1,750 เป้าใหญ่

*นักเล่นหลายรายอาจรู้สึกอึดอัดใจอย่างแรงเมื่อพบว่า การทะยานขึ้นของหุ้นหลายตัวไม่เป็นไปอย่างที่คิดไว้ ส่งผลให้ตัวเองเริ่มไปไม่ถูกนั้น “โมนิก้า” ถือเป็นเรื่องที่แฟนคลับทุกคนรู้อยู่แล้วว่า กำลังจะเกิดอะไรขึ้น! แต่เผอิญคิดเข้าข้างตัวเองมากเกินไปหน่อย จึงเผลอไผลไปกับอารมณ์ของตลาดหุ้นเป็นประจำ รวมทั้งหลงลืมเรื่องระเบียบวินัยในการลงทุน ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นในเที่ยวนี้เลยทำให้ว้าวุ่นใจไงล่ะคะ

*ประเด็นข้างต้นที่ทำให้ “โมนิก้า” ต้องหยิบยกขึ้นมาเม้าท์กันแบบยาว ๆ เพราะเป็นเรื่องของอนาคตที่นักเล่นต้องอ่านเกมไปทีละช็อต ซึ่งไล่เรียงตั้งแต่หุ้นแบงก์จะทยอยประกาศงบไตรมาส 3 และตามด้วยหุ้นกลุ่มอื่น ๆ ต่อจากนั้นจะเป็นเรื่องของการเปิดประเทศ ซึ่งแต่ละเรื่องที่เล่าให้ฟังมาทั้งหมด ล้วนส่งผลกระทบโดยตรงกับการเคลื่อนตัวของดัชนีเป็นระลอกนะจะบอกให้

*ฉะนั้นการที่ดัชนียืนปิด 1,639.41 จุด บวกไป 5.69 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 9.29 หมื่นล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์ที่ทำให้รู้ว่า เหล่านักเล่นควรไปกันทีละช็อต และควรมองไปที่เป้าใหญ่ 1,750 จุดมากเป็นพิเศษ? เนื่องจากสมาคมโบรกเกอร์แสดงความเห็นไว้ว่า หุ้นไทยจะไปถึงตรงนั้นในปีหน้า! ซึ่งเป็นไกด์ไลน์สำคัญที่แฟนคลับควรนำไปประกอบการเคาะขวาตั้งแต่เนิ่น ๆ เพื่อจะได้มีเวลาวางระบบการเล่นนะจ๊ะ

*ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจนสุดในเที่ยวนี้ก็คือ KBANK อุตส่าห์ทะยานขึ้นแรงเป็นช่วง ๆ แต่ก็โดนกดลงมาเป็นรอบ ๆ สุดท้ายก็ยังเดินหน้าขึ้นไปทำจุดสูงสุดใหม่ในรอบหลายเดือนได้อีกแบบนี้ “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องของการผ่านจุดต่ำสุดในการทำธุรกิจ จึงเชื่อได้ว่า การขึ้นไปยืนใกล้เคียงกับ BV ที่ระดับ 192 บาทได้ไม่ยากเย็น แม้ว่าเกิดการพักฐาน โดยราคาล่าสุดอยู่ที่ 140 บาท ลดลง 1.50 บาท หรือลงไป 1.06% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.61 พันล้านบาทน่ะซี

*เช่นเดียวกับในรายของ ACE กำลังฟอร์มตัวเพื่อไต่ระดับขึ้นไปทดสอบแนวต้าน 4.20 บาทอีกครั้งแบบนี้ “โมนิก้า” มองเป็นจังหวะของการตามกระแสแบบชิล ๆ เพราะรอบการเล่นในอดีตก็อยู่แถว ๆ 3.60-4.20 บาท เดี๊ยนถึงเชื่อว่า การยืนปิดที่ระดับ 3.66 บาท ลดลง 0.02 บาท หรือลงไป 0.54% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 338 ล้านบาท ยังอยู่ในรูปขบวน side way จึงต้องดูเหตุการณ์ในวันนี้เพื่อพิสูจน์ว่า มีแรงซื้อเข้ามาดันเยอะไหม?

*เหตุการณ์ดังกล่าวคล้ายคลึงกับ JAS พยายามยกตัวสูงขึ้นตลอดเวลา แต่แรงซื้อยังไม่มากพอที่จะเปลี่ยนฐานอย่างบูรณาการ เลยทำได้ดีสุดแค่ยืนปิดที่ระดับ 3.24 บาท บวกไป 0.26 บาท หรือขึ้นไป 8.72% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.13 พันล้านบาท  ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่หุ้นแกว่งตัวไปมาในกรอบ 2.80-3.28 บาท ไม่ต่ำกว่า 3-4 รอบด้วยกัน “โมนิก้า” ถึงพยายามบอกให้แฟนคลับ “ข่าวหุ้น” รู้จักปรับตัวให้เข้ากับการลงทุนแบบสั้น ๆ เพื่อความคล่องตัวในการลงทุนไงล่ะคะ

*เหมือนกับในรายของ UBE ทุกคนต่างรับรู้สตอรี่ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างดี และมองเห็นกำไรไตรมาส 4 น่าจะออกมาสวยหรูตามแผนธุรกิจที่วางไว้ แต่สเต็ปการขึ้นของหุ้นยังเป็นลักษณะ “ขึ้นแล้วพัก” ซึ่งเป็นจังหวะของการเข้าทำสั้น ๆ “โมนิก้า” เลยคิดว่า การยืนปิดที่ระดับ 2.16 บาท  บวกไป 0.02 บาท หรือขึ้นไป 0.93% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 393 ล้านบาท น่าสนใจไม่ใช่น้อย! งานนี้ขึ้นอยู่กับนักเล่นมองเห็นเหมือนกับที่อีฉันมองเห็นอ๊ะป่าว..ววว

*ส่วนหุ้นที่กำลังฟอร์มตัวเพื่อไต่ระดับขึ้นไปอีก “โมนิก้า” ขอโฟกัสไปที่หุ้น SHR เพื่อเป็นทางเลือกให้กับนักเล่นที่ชอบตามกระแสสั้น ๆ เพราะของมันเห็นกันอยู่แล้วว่า ทิศทางของหุ้นเป็นลักษณะแกว่งตัวขึ้นต่อเนื่อง (ผลงานของบริษัทยังขาดทุนตัวแดงแป๊ด) ขณะที่ราคาปิดล่าสุดอยู่ที่ 3.68 บาท ไม่มีการเปลี่ยนแปลง ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 172 ล้านบาท มันเอื้อให้พวก “คิดเร็ว ทำเร็ว” กระโจนเข้าใส่เพื่อหาขนมเล็ก ๆ น้อย ๆ นะจะบอกให้

*เม้าท์ถึงการเปลี่ยนแปลงขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” ต้องหันมามอง UKEM เป็นระยะเหมือนกัน เพราะรายนี้มีสตอรี่ดี ๆ ซ่อนไว้เยอะเลยทีเดียว แถมพรายกระซิบเม้าท์ให้ฟังว่า ข่าวดีกำลังถูกปล่อยออกมาเป็นระลอก ราคาหุ้นเลยไม่รู้จักคำว่า “ลง” เมื่อวันศุกร์หุ้นถึงยืนปิดที่ระดับ 3.30 บาท บวกไป 0.20 บาท หรือขึ้นไป 6.45% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 595 ล้านบาท เดี๊ยนถือเป็นทางเลือกสำหรับคนที่กำลังมองหาหุ้นที่เตรียมบุ๊กกำไรพิเศษนะคะ