุ้นให้คนใช้จ่าย
พรก.ฉุกเฉินก็เช่นกัน ไม่มีความจำเป็นอะไรแล้ว คำสั่งห้ามรวมตัวมีไว้จับม็อบ แต่ตลาดนัดคนเพียบ แม้ยังติดเชื้อวันละหมื่น คนไทยตระหนักแล้วว่าต้องใช้ชีวิตอยู่กับโควิด ฉีดวัคซีน ใส่หน้ากาก ล้างมือ ที่เหลือคือสวดมนต์
การคงเคอร์ฟิวและ พรก.ฉุกเฉิน เป็นแค่อวดศักดา ว่าสามารถออกคำสั่งเหลวไหลไร้สาระเป็น “กฎหมายศักดิ์สิทธิ์” แล้วประชาชนต้องเชื่อฟัง ต้องร้องขอความเมตตา แล้วผู้มีอำนาจจะผ่อนคลายให้เป็นขั้น ๆ ตามหลักจิตวิทยาโจรจับตัวประกัน
ฐนิวรรณ กุลมงคล นายกสมาคมภัตตาคารไทย อยากให้เปิดร้านถึงสี่ทุ่ม เลื่อนเคอร์ฟิวไปห้าทุ่ม อยากให้นั่งดื่มแอลกอฮอล์ได้ ฯลฯ ก็ต้องผิดหวัง ทั้งที่ตอนอภิปรายไม่ไว้วางใจ อุตส่าห์ไปชูป้ายขอบคุณ ตู่-ป้อม-เฮ้ง
ปฏิบัติการจิตวิทยา “โจรจับตัวประกัน” เกิดขึ้นในสภาพที่ประชาชนแทบไม่หวังพึ่งรัฐแล้ว พึ่งตัวเอง ช่วยเหลือกันเอง ไม่ว่าน้ำท่วม โควิด หรือเศรษฐกิจ
อำนาจรัฐต่างหากเป็นอุปสรรคกดทับอยู่ด้านบน ด้วยกฎเกณฑ์คำสั่ง ด้วยความล่าช้า ไร้ประสิทธิภาพ ต้องให้ร้องขอหรือต้องด่า จึงแก้ปัญหาให้ทีละเปลาะ แต่อ้างเป็นบุญคุณช่วยสงเคราะห์
เช่น จัดหาวัคซีนล่าช้าแทงม้าตัวเดียว ติดเชื้อล้านห้ากว่าจะซื้อได้ ขอบริจาคได้ ยังลอยหน้าลอยตาอ้างผลงาน อ้างบุญคุณ น้ำท่วมแทบทุกปี ไม่เคยแก้ปัญหายั่งยืน กลายเป็นเทศกาลเดินสายแจกถุงยังชีพ แถม Propaganda “ทหารมีไว้ทำไม”
ซ้ำร้ายยังมีไว้พูดอะไรโง่ ๆ เช่นแนะนำให้สวดมนต์ หรือเปลี่ยนอาชีพไปเลี้ยงปลา
เศรษฐกิจไทยก็ขับเคลื่อนด้วยภาคเอกชนเอาตัวรอดกันเอง ปรับตัวกันเอง เช่นการปรับตัวสู่ธุรกิจดิจิทัลท่ามกลางวิกฤตโควิด ดร.สันติธาร เสถียรไทย ยกผลสำรวจของ Sea Insights และ World Economic Forum ชี้ว่า กลุ่มเปราะบาง ผู้หญิง แม่บ้าน และธุรกิจขนาดเล็ก MSME ได้รับผลกระทบมากที่สุด แต่ก็ปรับตัวได้ดีที่สุด MSME กว่า 50% เริ่มต้นธุรกิจใหม่ในช่วงโควิด
แต่อุปสรรคคือ เครื่องมือคุณภาพต่ำ สัญญาณไม่ดีพอ และปัญหาความปลอดภัยในโลกออนไลน์
ซึ่ง DES และตำรวจไซเบอร์มัวแต่ไล่จับคนเห็นต่างทางการเมือง และความผิดทางศีลธรรม การสรรหา กสทช. ก็โดน สนช. ส.ว.คว่ำมา 3 ครั้ง ปล่อยให้ชุดเดิมรักษาการ 6 ปี
รัฐล้าหลังเครือข่ายอำนาจอนุรักษ์นิยมเป็นตัวบดบังศักยภาพประเทศ ทั้งเพิ่มอำนาจรัฐราชการสร้างกฎระเบียบอุปสรรค ทั้งถดถอยจากประเทศที่มีเสรีภาพมากที่สุดในภูมิภาคนี้ ที่คนจากโลกตะวันตกเคยรู้สึกว่าอยู่ได้สบายใจ ความเอาแน่เอานอนไม่ได้ของอำนาจ ก็ทำให้ต่างชาติไม่อยากลงทุน
เอาง่าย ๆ ที่รัฐบาลอยากดึงดูด “ล้านมั่งคั่ง” มาซื้อบ้าน คอนโด ถ้าคอนโดสร้างเสร็จแล้ว จู่ ๆ ศาลสั่งทุบจะทำไง ซื้อบ้านริมทะเล หรือซื้อหุ้นรีสอร์ท จู่ ๆ บอกรุกป่าตั้งแต่ 40 ปีก่อน โดนเพิกถอนโฉนด
อยู่เมืองไทยวิจารณ์อำนาจไม่ได้นะ ด่ารัฐบาลตัวเองก็อาจถูกส่งกลับ ทำผิดกฎหมายมาเลเซีย “แต่งหญิง” ก็จะส่งกลับ ต้องพับเพียบเรียบร้อยทางศีลธรรม ห้ามดู Pornhub OnlyFans ห้ามยุ่งเกี่ยวกับ Sex Creators, Sex Workers ถ้ากลายเป็นเหยื่อข่มขืนฆ่า ก็โทษว่าเพราะแต่งตัวโป๊
รัฐไทยคือตัวขัดขวางความเจริญของประเทศทุกด้าน การเพิ่มเพดานหนี้สาธารณะ ทุกประเทศต้องทำ แต่ไม่ใช่กู้ซื้ออาวุธ สิ้นเปลืองกับงบประจำ สร้างอาคาร ทำป้าย ขยายตำแหน่ง ฯลฯ เป็นรัฐปรสิตเกาะหลังประชาชน
เฉือนรัฐราชการทิ้งครึ่งหนึ่ง โละอำนาจส่วนเกินทิ้ง ประเทศนี้จะไปโลด