เตรียมตัวเปิดประเทศ 15 ต.ค.นี้

ใกล้ถึงวันสำคัญที่รอคอย...คำมั่นสัญญา “120 วันเปิดประเทศ” อันวาจาก่อนพูดนั้น “เราเป็นนาย” แต่หลังพูดแล้ว “คำพูดเป็นนายเรา”


ใกล้ถึงวันสำคัญที่รอคอย…คำมั่นสัญญา “120 วันเปิดประเทศ” อันวาจาก่อนพูดนั้น “เราเป็นนาย” แต่หลังพูดแล้ว “คำพูดเป็นนายเรา”

พล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา มาเปลี่ยนคำพูดเอาในวันที่ 16 มิ.ย. จากคำมั่นสัญญาเดิม จะเปิดประเทศภายในสิ้นปี 2564 มาเป็น 120 วันหลังประกาศ

พร้อมกับเงื่อนไขคงเดิม คือฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชนจำนวน 100 ล้านโดส ครอบคลุมประชากรร้อยละ 70 หรือ 50 ล้านคน

120 วัน ควรจะเริ่มต้นนับแต่วันไหน?

แม้นายกฯ ไม่ได้ระบุชัดถึงวันเริ่มต้น แต่ถ้อยแถลงที่ลิงโลดมั่นใจในวันประกาศที่ 16 มิ.ย.ก็น่าจะยึดถือเอาวันรุ่งขึ้น คือ 17 มิ.ย.เป็นวันเริ่มต้นนับ 1

วันครบกำหนด 120 วัน จึงควรจะเป็น 14 ต.ค.หรืออีกไม่กี่วันข้างหน้านี้ ก็จะได้กลับมาใช้ชีวิตปกติกันได้แล้ว

ส่วนเงื่อนไขการฉีดวัคซีนให้ครอบคลุมประชากรร้อยละ 70 หรือ 50 ล้านคนนั้น อันที่จริงก็ไม่ต้องถึง 50 ล้านคนหรอก เพราะตามสถิติทางการ จำนวนประชากรไทย ณ สิ้นธ.ค. 63 คือ 66,186,727คนเท่านั้น ไม่ใช่ 70 ล้านคนดังที่ชอบพูดกัน

ร้อยละ 70 ของประชากร ก็เพียง 46,330,708 เท่านั้น ไม่ต้องถึง 50 ล้านคนหรอก แค่นี้! ก็ดีใจจะแย่แล้ว

เกณฑ์นับประชากรรับวัคซีน 46.33 ล้านคน ก็ต้องนับที่จำนวนการฉีดวัคซีนสะสมเข็มที่ 2 เท่านั้น จะนับรวมเฉพาะเข็มที่ 1 ซึ่งมียอดสูง ก็ไม่ได้ เพราะระบบการฉีดตามเกณฑ์ ต้องฉีดครบ 2 เข็ม ส่วนจะเอาเข็ม 1 มารวมเข็ม 2 เพื่อให้ยอดสูง ก็ยิ่งจะมั่วไปกันใหญ่

ตามข้อมูล ณ วันที่ 6 ต.ค.จำนวนผู้ฉีดเข็ม 2 สะสมยังอยู่แค่ 22,096,606 คน/โดส คิดเป็นแค่ร้อยละ 47.69 เท่านั้น ในเวลาที่เหลืออีกแค่ 8 วัน ยังเหลือต้องฉีดเข็ม 2 อีก 24,234,102 คน/โดส หรือต้องฉีดเข็ม 2 ให้ได้โดยเฉลี่ยวันละ 3,029,262  คน/โดส จึงจะถึงเป้าหมายร้อยละ 70

ถามว่าทำได้หรือ ในขณะที่ข้อมูลรวมการฉีดล่าสุด ณ 6 ต.ค. ฉีดได้แค่ 642,666 คน/โดส เท่านั้น หรืออัตราฉีดสูงสุดเคยทำได้ในวันมหิดล ก็เพียงแค่ 1.3 ล้านคนเท่านั้น

ทำไม่ได้พันเปอร์เซ็นต์แน่นอน! นายกฯ ประยุทธ์จะแก้ตัวยังไงก็ว่ามา

1)จะรับสารภาพตรง ๆ ว่าทำไม่ได้ “ขอยืด” เป็นสิ้นปี หรือ 2)จะมั่วเอาตัวเลขรวมเข็ม 1-2-3 และ 4 ซึ่งตอนนี้เกินกว่า 57 ล้านโดส มันก็ยังไม่ 100 ล้านโดสอยู่ดี

การยอมรับสารภาพตามตรงว่า 120 วันเปิดประเทศ” ทำไม่ได้ แล้วหาทางแก้ไขให้ดีที่สุด ยังจะดีเสียกว่าการ “บิดตะกูด” ไปเรื่อย ซึ่งไม่ช่วยแก้ไขปัญหาอะไรเลย และยิ่งจะทำให้ภาพพจน์ผู้นำตกต่ำลงไปอีก

สถานการณ์มาถึงขั้นนี้แล้ว 120 วัน เปิดประเทศไม่ได้ทั้งหมด แต่จะค่อย ๆ เปิดเฉพาะเป็นส่วน ๆ ไป ก็ว่ามา คนยังพอรับได้ และถ้าจะให้ดียิ่งขึ้นก็ต้องเตรียมความพร้อมเรื่อง “ยารักษาโควิด” มาให้ผู้ติดเชื้ออย่างทันท่วงที

อย่าให้เหมือนกับภาวะขาดแคลนยารักษาที่ผ่านมาเลย กว่าจะจ่ายยา “ฟาวิพิลาเวียร์” ได้ ก็ยังต้องรอให้เชื้อลงปอดเสียก่อนถึงจ่ายยาได้ แม้กระทั่ง “ฟ้าทะลายโจร” ก็ยังขาดแคลนเลย

แต่เดี๋ยวนี้ มีการค้นพบยาตำรับใหม่ “โมลนู พิลาเวียร์” ที่มีผลการทดลองใช้ได้ผลมากกว่า “ฟาวิพิลาเวียร์” หวังว่าจะเป็นสิ่งชดเชยที่ดีที่สุด สำหรับคำมั่นสัญญา “120 วัน เปิดประเทศไม่ได้”

ยังรอคำชี้แจงผู้นำเรื่องคำมั่นสัญญาที่ครบกำหนด 14 ตุลาฯ อยู่นะ

Back to top button