EMC-TCC ตรงปกหรือจกตา.!?
เมื่อจู่ ๆ EMC แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ จะเซ็น MOU กับบริษัทแห่งหนึ่ง เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ในการประกอบธุรกิจที่เกี่ยวกับวัสดุอุตสาหกรรมก่อสร้าง
ทำเอางงเป็นไก่ตาฟาง..!! เมื่อจู่ ๆ บริษัท อีเอ็มซี จำกัด (มหาชน) หรือ EMC แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ จะเซ็น MOU กับบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ แห่งหนึ่ง เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ในการประกอบธุรกิจที่เกี่ยวกับวัสดุอุตสาหกรรมก่อสร้าง...(ไม่บอกว่าเป็นบริษัทอะไร.!?)
และในวันเดียวกันบริษัท ไทย แคปปิตอล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TCC ก็แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ เหมือนกัน จะเซ็น MOU กับบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ แห่งหนึ่ง เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ในการประกอบธุรกิจจัดหา นําเข้า และจําหน่ายผลิตภัณฑ์จําพวก Eco-Energy Material เพื่อใช้ในอุตสาหกรรมสนามบิน ท่าเรือ ถนนคอนกรีต และการก่อสร้าง (ไม่ยอมบอกว่าเป็นบริษัทอะไร.!?) อีกเช่นกัน
ก็เลยคิดเป็นอื่นไปไม่ได้ ก็เป็น EMC กับ TCC นั่นแหละที่เซ็น MOU กัน..!?
แหม๊…ทำท่าปกปิดซะงั้น ทั้ง ๆ ที่เป็นเรื่องไม่ควรปกปิด ก็ไม่รู้ว่าทั้งสองบริษัทคิดอะไรอยู่นะ…
ประเด็นที่น่าคิด การเซ็น MOU ครั้งนี้ ให้กรอบเวลากว๊างกว้างยิ่งกว่ามวลน้ำหน้าเขื่อนซะอีก มีระยะเวลาเป็นปี โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2564 ถึง 30 ก.ย. 2565 ซึ่งสุดท้ายจะจบยังไง ก็ไม่ยอมบอก เพราะขนาดเซ็น MOU กับใคร แต่ละบริษัทยังไม่ยอมบอกเลย…เรื่องนี้แปลก…แต่จริง
ทำให้การเซ็น MOU ครั้งนี้ ถูกผูกโยงว่า แจ้งเพื่อวัตถุประสงค์ใดกับราคาหุ้นหรือเปล่า..? เพราะเป็นสตอรี่ใหม่ อาจทำให้นักลงทุนไขว้เขว แล้วเข้ามาไล่ราคาหุ้นทั้งสองตัวหรือเปล่า..?
การแจ้งที่คลุมเครือ ไม่ชัดเจน จึงทำให้ถูกตีความไปว่า เพื่อหวังผลการใดการหนึ่งหรือเปล่า..?
ขณะที่คุณลักษณะของหุ้นแต่ละตัวประวัติโชกโชน…อย่าง EMC นักลงทุนหลายคนคงจำได้ดี เมื่อสิบปีก่อนใครที่ลงทุนกับหุ้นตัวนี้น่าจะเจ็บมาเยอะ…ตอนนั้นมาพร้อมสตอรี่ใหม่ ก็ทำให้ราคาหุ้นวิ่งปรู๊ดปร๊าดอยู่พักหนึ่ง แต่สุดท้ายก็เงียบหายไป และครั้งนี้ด้วยกรอบเวลา 1 ปี ก็อาจรอคอยนานมาก ซึ่งไม่รู้จะหมู่หรือจ่า…
หันไปดูผลงานในช่วงที่ผ่านมาก็ลุ่ม ๆ ดอน ๆ…ปี 2560 ขาดทุน 673 ล้านบาท จากรายได้รวม 675 ล้านบาท ปี 2561 พลิกมามีกำไร 369 ล้านบาท จากรายได้รวม 2,186 ล้านบาท ปี 2562 กำไรลดวูบเหลือแค่ 3 ล้านบาท จากรายได้รวม 1,247 ล้านบาท และปี 2563 มีกำไร 59 ล้านบาท จากรายได้รวม 1,464 ล้านบาท
ส่วน TCC ก็ชัดเจนว่า ก่อนหน้านี้ราคาหุ้นมาพร้อมกับราคาถ่านหินโลกที่ปรับตัวสูงขึ้น แต่หลัง ๆ ชักเริ่มอิ่มตัว ไปไม่เป็นซะแล้ว ขณะที่ผลงานก็ยังไม่โอเค…ปี 2560 มีรายได้รวม 1,303 ล้านบาท ขาดทุน 60 ล้านบาท ปี 2561 มีรายได้รวม 1,336 ล้านบาท พลิกมามีกำไร 4 ล้านบาท ปี 2562 มีรายได้ 708 ล้านบาท ขาดทุน 15 ล้านบาท และปี 2563 มีรายได้รวม 483 ล้านบาท ขาดทุน 21 ล้านบาท
และด้วยเป็นโฮลดิ้ง คอมปานี ก็ต้องหาแอสเซทเข้าใส่ในกระดองเพิ่ม…ดังนั้น สิ่งที่เป็นสตอรี่ใหม่ ก็เรื่องนี้แหละ แต่ด้วยกรอบเวลาที่กว้างเป็นแม่น้ำ 5 สาย สุดท้ายอาจเป็นแค่เซนติเมนต์กับราคาหุ้นหรือเปล่า..?
ขณะที่วานนี้ (7 ต.ค.) ราคาหุ้น EMC ปรับขึ้นไป 3.70% สวนทางกับ TCC ที่ราคาร่วงไป 6.55% (แต่เคส TCC ยังอยู่ระหว่างถูกจับขังคุกแคชบาลานซ์แดน ตั้งแต่ 21 ก.ย.–11 ต.ค. 2564) ถ้าหลุดแคชบาลานซ์เมื่อไหร่ คงออกมาซิ่งอีกแหง ๆ….
ก็น่าคิดว่า ดีลนี้จะตรงปก (เป็นดีลดัน) หรือแค่จกตา (เป็นดีลดับ) กันแน่..!?
แต่ที่แน่ ๆ นักลงทุนต้องรอถึง 1 ปีเชียวน๊า…
…อิ อิ อิ…