‘หุ้นน้ำ’ กลายเป็น ‘เผือกร้อน’
ตลอดสองสัปดาห์ต้องรับสายเพื่อเม้าท์แตกเรื่องหุ้นที่ทำธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับน้ำเยอะเหลือเกิน พร้อมกับมีเรื่องลับ ๆ ล่อ ๆ ให้พูดถึงไม่ว่างเว้น
*ตลอดระยะเวลาสองสัปดาห์ “โมนิก้า” ต้องรับสายเพื่อเม้าท์แตกเรื่องหุ้นที่ทำธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับน้ำเยอะเหลือเกิน พร้อมกับมีเรื่องลับ ๆ ล่อ ๆ ให้พูดถึงไม่ว่างเว้น จึงเป็นโอกาสดีที่จะใช้พื้นที่ตรงนี้เม้าท์ถึงหุ้นน้ำ (ตัวจี๊ด) แบบจุใจ ขณะเดียวกันก็เป็นการแลกเปลี่ยนมุมมองนักเล่นสายฮาร์ดคอร์ไปในตัวอีกด้วย จึงขอโฟกัสประเด็นนี้กันยาว ๆ เพื่อจะได้เห็นเกมหุ้นเที่ยวนี้โหดถึงขั้นต้องร้องขอชีวิตจริงอ๊ะป่าว?
*ยิ่งโมเมนตัมของตลาดหุ้นไทยวิ่งกลับไปหาหุ้นบลูชิพเป็นหลัก ยิ่งกดดันการเล่นหุ้นร้อนเพิ่มเป็นทีวีคูณ ผนวกกับช่วงนี้เป็นจังหวะของการเก็งงบแบงก์พอดี บรรยากาศการลงทุนเลยสดใสซาบซ่าอย่างผิดหูผิดตา ดัชนีจึงขึ้นมายืนปิดที่ระดับ1,633.72 จุด บวกไป 14.24 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.01 แสนล้านบาทแบบชิล ๆ จนคาดหวังกันว่า ดัชนีจะวิ่งขึ้นไปทดสอบยอดเดิมบริเวณ 1,660 จุดได้เป็นครั้งที่ 2 ไงล่ะคะ
*ประเด็นที่น่าสนใจคือ การทดสอบดังกล่าวจะ “สำเร็จ” หรือ “ไม่สำเร็จ” ก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญอีกต่อไป เพราะทุกคนได้เห็นไทม์ไลน์การเคลื่อนตัวของดัชนีแบบทะลุปรุโปร่งกันไปแล้ว จึงเชื่อได้อย่างสนิทใจว่า แฟนคลับน่าจะเอาตัวรอดจากสถานการณ์ต่าง ๆ ได้อย่างแน่นอน “โมนิก้า” เลยไม่มีความจำเป็นต้องลงรายละเอียดในส่วนนี้มากนัก เพราะต้องการเอาเวลาไปเม้าท์เรื่องที่แมงลือให้ความสนใจเป็นพิเศษเจ้าค่ะ
*โดยเฉพาะหุ้นน้ำดาวเด่นดวงใหม่ของตลาดหุ้นไทยอย่าง T ถือเป็นสตอรี่ที่นักเล่นต้องศึกษาแบบใจเย็น ๆ เพราะการส่งสัญญาณเตือนของ ตลท. เที่ยวล่าสุดทำให้รู้ว่า หุ้นร้อนแรงเกินไปจริง ๆ ขนาดโดนจับติดแคชฯ ระดับ 3 (ต้องซื้อเงินสด ห้ามคำนวณวงเงินซื้อขาย และห้ามซื้อขายหักลบกลบหนี้) หุ้นยังมาได้ไกลขนาดนี้ จึงไม่อยากให้นักเล่นหลงระเริงกับแสงสีเขียว ๆ มากเกินไปก็เท่านั้นเองจ้า!
*ถามว่า การออกโรงปรามดังกล่าวดีไหม? “โมนิก้า” ตอบได้ทันทีว่า ดีมาก! เพราะทำให้ทุกคนได้หยุดคิด..ก่อนจะซัดขวาเต็มข้อ ขณะเดียวกันยังเป็นการกรองคนเล่นไปในตัวแบบนี้ เดี๊ยนย่อมมองเป็นเรื่องที่ทุกคน วิน-วิน เพราะอย่างน้อยก็ทำให้ทุกคนได้เห็นว่า 3-6 เดือนข้างหน้า หุ้นรับเหมารายนี้จะเข้าไปเกี่ยวข้องกับธุรกิจน้ำจริงไหม? และมีเวลาประเมินการยืนปิดที่ 0.56 บาท ลบไป 0.02 บาท หรือลงไป 3.45% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 361 ล้านบาทน่าซื้อลงทุนไหมเอ่ย?
*ประเด็นข้างต้นทำให้ “โมนิก้า” ต้องหันมามองจอมเบี้ยวอย่างหุ้น 7UP อย่างรวดเร็ว เพราะสตอรี่ที่เคยคาดหวังจะเกิดขึ้นเป็นรูปธรรม เอาเข้าจริงกลายเป็นว่า ชอบผลัดวันประกันพรุ่งเป็นประจำ! แถมกำไรก็ไม่มาตามนัดเสียด้วย จึงกลายเป็นสถานการณ์ที่ไม่ค่อยจะสู้ดีสักเท่าไหร่? และที่ตลกร้ายไปกว่าคือ เริ่มมีเสียงแว่วจากกลุ่มก๊วนผู้ถือหุ้นใหญ่เตรียมจะถอนสมอดังระงมไปทั่วนะจะบอกให้
*ว่ากันว่า สาเหตุที่ทำให้ทุกอย่างใกล้เดินมาถึงทางตันก็คือ เสี่ย.ก ดันไปบิดคำพูดกับผู้ใหญ่หลายคน และพยายามให้แต่ละคนใส่เงินเพิ่มเข้ามาอีก จนนำไปสู่คำพูดสะเทือนดวงดาวที่ว่า พี่พร้อมถอย! เพราะพี่ไม่มีอะไรจะต้องเสียอีกแล้ว ส่งผลให้สถานการณ์ของหุ้นตัวนี้ดูไม่ดีสักเท่าไหร่? เดี๊ยนถึงอยากให้แฟนคลับลองพิจารณาดูว่า การยืนปิดที่ระดับ 1.57 บาท บวกไป 0.05 บาท หรือขึ้นไป 3.30% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 220 ล้านบาท ยังน่าเล่นไหมจ๊ะ
*เช่นเดียวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับหุ้น MORE ภายใต้การบริหารจัดการของ “เฮียม้อ” ก็มีเรื่องให้ขาเผือกทำตัวสอดรู้สอดเห็นกันเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะการลุยธุรกิจน้ำบนเกาะเสม็ด และน้ำอุตสาหกรรม รวมถึงน้ำบ่อกุ้ง ก็เป็นเรื่องที่ท้าทายมากพอสมควร ซึ่งเป็นธุรกิจที่คล้ายกับรายข้างต้น “โมนิก้า” เลยได้ยินเสียงซุบซิบเกี่ยวกับรายได้ และกำไรจะมาตามนัดไหม? เพราะรายข้างต้นก็ใช้วิธีขายโรงไฟฟ้าเพื่อมาโปะธุรกิจน้ำ แต่วันนี้ก็ยังไม่ปังเหมือนอย่างที่คิดน่ะซี
*ส่วนรายนี้ใช้วิธีขายอสังหาฯ เพื่อลุยธุรกิจน้ำเต็มตัว และมีการเม้าท์มอยด์ไปถึงสินแร่ที่ในการกรองน้ำบางจะทำเงินแบบนี้ “โมนิก้า” คงพูดได้แค่ว่า อย่าพลาด! เดี๋ยวจะเจอยำใหญ่ใส่สารพัดอย่าง ผนวกกับพวกแมงลือเม้าท์กันให้แซ่ดว่า เมื่อก่อนก็ประกาศแผนธุรกิจสวยหรู แต่สุดท้ายก็ไปไม่ถึงฝั่งฝันสักที ทำให้หลายคนเกิดความกังวลเมื่อเห็นราคาหุ้นขึ้นมายืนปิดที่ 1.63 บาท บวกไป 0.05 บาท หรือขึ้นไป 3.15% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 204 ล้านบาทเป็นราคาที่สูงเกินไปหรือเปล่า? เพราะหุ้นตัวนี้มี BV แค่ระดับ 0.05 บาทไงล่ะคะ