6 หุ้นเกาะกระแสกระท่อม
สืบเนื่องจากการปลดล็อกพืชกระท่อมออกจากบัญชียาเสพติดในระยะแรก ทางศูนย์วิจัยกสิกรไทย นับว่าความสำเร็จของภาพรวมธุรกิจกระท่อมคงไม่ใช่เรื่องง่ายนัก
เส้นทางนักลงทุน
สืบเนื่องจากการปลดล็อกพืชกระท่อมออกจากบัญชียาเสพติดในระยะแรก ทางศูนย์วิจัยกสิกรไทย นับว่าความสำเร็จของภาพรวมธุรกิจกระท่อมคงไม่ใช่เรื่องง่ายนัก และคงต้องขึ้นอยู่กับอุปสงค์เป็นสำคัญ ภายใต้อุปทานที่มีจำกัด จึงถือว่าเป็นช่วงทดสอบตลาดผู้บริโภคว่าจะให้การตอบรับกับสินค้ากระท่อมได้ในระดับใด ซึ่งคงต้องรอดูผลตอบรับไปอีกสักระยะหนึ่ง
โดยผู้มีผลผลิตกระท่อมในมือจะได้รับประโยชน์ผ่านการขายใบกระท่อมสดที่มีราคาค่อนข้างสูงราว 250-350 บาทต่อกิโลกรัม ทำให้คาดว่าในช่วงที่เหลือของปี 2564 (ก.ย.-ธ.ค.) รายได้เกษตรกรอาจอยู่ที่ราว 9,000-12,000 บาทต่อไร่ต่อเดือน ซึ่งเป็นเพียงการประเมินตัวเลขปัจจุบันในเบื้องต้นเท่านั้น แต่ในระยะข้างหน้าจะไม่สามารถใช้ตัวเลขดังกล่าวเป็นเครื่องชี้วัดอ้างอิงได้ เนื่องจากรายได้เกษตรกรจะขึ้นอยู่กับการตอบรับของอุตสาหกรรมกลางน้ำและปลายน้ำที่ใช้กระท่อมเป็นวัตถุดิบเป็นสำคัญ
ทั้งนี้ หลังจากที่ไทยได้มีการปลดล็อกพืชกระท่อมออกจากบัญชียาเสพติดประเภทที่ 5 เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2564 ที่ผ่านมา ได้สร้างกระแสความสนใจให้เกิดขึ้นเป็นวงกว้างทั้งในฝั่งของผู้ผลิตและผู้บริโภค นับเป็นก้าวสำคัญในการสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ได้จากพืชกระท่อมนี้จากการให้ประชาชนสามารถปลูก ซื้อ ขาย ได้อย่างเสรี โดยไม่ผิดกฎหมาย จึงทำให้เริ่มเห็นสีสันการขายกระท่อมในผู้ขายรายย่อย ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ ตลาดนัด และเปิดท้ายขายกันอย่างคึกคัก โดยเฉพาะในรูปแบบของใบสด
อย่างไรก็ตาม ที่สำคัญหากจะมองไปถึงโอกาสทางธุรกิจของผลิตภัณฑ์พืชกระท่อมในเชิงพาณิชย์ที่น่าจะสร้างเม็ดเงินได้ จะเห็นว่าภาคอุตสาหกรรมปลายน้ำต่างก็ออกมาขานรับกระแสพืชกระท่อมนี้ได้อย่างคึกคักไม่แพ้กันกับต้นน้ำ โดยเฉพาะผู้เล่นรายใหญ่ในอุตสาหกรรมปลายน้ำอย่างอาหาร เครื่องดื่ม และยา ซึ่งหากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) อนุญาตให้ยื่นใบอนุญาตในการผลิตผลิตภัณฑ์จากพืชกระท่อมได้ ที่คาดว่าจะอนุญาตได้ภายในปีนี้ ก็น่าจะได้เริ่มเห็นผลิตภัณฑ์กระท่อมทยอยจำหน่ายออกสู่ตลาดในปี 2565
ดังนั้น เมื่อมีการปลดล็อกพืชกระท่อมออกจากบัญชียาเสพติดประเภทที่ 5 ผู้เล่นรายใหญ่ในอุตสาหกรรมปลายน้ำอย่างบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ก็เล็งเห็นความสำคัญของกระท่อมที่เป็นสมุนไพรมาสกัดมาเป็นส่วนผสมในอาหาร เครื่องดื่ม และยาสมุนไพร เป็นต้นเช่นกัน
สำหรับบริษัทที่มีแผนเข้ามาเกี่ยวข้องกับพืชกระท่อม ได้แก่ KWM, IP, DOD, ICHI, RBF และ CBG เป็นต้น
บริษัท เค. ดับบลิว. เม็ททัล เวิร์ค จำกัด (มหาชน) หรือ KWM เนื่องจากบริษัทมีความพร้อมในการนำ “พืชกระท่อม” มาสกัดสารสำคัญ เพื่อมาผลิตเป็นผลิตภัณฑ์เวชภัณฑ์ ยา อาหาร และเครื่องดื่ม เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยบริษัทคาดว่าผลิตภัณฑ์ที่สกัดจากพืชกระท่อมจะมีความชัดเจนภายในปี 2565
อีกทั้ง มองว่าการปลดล็อกพืชกระท่อมยังเป็นการต่อยอดเพื่อให้พืชกระท่อมเป็นพืชเศรษฐกิจที่จะเป็นอุตสาหกรรมใหญ่ เพราะสามารถนำพืชกระท่อมมาสกัดสารสำคัญ เพื่อใช้สำหรับกลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม และพืชกระท่อมเป็นพืชที่เพาะปลูกได้ดีในพื้นที่ประเทศไทย ซึ่งทำให้ได้เปรียบในด้านแหล่งผลิตวัตถุดิบ
บริษัท อินเตอร์ ฟาร์มา จำกัด (มหาชน) หรือ IP แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่า เมื่อวันที่ 19 พ.ค. 2564 บริษัทได้มีการลงนามความร่วมมือทางวิชาการกับมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (ม.อ.) เพื่อพัฒนาต่อยอดงานวิจัยและพัฒนาที่เกี่ยวกับกระท่อม และสารสกัดจากกระท่อม สู่การผลิตที่ได้มาตรฐานและนำไปใช้ประโยชน์เพื่อการเป็นอาหารเสริมโภชนบำบัด ยา และผลิตภัณฑ์สุขภาพต่าง ๆ
บริษัท ดีโอดี ไบโอเทค จำกัด (มหาชน) หรือ DOD โดยอยู่ระหว่างการศึกษาและวิจัยพืชกระท่อม ร่วมกับมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศไทย 2 แห่ง เพื่อร่วมกันพัฒนาผลิตภัณฑ์สำหรับผลิตและจำหน่ายผ่านช่องทางต่าง ๆ เนื่องจากเล็งเห็นถึงประโยชน์ของพืชกระท่อม ซึ่งเป็นสมุนไพรที่มีการนำมาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ มีสรรพคุณทางยาที่มีสารสำคัญ เรียกว่า ไมทราไจนีน (Mitragynine) ซึ่งเป็นสารในกลุ่มอัลคาลอยด์ ที่ออกฤทธิ์ต่อระบบประสาทส่วนกลาง ทำให้เชื่อว่าสามารถลดอาการปวด กดความรู้สึกเมื่อยล้าขณะทำงาน ช่วยให้เกิดความกระปรี้กระเปร่า
โดยจากปัจจัยบวกดังกล่าว ทำให้สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้กำหนดให้สามารถนำพืชกระท่อมมาทำเป็นผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป อาทิ ยา อาหาร ผลิตภัณฑ์สมุนไพรได้ ดังนั้นหากทางอย.ไฟเขียวให้ยื่นขอใบอนุญาตในการผลิตผลิตภัณฑ์จากพืชกระท่อม ทาง DOD ก็พร้อมที่จะดำเนินการผลิตผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปออกมาจำหน่ายในช่วงต้นปี 2565 ได้ทันที
บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ICHI โดยบริษัทกำลังศึกษาความเป็นไปได้และความพร้อมเปิดรับในการออกเครื่องดื่มที่เกี่ยวข้องกับพืชกระท่อม หลังจากถูกปลดล็อกออกจากบัญชียาเสพติด แต่ต้องติดตามด้านกฎหมาย ข้อบังคับต่าง ๆ อีกพอสมควร รวมถึงวัตถุดิบต่าง ๆ ที่จะมีเพียงพอ
ขณะที่ ประเมินว่าพืชกระท่อมมีลักษณะที่เหมาะกับธุรกิจเครื่องดื่ม เนื่องจากเมื่อพูดถึงใบกระท่อมก็มักจะนึกถึงน้ำกระท่อมที่จะให้พลังงานชูกำลังและใช้ง่าย ดังนั้นมองเป็นประโยชน์กับบริษัท ซึ่งมีเครื่องจักรในการผลิตเครื่องดื่ม พร้อมมีโอกาสที่จะรับจ้างผลิตให้กับแบรนด์สินค้าต่าง ๆ ได้ด้วย
บริษัท อาร์ แอนด์ บี ฟู้ด ซัพพลาย จำกัด (มหาชน) หรือ RBF โดยบริษัทมีความสนใจและอยู่ระหว่างการศึกษา แต่อาจรอดูความชัดเจนหลาย ๆ ด้าน ทั้งในเรื่องของสารสกัดจากกระท่อม การรับรองของอย. รวมถึงดูตลาดด้วยว่ามีความต้องการไปในทิศทางใด เพราะบริษัทเป็นผู้ประกอบการพัฒนาและผลิตตาม Market Trend
บริษัท คาราบาวกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CBG โดยบริษัทมีแนวคิดจะผสมกระท่อมในเครื่องดื่มชูกำลัง ซึ่งจะช่วยเพิ่มคุณสมบัติของเครื่องดื่มชูกำลังให้มีพลังงานเพิ่มขึ้นไปอีก อย่างไรก็ดีในส่วนของการดำเนินงานนั้นยังคงติดตามปัญหาในด้านของอย.ที่เป็นผู้ควบคุมการออกผลิตภัณฑ์อาหารและยา ที่ยังไม่มีการพิจารณาใด ๆ
สำหรับข้อมูลข้างต้นหากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) อนุญาตให้ยื่นขอใบอนุญาตในการผลิตผลิตภัณฑ์จากพืชกระท่อมได้ เชื่อว่าบริษัทดังกล่าวที่มีอุตสาหกรรมปลายน้ำ ต่างก็ออกมาขานรับกระแสพืชกระท่อมนี้ได้อย่างคึกคักไม่แพ้กันกับต้นน้ำ