ความยุติธรรมที่มาช้าแฉทุกวัน ทันเกมหุ้น

ราชศักดิ์ สุเสวี เคยได้ชื่อว่าเป็นผู้บริหารบริษัทมหาชนจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯช่วงเวลาหนึ่ง ช่วงที่คนชื่อ สุริยา ลาภวิสุทธิสิน เจ้าของฉายา “เสี่ยปิคนิค” ยังมีบทบาทโลดแล่นในวงการเมืองในฐานะรมช.พาณิชย์ เคียงข้าง นักการเมืองมือเก๋า สมศักดิ์ เทพสุทิน


ราชศักดิ์ สุเสวี  เคยได้ชื่อว่าเป็นผู้บริหารบริษัทมหาชนจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯช่วงเวลาหนึ่ง ช่วงที่คนชื่อ สุริยา ลาภวิสุทธิสิน เจ้าของฉายา “เสี่ยปิคนิค” ยังมีบทบาทโลดแล่นในวงการเมืองในฐานะรมช.พาณิชย์ เคียงข้าง นักการเมืองมือเก๋า สมศักดิ์ เทพสุทิน

ผลงานในการสร้างกิจการบริษัทเพาเวอร์-พี จำกัด (มหาชน) หรือ POWER-P โดยมีรหัสซื้อขายที่นักลงทุนคุ้นเคยกันดีคือ POWER  ให้รุ่งเรือง ไม่ค่อยมีคนรับรู้  รู้แต่ว่าผู้บริหารคนนี้ อยู่ก๊วนเดียวกับ “เสี่ยปิคนิค” ชนิดไปไหนไปกันช่วงระหว่างปี พ.ศ. 2547-2549

ก่อนที่จะใช้รหัส POWER  บริษัทก่อสร้างดังกล่าวชื่อ PP มาก่อน โดยเข้าจดทะเบียนในตลาดฯในปี 2535 โดยทำธุรกิจผลิตเสาเข็มก่อสร้าง  แล้วมีถูกพิษวิกฤตต้มยำกุ้ง จนต้องเข้าสู่การฟื้นฟูกิจการ ก่อนที่ เสี่ยปิคนิค จะทุ่มเงินเข้าไปซื้อกิจการจากเจ้าของเดิมเพื่อแต่งตัวกลับเข้ามาเทรดในตลาดฯ ในปี 2547

ก่อนหน้านั้น เสี่ยปิคนิค เคยประสบความสำเร็จจากการเข้าซื้อกิจการบริษัทที่เข้าแผนฟื้นฟู แล้วนำมาเทรดใหม่ ตามสูตรเข้าประตูหลังในนามปิคนิคแก๊ส หรือ  PICNI  ที่ขยายตัวก้าวกระโดดพร้อมกับราคาหุ้นหวือหวามาแล้ว กรณีของPOWER ก็ไม่ต่างกัน เพียงแต่หวือหวากว่าหลายเท่า

ก่อนหุ้น POWER จะกลับเข้ามาเทรดในรหัสใหม่ ข่าวลือกระฉ่อนไปทั่วสนามกอล์ฟ และวงการไฮโซว่า มีการเร่ขายหุ้นนี้ ในลักษณะ  OTC ดันราคาพุ่งไปถึง 50-70 บาท บอกว่าอนาคตสดใสอย่างมาก เพราะมีแบ็กอัพและเส้นสายรับงานก่อสร้างใหญ่กว่าเส้นก๋วยจั๊บ ในยุครัฐบาลทักษิณ 2 ที่เสี่ยปิคนิคเป็นผู้สนับสนุนทางการเงินใหญ่ของพรรคไทยรักไทย

ราชศักดิ์ สุเสวี ได้รับแต่งตั้งให้เป็นกรรมการผู้จัดการ POWER เต็มที่ ออกหน้าแทนเสี่ยปิคนิคมาโดยตลอด

เมื่อกลับเข้ามาเทรดจริง ราคาหุ้นPOWER ไม่เพียงแต่จะไม่วิ่งแรงตามที่ร่ำลือ หากยังมีดีลหวือหวาประหลาดให้อื้อฉาวตลอดเวลาระยะหนึ่งให้ราคาวิ่งขึ้นลงน่าใจหาย  โดยที่ไม่มีผลประกอบการรองรับ ก่อนที่จะมีตัวเลขขาดทุนป่นปี้ปรากฏให้เกิด “วงแตก” ไปทั่ว พร้อมกับการหายหน้าจากไปจากประเทศไทยของเสี่ยปิคนิค ด้วยคดีติดตัวสารพัด จนถึงปัจจุบัน

หุ้น POWER กลับไปสู่ชะตากรรมเดิม เข้าสู่การฟื้นฟูกิจการรอบ 2 และในปี 2555 ก็มีการเปลี่ยนชื่อใหม่อีกครั้งเป็น วีจีเอ็ม คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ VGM  ในขณะที่ราชศักดิ์ ถูก ก.ล.ต.กล่าวโทษต่อกรมสืบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ ในคดีอาญาในปี 2553

ข้อกล่าวหาระบุว่า ในปี 2549 ราชศักดิ์และพวก ตกแต่งรายได้จำนวน 10.5 ล้านบาท ในงบการเงินประจำปี 2547 ที่ใช้แสดงในการขอย้ายหลักทรัพย์ออกจากหมวดบริษัทจดทะเบียนที่อยู่ระหว่าง ฟื้นฟูการดำเนินงานให้กลับเข้าไปซื้อขายในหมวดอุตสาหกรรมปกติในปี 2548  และ กรมสืบสวนคดีพิเศษ เพิ่มเติมข้อหาอีกรวม 3 ข้อหา ประกอบด้วย

-ตกแต่งรายได้ในงบการเงินประจำปี 2547 รวม 34 ล้านบาท โดยบันทึกรายการที่ไม่ได้เป็นรายได้จากการประกอบธุรกิจที่เกิดขึ้นจริง ซึ่งเมื่อรวมรายการจะทำให้กำไรสุทธิที่แสดงไว้เดิม 25 ล้านบาท เปลี่ยนเป็นขาดทุนประมาณ 19 ล้านบาท โดยธุรกรรมล้วนเชื่อมโยงกับเกี่ยวข้องกับเสี่ยปิคนิคทั้งสิ้น

-ทุจริตยักยอกเงินออกจาก POWER โดยอำพรางผ่านการจ่ายเงินทดรองจ่ายให้แก่บริษัทคู่ค้า จำนวน 4 รายการ รวม 265 ล้านบาท โดยผู้ที่ได้ประโยชน์จากรายการดังกล่าวคือ ผู้ที่เกี่ยวข้องของเสี่ยปิคนิค

-ทุจริตยักยอกเงินออกจาก POWER โดยจัดทำเอกสารเท็จ และให้ POWER  จ่ายเงินมัดจำค่าซื้อหุ้นบริษัท แอล.วี.ซี.ดีเวลล็อปเม้นท์ จำกัด สูงกว่าความเป็นจริง 45 ล้านบาท ซึ่งผู้ที่ได้ประโยชน์จากรายการนี้คือราชศักดิ์เอง

หลังจากเวลาผ่านไป 5 ปี ล่าสุด ศาลอาญาจึงวินิจฉัยว่าราชศักดิ์มีความผิดจริง จึงสั่งลงโทษ แต่เนื่องจาก ราชศักดิ์ ให้การเป็นประโยชน์  มีเหตุบรรเทาโทษ จึงลดโทษจำคุกเหลือกรณีละ 5 ปี 4 เดือน รวมลงโทษจำคุก 10 ปี 8 เดือน โดยไม่รอลงอาญา 

คดียังไม่จบ ต้องรออีก 2 ศาล ซึ่งไม่รู้ว่าจะนานอีกแค่ไหน

หลายคนบอกว่า ความยุติธรรมที่มาช้าเช่นนี้  นักลงทุนที่ถือหุ้น POWER ที่ปัจจุบันถูกเพิกถอนจากตลาดหลักทรัพย์ฯไปแล้วเมื่อปี 2557 จะทวงคืนจากใคร

บอกได้แค่ว่า….ทุกการลงทุนมีความเสี่ยง

 

Back to top button